MGC บวกต่อ 6% แย้มครึ่งหลังโตทุกธุรกิจ ตุนแบ็กล็อกส่งมอบรถ-เรือกว่า 1,200 รายการ

MGC บวกต่อ 6% แย้มครึ่งหลังโตทุกกลุ่มธุรกิจ เล็งรับรู้รายได้จากศูนย์ซ่อมสี/ตัวถังรถยนต์ TESLA ภายในไตรมาส 3/66 ตุนแบ็กล็อกส่งมอบรถ-เรือกว่า 1,200 รายการ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ส.ค. 66) ราคาหุ้นบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC ณ เวลา 12:13 น. อยู่ที่ 8.00 บาท บวก 0.45 บาท หรือ 5.96% สูงสุดที่ระดับ 8.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 7.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37.68 ล้านบาท ราคาหุ้นวิ่ง 2 วันติด โดยนับจากวานนี้(18 ส.ค.66)ปิดที่ระดับ 7.55 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.03%

โดยก่อนหน้าดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 103 ล้านบาท และมีรายได้รวม 6,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,154 ล้านบาท

โดยส่งผลให้ 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 165 ล้านบาท และมีรายได้รวม 12,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 10,694 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งและเครื่องแต่งกายที่เกี่ยวข้อง 77.8% ธุรกิจให้บริการหลังการขายจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์และให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ 14.6% ธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับ 6.2% และธุรกิจอื่น ๆ 1.4%

ขณะที่มีเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นดังนี้1. ในเดือน เมษายน 2566 บริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 280 ล้านหุ้นราคาเสนอขาย 7.95 บาท,2. บริษัทได้ชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด (การร่วมค้า) รวมเป็นจำนวน 375 ล้านบาท, 3. การขยายสาขาของกลุ่มธุรกิจให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระของ MMS Bosch Car Service โดยมีการเปิดสาขาใหม่ 4 สาขาและการขยายสาขา Millennium Auto สาขาสุราษฎร์ธานี,4. รายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจากยอดจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ BMW, Rolls Royce, เรือยอชต์ Azimut และเรือแม่น้ำ Chris Craft ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างดี และ5. เริ่มมีการรับรู้รายได้จากศูนย์ย้อมสีและตัวถังของ Tesla ในไตรมาส 2/2566

นอกจากนี้ในเดือน เมษายน 2566 บริษัทย่อยได้จ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ได้กู้ยืมมาเพื่อจ่ายค่าตอบแทนการเช่าให้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกันสำหรับการเข้าทำสัญญาเช่าและเช่าช่วงที่ดินและสิ่งปลูกสร้างระยะยาวของบริษัทย่อย เพื่อใช้เป็นศูนย์จัดจำหน่ายรถยนต์ของกลุ่มบริษัท ซึ่งเงินกู้ยืมดังกล่าวได้กู้มาเมื่อเดือน กันยายน 2565 ทำให้ไตรมาส 2/2566 มีดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่เกิดขึ้นจากรายการนี้ประมาณ 27 ล้านบาท และ 6 เดือนแรกของปี 2566 ประมาณ 8 ล้านบาท

“ในไตรมาส 2/2565 ไม่มีดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากรายการนี้หากไม่รวมรายการดังกล่าวจะส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาส 2/2566 จะมีกำไรสุทธิ 125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน”  ดร.สัณหวุฒิ กล่าว

สำหรับจำนวนรถ/เรือรอที่ส่งมอบ (Backlog) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 มีทุกยี่ห้อรวม 1,261 รายการ โดยยังไม่รวมยอดขายที่เกิดขึ้นในครึ่งปีหลังจะมีการร่วมงาน Big Auto Sale, Mobility Carnival, BMW Expo และ Motor Expo พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งคาดว่าสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างมาก

ดร.สัณหวุฒิ กล่าวอีกว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทคาดการณ์จะเติบโตทุกกลุ่มตามแผนงานที่วางไว้ โดยกลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากยอดขายรถที่รอส่งมอบมากกว่า 1,000 คัน จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ อาทิ Rolls-Royce, BMW, Honda ฯลฯ ขณะที่ธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ กลุ่มบริษัทเตรียมรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/2566 หลังเปิดตัวศูนย์ซ่อมสีและตัวถังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า TESLA ที่ผ่านการรับรอง มาตรฐานอย่างเป็นทางการจากบริษัทผู้ผลิต (TESLA Approved Body and Paint Service Center) เพื่อรองรับการเติบโต

Back to top button