TTB บวกแรง 7% นิวไฮรอบ 5 เดือน โบรกเชียร์ “ซื้อ” อัพกำไรปี 67-68 พ่วงเป้าใหม่ 2.10 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ม.ค. 67) ราคาหุ้น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ณ เวลา 14.56 น. อยู่ที่ระดับ 1.80 บาท บวก 0.11 บาท หรือ 6.51% สูงสุดที่ระดับ 1.81 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.76บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.68 พันล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮรอบ 5 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 1.80 บาท เมื่อวันที่ 23 ส.ค.66

บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(22 ม.ค.67) TTB แนะนำซื้อปรับราคาเป้าขึ้นเป็น 2.10 บาท จากเดิมที่ 1.95 บาท อิง PBV 2024E ที่ 0.80 เท่า(-0.75SD below 10-yr average PBV) จากการปรับกำไรและ PBV เพิ่มขึ้น โดยมีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้เพราะการประกาศเป้าหมายการเติบโตปี 2567 ทำให้กำไรมี upside เพิ่มจาก NIM และ Tax benefit ประกอบกับกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ดีกว่าคาด อยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท (โต 27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) เพราะมีผลประโยชน์ทางภาษีรับเข้ามาช่วย แต่ถูกชดเชยจากการนำไปตั้งสำรองฯเพิ่ม ขณะที่มีรายได้ค่าธรรมเนียมมากกว่าคาด เพิ่มขึ้นได้ +5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า (ถือว่าทำได้ดีกว่ากลุ่ม) ส่วน NPL ลดลงต่อเนื่องได้ดีมาอยู่ที่ 2.62% ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 2.67%

ทั้งนี้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567/2568 เพิ่มขึ้นโต 13% และโต 11% จากการปรับ NIM เพิ่มขึ้น +14bps เพราะ NIM ปี 66 ดีกว่าคาด 20bps และมีการใส่ Tax benefit เพิ่มปีละ 3.1 พันล้านบาท (คิดแบบ conservative โดยคาดว่าจะเข้าแบบเส้นตรง 5 ปี จากมูลค่า 1.55 หมื่นล้านบาท แต่จริงๆ TTB น่าจะมีการใช้น้อยกว่า 5 ปี) จากปี 2566 ที่ไม่เคยใส่เลย แต่มีการบันทึกเข้ามาในงบราว 5 พันล้านบาท ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นได้ดีสูงสุดในกลุ่มที่โต 13% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่คาดกำไรไตรมาส 1/67 จะเพิ่มขึ้นได้ทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า จากการรุกสินเชื่อรายย่อยที่ผลตอบแทนสูงราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น +2% เมื่อเทียบกับ SET ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เพราะกำไรไตรมาส 4/66 ที่มากกว่าคาด (ดีติดต่อกันมา 9 ไตรมาส) ด้านราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ PBV ที่ 0.73 เท่าที่ระดับ -1.00SD below 10-yr average PBV ขณะที่การเติบโตของกำไรปี 2567 จะโตได้สูงที่สุดในกลุ่มที่ 13% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมี Dividend yield สูงถึง 6-7% ทำให้เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”