MCOT ตั้งเป้าปี 59 รายได้รวมโต 14% แตะ 4.2 พันลบ.

MCOT ตั้งเป้าปี 59 รายได้รวมโต 14% แตะ 4.2 พันลบ. ตั้งงบลงทุนรวมในปีนี้ราว 2 พันลบ. เผยอยู่ระหว่างพิจารณาคืนคลื่น 2600MHz ให้รัฐ คาดได้ข้อสรุป Q1/59


นายศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมในปีนี้ราว 14% แตะ 4,200 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากธุรกิจโทรทัศน์เป็นหลัก แต่ในส่วนของกำไรสุทธิน่าจะยังได้รับผลกระทบจากการลงทุนในธุรกิจทีวีดิจิตอล ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะจึงจะเห็นผลกระทบทางบวกที่ชัดเจน ประกอบกับการแข่งขันที่รุนแรง จึงคาดว่าจะเห็นกำไรสุทธิฟื้นตัวชัดเจนขึ้นตั้งแต่ปี 60-61 เป็นต้นไป

โดยบริษัทตั้งงบลงทุนรวมในปีนี้ราว 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจทีวีดิจิตอล โดยเฉพาะการผลิตคอนเทนท์ราว 700-800 ล้านบาท สูงกว่าเท่าตัวจากปี 58 ส่วนงบที่เหลือเป็นการจ่ายค่าการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (VNO) และค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอล

ส่วนสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับทีวีดิจิตอลในปีนี้ คือ อุตสาหกรรมโฆษณาคงเติบโตไม่มาก เพราะการใช้สื่อโฆษณาจะกระจายออกไป มีการช่วงชิงเม็ดเงินโฆษณาในกลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลด้วยกันมากขึ้น แต่ประเด็นหลักอยู่ที่นโยบายสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

สำหรับในส่วนของ MCOT ที่ได้มา 2 ช่องวาไรตี้เอชดีและช่องเด็ก ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอนโยบายของ กสทช.โดยอาจตัดช่องเด็กออกไป เหลือช่องวาไรตี้ช่องเดียวหาก กสทช.อนุญาตและมีเงื่อนไขพิเศษในเรื่องราคาว่าหากคืใบอนุญาตแล้วไม่ต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลือ หรือสามารถคืนใบอนุญาตโดยไม่ผิดเงื่อนไข

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มไตรมาส 1/59 รายได้จากการดำเนินงานธุรกิจทีวียังไม่ค่อยดีนัก โดยคาดว่ารายได้โฆษณาทางโทรทัศน์น่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.โดยในปีนี้ถือว่าเป็นโอกาสของช่อง 9 เมื่อภาครัฐต้องการโฆษณาประชาสัมพันธ์นโยบายและโครงการต่าง ๆ ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจโทรทัศน์ 55% เนื่องจากช่อง 9 เป็นช่องทางเลือกที่ชัดเจน ซึ่งในเดือน ก.พ.นี้จะมีรายการใหม่เพิ่มเรื่อยๆ เช่น เกมโชว์ ไอดีลักกี้นัมเบอร์  เป็นต้น

สำหรับที่ดินข้างศูนย์วัฒนธรรมพื้นที่ประมาณ 50 ไร่นั้น บริษัทอยู่ระหว่างว่าจ้างที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์เข้ามาศึกษา คาดว่าจะสามารถสรุปแนวทางการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวภายในเดือน มี.ค. ซึ่งขณะนี้มีผู้แสดงความสนใจเป็นจำนวนมาก

“อะไรที่เป็นข้อเสนอที่จะให้ผลตอบแทนต่อองค์กรดีที่สุดก็จะเลือกแนวทางนั้น ที่แปลงนี้ต้องแบ่งเป็นโซนเพราะพื้นที่ที่ติดศูนย์วัฒนธรรม การก่อสร้างจะไม่สูงเกิน 9 เมตร ถัดออกมา 23 เมตรได้ อีกโซนถ้ารถไฟฟ้าสายสีส้มมา จะขยายให้สูงขึ้นก็ได้ จึงยังบอกไม่ได้ว่าราคาประเมินเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไร เดือนมี.ค.จะเห็นชัดทั้งการตลาด ตัวเลขทางการเงิน กรอบชัดเจนอยู่ที่ผลวิเคราะห์จะออกมา”นายศิวะพร กล่าว

ส่วนคลื่น 2600MHz ที่ MCOT ถือครองนั้นอาจต้องส่งคืนให้กับทางรัฐ แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกสทช.คาดว่าจะได้ข้อสรุปไตรมาส 1/59

Back to top button