
GPSC พุ่ง 6% โชว์กำไร Q2 ทะลุ 2 พันล้าน โกยเงินปันผล-ค่า Fx หนุน
GPSC วิ่งแรง 6% หลังโชว์กำไรไตรมาส 2 โต 41% ทะลุ 2 พันล้านบาท หลังโกยเงินปันผลรับ-ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มเกือบ 400% พร้อมมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงต้นทุนทางการเงินลดลง หนุนงวดครึ่งปีแรก กวาดกำไรสุทธิ 3,159 ล้านบาท โต 38%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ส.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ณ เวลา 10:15 น. อยู่ที่ระดับ 35.75 บาท บวก 2 บาท หรือ 5.93% สูงสุดที่ระดับ 36.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 35.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 243.01 ล้านบาท
นางพรรณพร ศาสนนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน GPSC กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 2,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,429 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 3,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,293 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/2568 มีเงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า 588 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 467 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 388% สาเหตุหลักมาจากโครงการร่วมทุนในพลังงานลมนอกชายฝั่ง (CFXD) รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐของโครงการ CFXD เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่แข็งค่า
ขณะที่ผลการดำเนินงานตามปกติปรับตัวลดลงตามฤดูกาล โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี (XPCL) ผลการดำเนินงานดีขึ้นจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีนและปรากฏการณ์ลานีญา ด้านบริษัท Avaada Energy Private Limited (AEPL) รับรู้รายได้ทางภาษีซึ่งรับรู้เป็นขาดทุนในปี 2564 จากการไถ่ถอนตราสารหนี้ก่อนกำหนดในปี 2564 ขณะที่ผลการดำเนินงานตามปกติลดลงตามฤดูกาลที่มีความเข้มแสงต่ำในช่วงไตรมาส 2 ของปี
ด้านกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ (FX) จำนวน 301 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 57 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่แข็งค่า ส่งผลให้เกิดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจาก การบันทึกปรับมูลค่าเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐที่บริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล ชินเนอร์ยี่ จำกัด (GRSCTW) กู้ผ่านบริษัท จีพีเอสซี ศูนย์บริหารเงิน จำกัด (GPSCTC) เพื่อรองรับการลงทุนในโครงการ CFXD
ส่วนต้นทุนทางการเงิน จำนวน 1,292 ล้านบาท ลดลง 88 ล้านบาทหรือลดลง 6% จากการชำระคืนเงินกู้บางส่วน และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการด้านโครงสร้างเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การลดลงของต้นทุนทางการเงินยังสะท้อนถึงสถานะกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งมากขึ้นของบริษัท ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ให้กู้ โดยสะท้อนผ่านมุมมองความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพ (Stable Outlook) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด(Fitch Rating) ซึ่งสะท้อนความก้าวหน้าในการลดระดับหนี้ และความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้อย่างมั่นคง
ขณะที่กำไรขั้นต้น 5,123 ล้านบาท ลดลง 126 ล้านบาท หรือลดลง 2% สาเหตุหลักมาจากค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าศรีราชาปรับตัวลดลงเนื่องจากจ่ายไฟฟ้าครบตามชั่วโมงที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในเดือน พ.ค.2568
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยมีสาเหตุหลักเนื่องจาก เงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า จำนวน 709 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 23 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก AEPL ผลประกอบการดีขึ้น ตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น และมีการรับรู้รายได้ทางภาษีซึ่งรับรู้เป็นขาดทุนในปี 2564 จากการไถ่ถอนตราสารหนี้ก่อนกำหนดในปี 2564