
KCC เด้งแรง 28% รับกำไร Q2 โต 3 เท่าตัว ไฟเขียวปันผล 0.0169 บ. ขึ้น XD 27 ส.ค.นี้
KCC บวก 28% หลังรายงานกำไรไตรมาส 2/68 แตะ 98.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 332% หนุนครึ่งปีแรกมีกำไร 112.40 ล้านบาท รับรายได้พอร์ต NPL สะท้อนผลการบริหารลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมจ่ายปันผล 0.0169 บาท กำหนดขึ้น XD 27 ส.ค. นี้ และจ่ายเงินวันที่ 12 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ 13 ส.ค.68 ราคาหุ้น บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ KCC ณ เวลา 11.48 น. อยู่ที่ระดับ 2.14 บาท บวก 0.48 บาท หรือ 28.92% สูงสุดที่ระดับ 2.16 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.14 บาท ด้วย มูลค่าการซื้อขาย 5.74 ล้านบาท
นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KCC ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ดำเนินการลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เปิดเผยถึงผลดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในงวดไตรมาส 2 ปี 2568 ว่ากลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 98.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 332% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.8 ล้านบาท หนุนให้งวดครึ่งแรกปี 2568 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิรวม 112.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 187% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.2 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมจำนวน 171.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 69.7 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนบริษัทมีรายได้รวม 231.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 131.5 ล้านบาท
“การเพิ่มขึ้นของรายได้รวมในงวดนี้เป็นผลจากการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทไม่ได้มีรายการพิเศษใดๆ แต่เป็นผลลัพธ์โดยตรงจากประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริษัทได้จัดหาบริหารไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งโดยปกติในช่วงเริ่มต้นของการเข้าซื้อ NPL เข้าพอร์ต มักจะยังไม่สร้างรายได้ทันที เนื่องจากต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ เจรจา ปรับโครงสร้างหนี้ และดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อพอร์ตเข้าสู่ช่วงที่เหมาะสม ผลตอบแทนจากการบริหารจะเริ่มสะท้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ ที่สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารพอร์ตหนี้ที่เริ่มสร้างผลตอบแทนอย่างเป็นรูปธรรมหลังจากช่วงเวลาการจัดหาและบริหารสินทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ” นายทวี กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทได้เข้าลงทุน ซื้อพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้น จำนวน 187 ล้านบาท การขยายพอร์ตเป็นไปตามกลยุทธ์ระยะยาวในการเพิ่มฐานสินทรัพย์ของบริษัท และเพิ่มโอกาสสร้างกระแสเงินสดในอนาคตและผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนและหนุนการเติบโตระยะยาวและยั่งยืน ให้กับบริษัทหนุนให้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 สินทรัพย์รวมของบริษัทขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2,586.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากสิ้นปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2,496 ล้านบาท ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นขึ้นมาอยู่ที่ 1,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,208 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เกิดจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสะสม ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากผลการดำเนินงานที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท
บริษัทมีหุ้นกู้จำนวนหนึ่งที่จะครบกำหนดไถ่ถอนภายในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งบริษัทได้วางแผนและจัดเตรียมเงินทุนสำหรับการชำระคืนหุ้นกู้ดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถชำระหนี้ได้ตาม
กำหนดโดยไม่กระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินงานของบริษัท และสำหรับหุ้นกู้ที่เหลืออยู่บริษัทได้ดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการเงินอย่างรอบคอบ ผ่านการติดตามภาวะตลาดเงิน การวางแผนกระแสเงินสดและการกระจายแหล่งเงินทุน เพื่อรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับเหมาะสมและรองรับการชำระคืนภาระหนี้ในอนาคต
นอกจากนี้ คณะกรรมการมีมติเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา อนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด 0.0169 บาทต่อหุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล XD วันที่ 27 สิงหาคม 2568 พร้อมจ่ายเงินปันผล 12 กันยายน 2568