
CRC วิ่ง 3% ลุ้นครึ่งปีหลังโตรับ “ไฮซีซั่น” ดันยอดขายพุ่ง!
CRC บวก 3% รับสัญญาณครึ่งปีหลังสดใส ยอดขายสาขาเดิม Q3/68 โตต่อจากไตรมาสก่อน จับตางบรัฐ–ดอกเบี้ยขาลงหนุนกำลังซื้อ พร้อมอานิสงส์ไฮซีซัน Q4 และแผนรุกขยายสาขาใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ส.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ณ เวลา 10:23 น. อยู่ที่ระดับ 20.20 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 2.54% สูงสุดที่ระดับ 20.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 19.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35.58 ล้านบาท
นางสาวรังสิรัชต์ พรสุธี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานนักลงทุนสัมพันธ์ และการบริหารความเสี่ยง CRC เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 คาดไตรมาส 3/2568 น่าจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 2/2568 เนื่องจากอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 มาจนถึงปัจจุบันมีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ยังมีมาตรการหลายด้าน เพื่อรับมือกับสิ่งที่ท้าทาย และเศรษฐกิจที่ผันผวน ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการต้นทุนและค่าใช้จ่ายโดยรวม รวมถึงรักษาศักยภาพทางด้านการเงินให้แข็งแกร่ง และไตรมาส 4/2568 เข้าช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจด้วย
“บริษัทยังคงต้องรอดูปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมก่อน ทั้งการเบิกจ่ายงบของภาครัฐ การลดดอกเบี้ย และช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจในไตรมาส 4/2568 โดยยังต้องติดตามสภาพเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยในช่วงที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจไทยค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง และภาคการท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศน้อยลง ส่วนประเทศเวียดนาม การบริโภคภายในประเทศ และภาคการท่องเที่ยวยังเห็นการขยายตัว และผลิตภัณฑ์มวลรวมที่เติบโตได้ดี ส่วนประเทศอิตาลี การจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างชะลอตัว” นางสาวรังสิรัชต์ กล่าว
สำหรับในปี 2568 บริษัทมีแผนการขยายสาขา ทั้งสาขาขนาดใหญ่ และสาขาขนาดเล็ก แบ่งเป็น
1.กลุ่มห้างสรรพสินค้า ในปีนี้ไม่มีแผนการขยายสาขาเพิ่ม แต่จะเน้นการปรับปรุงสาขาเป็นหลัก จากปัจจุบันมีห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล โรบินสัน ทั้งหมด 85 สาขา
2.กลุ่มไทวัสดุ โดยในปีนี้มีแผนเปิด 3 สาขาใหม่ ซึ่งในครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 1 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮม ทั้งหมด 87 สาขา โดยกลุ่มไทวัสดุในช่วง 6 เดือนแรก ทำผลการดำเนินงานได้ค่อนข้างดี โดยมียอดขายรวมเติบโต และยอดขายสาขาเดิมที่ทำได้ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน ส่วนไตรมาส 3/2568 ช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ยังเห็นยอดขายสาขาเดิมดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2568 รวมถึงมีความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นที่ดี จากการควบคุมค่าใช้จ่าย และการปรับส่วนประสมของผลิตภันฑ์ที่ดี
3.กลุ่มท็อปส์ (Tops) ในปีนี้มีแผนเปิดให้บริการ 10 สาขาใหม่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกเปิดให้บริการไปแล้ว 4 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาเปิดให้บริการทั้งหมด 179 สาขา
4.กลุ่มโก โฮลเซลล์ (GO Wholesale) ในปีนี้มีแผนเปิดให้บริการ 4 สาขาใหม่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกเปิดให้บริการไปแล้ว 3 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาเปิดให้บริการทั้งหมด 13 สาขา
5.กลุ่มโก! มอลล์ (GO! Malls) และโก! ไฮเปอร์ส (GO! Hypers) โดยในปี 2568 มีแผนเปิดให้บริการอย่างละ 2 สาขาใหม่ จากปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการทั้งหมด 42 สาขา และ 41 สาขา ตามลำดับ และ
6.กลุ่ม โก! (go!) ซึ่งเป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในเวียดนาม ในปีนี้มีแผนเปิดให้บริการรวม 2 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาเปิดให้บริการทั้งหมด 14 สาขา