
EV-BYD-NEX กอดคอบวก! ลุยชิงเค้ก “รถเมล์อีวี” ขสมก. วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท
EV-BYD-NEX กอดคอบวก รับข่าว ขสมก.ประกาศร่าง TOR เช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศ EV กว่า 1,520 คัน วงเงิน 15,355 ล้านบาท หลังเฮียริ่งเสร็จ 26 ก.ย.นี้ ด้าน EA พร้อมลงแข่งประกวดราคากลุ่มนครชัยแอร์, เฟิสท์ ทรานสปอร์ต, พนัส แอสเซมบลีย์ เตรียมปิดดีลรถหัวลากอีวี กับ ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ เร็ว ๆ นี้ ตั้งเป้าเคลียร์สต๊อก 600 คัน มูลค่ากว่า 2.3 พันล้านบาท หมดภายในปีนี้ เดินหน้าโครงการร่วมทุนรัฐบาล สปป.ลาว บริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าสะอาดแบบรวมศูนย์
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (22 ก.ย.68) ราคาหุ้นกลุ่มอีเอปรับตัวขึ้นยกแผงตอบรับข่าว ขสมก. ประกาศร่าง TOR โครงการ เช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศ EV กว่า 1,520 คัน วงเงิน 15,355 ล้านบาท นำโดย บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA อยู่ที่ระดับ 3.76 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 4.44% สูงสุดที่ระดับ 3.84 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.68 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 476.32 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD อยู่ที่ระดับ 0.87 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 6.10% สูงสุดที่ระดับ 0.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.82 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30.89 ล้านบาท
บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX อยู่ที่ระดับ 1.49 บาท บวก 1.48 บาท หรือ 0.68% สูงสุดที่ระดับ 1.52 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.45 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29.25 ล้านบาท
นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ขสมก. ได้ประกาศร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน ระยะเวลา 7 ปี วงเงิน 15,355.6 ล้านบาท บนเว็บไซต์ ขสมก.แล้ว โดยมีกำหนดรับฟังความคิดเห็นถึงวันที่ 26 กันยายน 2568 หากไม่มีข้อเสนอ หรือความคิดเห็นที่เป็นนัยสำคัญเพิ่มเติม ขสมก.ก็จะเริ่มการเปิดประกวดราคาทันที แต่หากมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมก็จะต้องมาพิจารณาปรับปรุงเงื่อนไข TOR ให้มีความเหมาะสมก่อน
สำหรับสาระสำคัญในเงื่อนไข TOR เช่น คุณสมบัติเพิ่มเติมของผู้เสนอราคา ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ มีผลงานการให้เช่า หรือเช่าพร้อมซ่อมบำรุงรถยนต์หรือรถโดยสาร วงเงินไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อสัญญา เป็นผลงานในสัญญาเดียวเท่านั้น และเป็นสัญญาที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้ทำงาน โดยมีเอกสารยืนยันการทำงาน เช่น สัญญาจ้าง เป็นต้น ซึ่งผลงานดังกล่าวเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่ ขสมก.เชื่อถือ หรือเป็นผู้มีรายได้จากการให้เช่า หรือเช่าพร้อมซ่อมบำรุงรถยนต์หรือรถโดยสาร หรือประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร วงเงินไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยอ้างอิงจากเอกสารที่ยื่นกับกรมสรรพากร
ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องใช้วัตถุดิบ หรือชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ (Local Content) ในการประกอบรถโดยสาร ไม่น้อยกว่า 40% โดยต้องแสดงหลักฐานการรับรองจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในวันที่ยื่นข้อเสนอ, ผู้ยื่นข้อเสนอต้องเสนอราคาค่าเช่ารถโดยสารปรับอากาศพลังงาน EV จำนวน 1,520 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้า ระยะเวลา 7 ปี มีราคากลาง (กำหนด ณ วันที่ 19 ก.ย. 2568) ที่ 19.70 บาทต่อกิโลเมตรต่อวันต่อคัน เป็นเงินทั้งสิ้น 15,301.38 ล้านบาท โดยคิดราคารวมทั้งสิ้นทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอากรอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียนและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งปวง ขณะที่ ขสมก.จะใช้หลักเกณฑ์ราคาในการพิจารณาผู้ชนะการเสนอราคา โดยจะพิจารณาจากราคารวมต่ำสุด
สำหรับแหล่งที่มาของราคากลาง (ราคาอ้างอิง) คือ จากบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด, บริษัท เฟิสท์ ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด และบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX
โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องสามารถจัดหารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงาน EV เพื่อให้ ขสมก. สามารถให้บริการตามที่ ขสมก.กำหนด โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดการเช่ารถโดยสารปรับอากาศพลังงาน EV จำนวน 1,520 คัน รวมถึงรายละเอียดการบำรุงรักษารถโดยสารที่กำหนดไว้ใน TOR และผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องวางหลักประกันการเสนอราคามาพร้อมกับการเสนอราคาจำนวน 767.78 ล้านบาท
ด้านคุณสมบัติรถโดยสาร EV ที่ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับงานต้องจัดหาตามข้อกำหนด TOR ดังกล่าว เช่น ต้องเป็นรถโดยสารชานต่ำ (Low Floor) ยาวไม่น้อยกว่า 10.5 เมตร กว้างไม่เกิน 2.55 เมตร, จำนวนที่นั่งไม่น้อยกว่า 31 ที่นั่ง รองรับผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 60 คน, ขนาดแบตเตอร์รี่ต้องมีความจุไม่น้อยกว่า 250 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และรับประกันคุณภาพไม่น้อยกว่า 7 ปี, การชาร์จต่อ 1 ครั้งต้องวิ่งได้ในระยะทางไม่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตร เป็นต้น
โดยผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับงานต้องส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศพลังงาน EV จำนวน 1,520 คัน ณ สถานที่ ที่ขสมก.กำหนด และภายในกรอบเวลา 360 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ยื่นข้อเสนอมีหน้าที่เริ่มจัดหารถโดยสารตามที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นข้อเสนอเริ่มดำเนินการจัดหารถโดยสาร โดยมีรายละเอียดในแต่ละงวด ดังนี้ งวดที่ 1 ส่งมอบรถโดยสารจำนวน 500 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้าจะต้องมีหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 144 หัว ภายใน 180 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ยื่นข้อเสนอมีหน้าที่เริ่มจัดหารถโดยสารตามที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นข้อเสนอเริ่มดำเนินการจัดหารถโดยสาร
งวดที่ 2 ส่งมอบรถโดยสารจำนวน 500 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้าจะต้องมีหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 144 หัว ภายใน 270 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ยื่นข้อเสนอมีหน้าที่เริ่มจัดหารถโดยสารตามที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นข้อเสนอเริ่มดำเนินการจัดหารถโดยสาร และงวดที่ 3 ส่งมอบรถโดยสารจำนวน 520 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้าจะต้องมีหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 146 หัว ภายใน 360 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ยื่นข้อเสนอมีหน้าที่เริ่มจัดหารถโดยสารตามที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นข้อเสนอเริ่มดำเนินการจัดหารถโดยสาร
ทั้งนี้ หากผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับงานไม่ส่งมอบรถตามที่กำหนดในแต่ละงวดงาน ขสมก.จะปรับตามจำนวนรถโดยสารที่ส่งไม่ครบเป็นรายวันในอัตรา 0.20% ของราคารถโดยสารที่ยังไม่ได้ส่งมอบ และผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องชดเชยความเสียหายจากการขาดรายได้ค่าโดยสารจำนวน 10,000 บาทต่อคันต่อวัน นับตั้งแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ ขสมก.ได้ตรวจรับมอบรถโดยสาร และระบบอัดประจุไฟฟ้าถูกต้องครบถ้วน
สำหรับรถโดยสารที่จะทดสอบและส่งมอบทั้งหมด ต้องผ่านการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกว่า สามารถนำมาวิ่งรับผู้โดยสารในประเทศไทยได้และตลอดอายุสัญญาการเช่า ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับงานจะต้องทำประกันภัยรถโดยสารประเภทชั้น 3 และประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถโดยสาร พ.ศ. 2535 ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้ยื่นข้อเสนอ, ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับงานจะต้องรับผิดชอบการซ่อมบำรุงรถโดยสารทุกคันตามแผนการบำรุงรักษาที่กำหนดไว้ใน TOR
กรณีที่ผู้รับงานไม่สามารถส่งมอบรถโดยสารพร้อมให้บริการ โดยส่งมอบรถรายวันน้อยกว่า 90% ของจำนวนรถโดยสารทั้งหมด จะต้องชดเชยความเสียหายจากการขาดรายได้ค่าโดยสาร 10,000 บาทต่อคันต่อวัน และหากส่งมอบรถรายเดือนเฉลี่ยต่ำกว่า 95% ของจำนวนรถโดยสารทั้งหมด จะต้องชดเชยความเสียหายจากการขาดรายได้ค่าโดยสาร 10,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เป็นผู้ให้บริการ ธุรกิจขนส่งผู้โดยสารและพัสดุทางบก เน้นเส้นทางภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลาง, บริษัท เฟิสท์ ทรานสปอร์ต จำกัด เป็นบริษัทให้เช่ารถบัส รถตู้ และบริการขนส่งผู้โดยสารทางบกครบวงจร, บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ทำธุรกิจหลักเกี่ยวกับการออกแบบ ผลิต และจำหน่าย รถพ่วง และรถกึ่งพ่วง รวมทั้งตัวถังรถบรรทุก และบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX บริษัทลูกของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ทำธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า และระบบขนส่งสาธารณะไฟฟ้า เช่น รถโดยสารไฟฟ้า (e-bus), รถบรรทุกไฟฟ้า และรถเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ให้บริการสถานีชาร์จและโครงสร้างพื้นฐานด้าน EV รวมทั้งซ่อมบำรุงและให้บริการหลังการขาย
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟฟ้า เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า EA พร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (รถเมล์ EV) 1,520 คัน ของ ขสมก. หลังการประกาศ TOR แล้ว ซึ่ง EA นับว่าเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ เชื่อว่าจะมีโอกาส เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของ EA ปัจจุบันก็เป็นผู้ผลิตรถบัสอีวีอยู่แล้ว จึงมีความพร้อมด้านโรงงานผลิต
สำหรับแผนการดำเนินงาน EA ลำดับแรก (เฟสแรก) คือการทำ Turn Inventory to Cash หรือ การเปลี่ยนสินค้าคงคลังเป็นเงินสด ซึ่งบริษัทเร่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับมาได้แล้ว ลูกค้าเริ่มมั่นใจและซื้อรถอีวีของบริษัทเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นหากสามารถเปลี่ยนสินค้าคงคลังเป็นเงินสดได้ เพื่อต่อยอดธุรกิจ เมื่อมีรถอีวีในตลาดเพิ่มขึ้น ก็จะมีสถานีชาร์จอีวีตามไปด้วย
ขณะที่ ปัจจุบันบริษัทมีรถหัวลากอีวีในสต๊อกประมาณ 600 คันที่พร้อมจำหน่ายออกไป และล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO โดยรถหัวลากอีวี มีราคาประมาณ 3.89 ล้านบาทต่อคัน รวมมูลค่า 2.3 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้
ในส่วนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในนาม บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตแบตเตอรี่เพื่อใช้ในยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ขนาด 2 กิกะวัตต์ สามารถนำแบตเตอรี่ดังกล่าวมาใส่ในรถอีวีได้หากชนะประมูลรถเมล์อีวีของ ขสมก. และหากมีผู้สนใจโรงงานแบตเตอรี่ของบริษัท ก็อาจเปิดให้เช่าบางส่วนในอนาคต
ส่วนความคืบหน้าโครงการใน สปป.ลาว ที่ EA ได้ร่วมทุนกับรัฐบาล สปป.ลาว จัดตั้งบริษัท Super Holding Company เพื่อบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดแบบรวมศูนย์ใน สปป.ลาว โดยรัฐบาล สปป.ลาว ถือหุ้นใหญ่ 65% และ EA ถือหุ้น 35% ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินการอยู่ แต่คงต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ