
JAS ดีด 3% รับข่าว NT เตรียมจ่ายเงิน 5.1 พันล้าน 10 ต.ค. บุ๊กกำไร Q4–ลุ้นปันผลพิเศษ
JAS ดีดบวก 3% รับข่าว NT ยอมชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยรวมกว่า 5,136 ล้านบาท กรณีข้อพิพาทยืดเยื้อกว่า 17 ปี ให้แก่บริษัทย่อย JSTC ภายใน 10 ต.ค.นี้ เตรียมบันทึกเป็นกำไรพิเศษไตรมาส 4/68 ด้าน “ดร.โสรัชย์” เผยรายได้ EPL ใกล้แตะจุดคุ้มทุน 1.5 ล้านสมาชิก ยอดสมัครทะลุ 1 ล้านราย มีลุ้นจ่ายปันผลพิเศษ-เสริมสภาพคล่อง-ลงทุนใหม่ “บล.กสิกรไทย” ประเมินกำไรพิเศษกว่า 2.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็นเงินสด 0.62 บาทต่อหุ้น ราคาเป้าหมาย 1.97 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(7 ต.ค.68)บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ณ เวลา 10:21 น. อยู่ที่ระดับ 1.50 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 3.45% ราคาสูงสุด 1.52 บาท ราคาต่ำสุด 1.49 บาท ด้วยมูลค่าซื่อ 56.17 ล้านบาท
ด้านดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี ข้อพิพาทระหว่างบริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด หรือ JSTC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เรื่องส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมลงทุน สร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ (ฝั่งตะวันออก) ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ NT ชำระเงินพร้อมตอกเบี้ย ตามกฎหมายให้แก่ JSTC
ล่าสุดบริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าวานนี้ (6 ต.ค.) JSTC ได้รับจดหมายแจ้งยืนยันจาก NT ว่าจะดำเนินการชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย (คำนวณดอกเบี้ยถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2568) ให้แก่ JSTC เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,136,904,788.13 บาท ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2568
สำหรับเงินจำนวนนี้บริษัทจะบันทึกเป็นกำไรพิเศษไตรมาส 4/2568 ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทสูงสุดในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 3/2568 ยังคงทรงตัว เนื่องจากรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษยังทยอยเข้ามา
“ตอนนี้ยอดสมาชิกพรีเมียร์ลีกของเราทะลุ 1 ล้านกว่ารายแล้ว และมั่นใจว่าไตรมาส 4/2568 จะถึงจุดคุ้มทุนที่ 1.5 ล้านราย”
: บุ๊กกำไรพิเศษ Q4/68
ดร.โสรัชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจาก Q4 เป็นต้นไป ผลการดำเนินงาน JAS จะปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะรายได้จากสมาชิกพรีเมียร์ลีก ขณะที่บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ก็จะได้รับอานิสงส์ตามมาด้วย จากส่วนแบ่งรายได้ค่าสมาชิกรายละ 50 บาท
ทั้งนี้กรณีเงินที่ JAS ชนะคดี NT ที่ต่อสู้มายาวนานกว่า 17 ปี มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท (เงินต้นกว่า 2,300 ล้านบาท บวกดอกเบี้ย) จะไม่ถูกนำไปใช้ชดเชยค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (EPL) แน่นอน
เนื่องจากโครงการดังกล่าวสามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยตามหลักการเบื้องต้น เงินก้อนดังกล่าว สามารถจัดสรร 3 ทาง ได้แก่ 1) การจ่ายเงินปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้น 2) การกันเป็นเงินสดสำรองเพื่อเสริมความมั่นคง 3) ใช้ลงทุนธุรกิจใหม่หรือปรับโครงสร้างบุคลากร
:เป้าหมายราคา 1.97 บาท
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า พัฒนาการนี้เป็นบวกต่อ JAS โดยเงินชดเชย 5.1 พันล้านบาท แบ่งเป็นเงินต้น 2.5 พันล้านบาท และดอกเบี้ยค้างชำระที่เหลือ หาก NT ชำระเต็มจำนวน JAS จะสามารถบันทึกกำไร 2.6 พันล้านบาทในงบกำไรขาดทุนไตรมาส 4/2568 เงินสดที่ได้รับคิดเป็น 0.62 บาทต่อหุ้น ซึ่งเพียงพอที่จะช่วยให้ JAS มีเวลาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปีในการเร่งขยายฐานผู้ใช้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (EPL) ให้ถึงจุดคุ้มทุนด้านกระแสเงินสด
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 4/2568 จะพลิกกลับมาเป็นกำไร หลังจากที่มีบันทึกกำไรพิเศษจาก NT ซึ่งเป็นเฉพาะในส่วนของดอกเบี้ย แต่ในส่วนเงินต้นได้มีการบันทึกไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยคำแนะนำ JAS ราคาเป้าหมาย 1.97 บาท แม้ตลาดอาจเก็งกำไรเชิงบวกจากความคืบหน้าการได้รับเงินชดเชยก้อนใหญ่จาก NT
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลัง JAS ชนะคดีบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้เงิน 5.1 พันล้านบาท คิดเป็นราว 0.6 บาทต่อหุ้น
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดคุ้มทุน (Break-even) ของ JAS จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (EPL) อยู่ที่ยอดสมัครสมาชิก ประมาณ 1.7 ล้านราย คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนนี้ภายใน 2 เดือนหากโมเมนตัมยังคงที่ ขณะที่ MONOMAX มี จุดคุ้มทุนต่ำกว่าที่ 600,000-700,000 ราย เท่านั้น
“อัตราการเติบโตของยอดสมาชิกของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกปัจจุบันอยู่ที่ 150,000-200,000 คนต่อสัปดาห์ โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ แมตช์ยอดนิยม คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือนยอดสมาชิกน่าจะแตะ 2 ล้านราย”