OR บวก 3% เก็งไตรมาส 3 กำไรแตะ 2.56 พันล้านบาท พ่วงโบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 15.80 บ.

OR บวก 3% หลังโบรกคาดไตรมาส 3/68 กำไรเติบโตแข็งแกร่ง 2.56 พันล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนปีที่แล้ว ฟื้นตัวจาก Oil margin แม้ปริมาณขายอ่อนแอ คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าเหมาะสม 15.80 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ต.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ณ เวลา 11:02 น. อยู่ที่ระดับ 14.90 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 3.47% สูงสุดที่ระดับ 14.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 14.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 483.21 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของ OR ในไตรมาส 3/2565 คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง แม้เผชิญกับปัจจัยลบหลายด้าน โดยคาดว่า OR จะสามารถรายงานกำไรในระดับ 2.56 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อนหน้า และพลิกกลับจากการขาดทุน 1.61 พันล้านบาท จากงวดเดียวของปีก่อน

สำหรับการฟื้นตัวของ Oil margin จะช่วยชดเชยปริมาณการผลิตที่อ่อนแอและปัญหาการหยุดชะงักในกัมพูชา โดยเชื่อว่ากำไรจากการฟื้นตัวของ Oil margin จะช่วยชดเชยผลกระทบเชิงลบจากปริมาณการผลิตที่อ่อนแอและสถานการณ์การดำเนินงานของ OR ในกัมพูชาได้เป็นอย่างดี

ส่วนสภาวะราคาน้ำมันที่มีเสถียรภาพ ฐานะกองทุนน้ำมันที่เอื้ออำนวย การแทรกแซงของรัฐบาลที่จำกัด และการที่ไม่มีความล่าช้าในการปรับราคาน้ำมันเครื่องบินเป็นเวลาหนึ่งเดือน ล้วนสนับสนุนการคาดการณ์ของเรา ว่ากำไรขั้นต้นน้ำมันของ OR จะฟื้นตัวกลับสู่ระดับปกติที่ 1.02 บาท/ลิตรในไตรมาส 3/2568 เพิ่มขึ้นจาก 0.85 บาท/ลิตรในไตรมาส 2/568 และ 0.51 บาท/ลิตรในไตรมาส 3/2567

แม้ว่า OR จะยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้ แต่ความต้องการน้ำมันโดยรวมยังคงอ่อนแอในไตรมาส 3/2568 กลุ่มธุรกิจเชิงพาณิชย์มีความต้องการน้ำมันดีเซลอุตสาหกรรมที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้อุปทานล้นตลาด ขณะที่กลุ่มธุรกิจค้าปลีกมีความต้องการที่อ่อนแอตามฤดูกาล

ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่าปริมาณน้ำมันของ OR จะลดลง 7% Qจากไตรมาสก่อน และ 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ในระดับการดำเนินงานทั่วโลก ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ OR ในกัมพูชา โดย OR สูญเสียสถานีบริการน้ำมันไป 36 แห่ง (จาก 191 แห่ง ณ สิ้น ไตรมาส 2/2568) และร้าน Café Amazon 42 แห่ง (จาก 259 แห่ง ณ สิ้น ไตรมาส 2/2568) ในไตรมาส 3/2568

สำหรับกลุ่ม Lifestyle เราคาดว่า EBITDA จะทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยในไตรมาส 3/2568 ยอดขายแก้วกาแฟ Café Amazon อาจทำสถิติใหม่ที่ 108 แก้ว เพิ่มขึ้นจาก 107 แก้วในไตรมาส 2/2568 EBITDA margin น่าจะอยู่ที่ประมาณ 28% เทียบกับ 29% ในไตรมาส 2/2568 และ 20% ในไตรมาส 3/2567

อีกทั้งคาดการณ์โมเมนตัมกำไรที่มั่นคงในไตรมาส 4/2568 โดยคาดว่า OR จะยังคงโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/2568ปริมาณน้ำมันน่าจะฟื้นตัว เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูกาลที่มีความต้องการสูง และยอดขายแก้วกาแฟ Café Amazon อาจเติบโตต่อไป เราเชื่อว่า OR สามารถรักษามาร์จิ้นไว้ที่ประมาณ 0.90–1.00 บาทต่อลิตร ด้วยการสนับสนุนจากสถานะกองทุนน้ำมันที่แข็งแกร่ง ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และการแทรกแซงจากภาครัฐที่จำกัดสถานการณ์ในกัมพูชาดูมีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/2568

ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ OR โดยให้มูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 15.80 บาท จากการประเมินมูลค่าเฉลี่ยปี 2569 ระหว่างวิธี SOTP (17.40 บาท) และวิธี DCF (14.10 บาท)

Back to top button