ดอลล์อ่อนค่าหลังสหรัฐฯเผยข้อมูลศก.อ่อนแอ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า เงินยูโร (16 พ.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1305 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4396 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4360 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7290 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7265 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 109.04 เยน จากระดับ 108.65 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9781 ฟรังก์ จากระดับ 0.9757 ฟรังก์ ขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2895 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2947 ดอลลาร์แคนาดา

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านทรงตัวเป็นเดือนที่ 4 โดยอยู่ที่ระดับ 58 ในเดือนพ.ค. ส่วนดัชนีย่อยด้านสภาวะยอดขายในปัจจุบันทรงตัวที่ระดับ 63 ในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ยอดขายในช่วงเวลา 6 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น 3 จุด สู่ระดับ 65

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขานิวยอร์กระบุว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ทรุดตัวลงในเดือนพ.ค. หลังจากขยายตัวเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านี้ 

การร่วงลงของดัชนีได้รับผลกระทบจากการลดลงของคำสั่งซื้อใหม่ และการขนส่งสินค้า ทั้งนี้ ดัชนีดิ่งลงสู่ระดับ -9.0 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 9.6 ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีภาคการผลิตจะอยู่ที่ระดับ 7.2 ในเดือนพ.ค.  ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ภาวะหดตัว ขณะที่เหนือระดับ 0 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว

ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนเม.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.

Back to top button