ใกล้ชน 1,500 จุดลูบคมตลาดทุน

วานนี้ (13 ก.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดสูงสุดในรอบ 1 ปี


ธนะชัย ณ นคร

 

วานนี้ (13 ก.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดสูงสุดในรอบ 1 ปี

ดัชนีปิดที่ 1,477.61 จุด บวก 2.69 จุด มูลค่าการซื้อขายเยอะมากครับ หรือกว่า  76,143 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ “เกศรา มัญชุศรี” บอกว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาแล้ว 12.19% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 46,667 ล้านบาทครับ

แต่หากนับจากดต้นปีมาถึงวานนี้ (13 ก.ค.)

ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นมาอีก คือ โต 14.71%

ตัวเลขอัตราการเติบโตนี้ น่าจะยังเป็นอันดับ 2 ของโลกอยู่ รองจากประเทศจีนเท่านั้น

ประเด็นที่น่าสนใจ และคุณเกศรา ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเข้ามาคือ สัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ มียอดเทรดเฉลี่ยต่อวันมาอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท

หรือหากดูตัวเลขจากต้นปี มาถึงวานนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิแล้ว 50,638 ล้านบาท

เท่าที่คุยกับนักวิเคราะห์หลายท่าน ต่างบอกว่า ดัชนีหุ้นไทยขึ้นมารอบนี้ยังไม่ถึงกับอันตราย เพราะไม่ได้ขึ้นมาแรง

ดัชนีขึ้นมา 2-3 วัน ก็มีการปรับลงไป 1 วัน สลับกันไป

ทว่า ประเด็นที่น่าสนใจคือ มูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนับจากต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มูลค่าซื้อขายแทบจะมากกว่า 5 หมื่นล้านบาททุกวัน

บางวันก็ทะลุขึ้นมาถึง 6 หมื่นล้านบาท และวานนี้ก็กว่า 7.6 หมื่นล้านบาท

หากตลาดหุ้นเคลื่อนไหวไปแบบนี้ ยังไม่ถึงกับอันตรายครับ

แต่หากดัชนีขึ้นมาแรงมากในทุกๆ วัน และมูลค่าการซื้อขายก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก (ผิดปกติ) แบบนี้อันตราย และการเล่นหุ้นนั้น ยิ่งกว่าสั้นขยันซอยซะอีก

คุณเผดิมภพ สงเคราะห์ จาก บล.กสิกรไทย บอกครับว่า แนวต้านถัดไปคือ 1,487 จุด

หลังจากนั้น ดัชนีอาจมีการปรับฐานบ้างครับ

แต่ก็ไม่มากมายอะไร

แนวรับของการปรับฐานก็ไม่น่าต่ำกว่า 1,450 จุด

แต่เชื่อไหม ดัชนีลงมาไม่ถึงหรอก เพราะหากมูลค่าการซื้อขายยังเยอะแบบนี้อยู่ หากดัชนีลงมาเหลือซัก 1,455 จุดหรือ 1,460 จุด ก็มีแรงเข้ามารับกันแล้ว

แต่อย่างไรก็ดี คุณเผดิมภพ ก็ยังแนะนำเล่นสั้นอยู่สำหรับหุ้นในบางตัว

ผมถามว่า แล้วจะเห็นดัชนีที่ระดับ 1,500 จุดไหม

เขาก็บอกว่า น่าจะเป็นเดือนหน้า (สิงหาคม 59) หรืออาจเป็นช่วงที่ดัชนีปรับฐานไปแล้ว

ประเด็นที่ต้องจับตา คือ หากธนาคารกลางประเทศอังกฤษ หรือ BOE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอีก หรือลงจาก 0.50% มาเหลือ 0.25%

ฟันด์โฟลว์ก็น่าจะไหลเข้ามาเพิ่ม

นี่ยังไม่นับประเด็นเฟด ของสหรัฐฯ ที่มีความเป็นไปได้ว่าในปีนี้ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงปลายปี และปรับเพียงครั้งเดียว จากเดิมที่ถูกมองว่า อาจปรับ 2 ครั้ง

ช่วงนี้ มีคำแนะนำเข้าไปเล่นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่จะทยอยแจ้งงบไตรมาส 2/59 กันออกมา

รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานด้วย

ทั้ง 2 กลุ่มนี้  โบรกฯ ต่างมองว่า กำไรสุทธิน่าจะปรับตัวดีขึ้นครับ

ส่วนกลุ่มรับเหมานำโดย 4 ทหารเสือ ทั้ง ITD, CK, UNIQ และ STEC ต่างก็มีคำแนะนำให้ “ซื้อ” เช่นกัน เพราะรัฐบาลเริ่มติดเครื่องเรื่องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างจริงจังแล้ว หลังจากรำมวยกันมาซะนาน

ส่วนหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ก็ยังเล่นได้เรื่อย เพราะสินค้าของเขาก็ขายได้เรื่อยๆ

จะ CPALL ROBINS GLOBAL หรือตัวอื่นๆ ก็ยังน่าสนใจ

คุณอยู่ในขบวนรถไฟนี้แล้วหรือยัง…

Back to top button