กองทุน…ชิ่งลูบคมตลาดทุน

วานนี้ (1 ส.ค.) นักลงทุนสถาบัน ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็น “กองทุน” ได้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยกว่า 3,808 ล้านบาท


ธนะชัย ณ นคร

               

วานนี้ (1 ส.ค.) นักลงทุนสถาบัน ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็น “กองทุน” ได้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยกว่า 3,808 ล้านบาท

และกดดันให้ดัชนีหุ้นไทยปิดลบ 11.45 จุด มาที่  1,512.62 จุด

ดีนะยังไม่ได้หลุดแนวรับจิตวิทยา 1,500 จุด

การขายของกองทุนในสถานการณ์แบบนี้ นับเป็นเรื่องปกติ

คือ หากพวกเขามองเห็นว่ามี “ความเสี่ยง” รออยู่ข้างหน้า หรือเหตุการณ์ที่นำไปสู่เชิงลบ ก็ต้องขายทิ้งแบบนี้แหละ เพื่อไปตั้งหลัก หรือ “ถือเงินสด” ไว้ก่อน

เข้าใจว่าความเสี่ยงของกองทุนที่ว่านี้ น่าจะเป็นเรื่อง “การทำประชามติ”

ผ่านมาถึงวันนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน

หากสมมุติว่าผ่าน ก็อาจจะดีไป มีนัยสำคัญว่า น่าจะมีการเลือกตั้งได้ตามโรดแม็พ คือ ในกลางปี 2560

แล้วถ้าไม่ผ่านล่ะ…?

กองทุนก็คงต้องมารอดูความชัดเจนว่า แล้วรัฐบาล คสช.จะดำเนินการอย่างไรต่อ

ยังคงให้มีการเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่วางไว้หรือไม่ ด้วยการนำรัฐธรรมนูญฉบับเก่า หรือฉบับชั่วคราวมาปรับปรุงแก้ไข แล้วจัดให้มีการเลือกตั้งเลย

หรือหากไม่ใช้วิธีการดังกล่าว ทางกองทุนก็ต้องดูว่าแล้วจะใช้วิธีการใด

หรือว่าจะปล่อยให้ยืดเยื้อไปแบบนี้ โดยไม่มีการเลือกตั้ง แล้วรัฐบาล คสช. ก็บริหารประเทศต่อไป

และหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ จะมีความวุ่นวายตามมาหรือไม่

ทั้งนี้ ไม่ว่าเหตุการณ์จะออกมาในรูปแบบใด ก็ต้องมีการทำเหตุการณ์สมมุติ หรือ Scenarioว่าจะกระทบตลาดหุ้นอย่างไร

ก่อนหน้านี้ หากจำกันได้ ก่อนที่อังกฤษจะมีการลงประชามติ หรือ BREXIT

กองทุนก็มีการขายอย่างบ้าคลั่งมากกว่านี้อีก

มีอยู่วันหนึ่ง หรือก่อนลงประชามติ กองทุนขายออกไปเกือบๆ 1 หมื่นล้านบาท คือ สะบัดตูดไปก่อนเพื่อนเลย

ทว่าหลังจากนั้น ไม่กี่วัน ก็เข้ามาเก็บของ (หุ้น)

นี่คือ การทำงานของกองทุนครับ

ไม่ต้องตกใจอะไรไปมากมาย

หากวันนี้กองทุนยังขายสุทธิอยู่ ก็ต้องปล่อยเขาไปครับ

รายย่อยระดับป๋าๆ มีอยู่เยอะแยะ ก็ค่อยๆ ไปเลือกเก็บของเข้าพอร์ต เช่นเดียวกับฟันด์โฟลว์ แม้แรงซื้อจะบางเบาลง แต่ก็ยังซื้อสุทธิอยู่

ที่น่าสนใจคือ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ หรือ พร็อพเทรด ก็ซื้อสุทธินะ

นับจากต้นปี 2559 มาถึงวานนี้ หรือ 7 เดือนแรก พร็อพเทรดซื้อสุทธิแล้วกว่า 2.08 หมื่นล้านบาท

ธรรมดาซะที่ไหน

จะสังเกตว่า ปีนี้ พร็อพเทรด เทรดหุ้นตามฟันด์โฟลว์เลย

หากต้นทุนของพร็อพเทรด มีมูลค่าเท่าๆ กับแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ก็มีความเป็นไปได้ว่า ในปีนี้ พร็อพเทรดจะมีกำไรจากพอร์ตลงทุนค่อนข้างเยอะ

หรือตอนนี้อาจมีกำไรแล้วก็ได้ เพียงแต่ว่าเป็นแบบ Mark to Market

แม้ว่านักวิเคราะห์จากหลายโบรกฯ จะออกมาส่งสัญญาณเตือนว่า แรงซื้อของพร็อพเทรดนั้นมีจำกัด เพราะเงินหน้าตักไม่ได้มีมากมายอะไร จึงน่าจะมีการขายทำกำไรกันออกมา

แต่ผ่านไปแล้ว 7 เดือน พี่แกก็ยังไม่ยอมขาย

กลับมาที่กองทุนกันอีกครั้ง

ตัวเลขจากตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า 7 เดือนแรก นักลงทุนสถาบันนั้น ได้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 18,401 ล้านบาท

ขณะที่ก่อนหน้านี้ มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ก็ได้ระบุว่า “กองทุนหุ้น” ที่ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หลายแห่ง ต่างมีรีเทิร์นที่สูงมาก หากนับจากต้นปีมาถึงช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

เช่น กองทุน 10 อันดับแรก มีรีเทิร์นระหว่าง 22-34%

หรือมีอัตราการเติบโตชนะดัชนีตลาดฯ ที่เติบโต 17-18%

หากกองทุนจะขายออกมาอีก ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร

เพราะเมื่อมีกำไรแล้ว และมองเห็นความเสี่ยง หรือความไม่ชัดเจนข้างหน้า แล้วจะรออะไรล่ะ…

ก็ขายสิ

 

 

 

 

                

Back to top button