ต้องเคลียร์โมนิก้าและทีมงาน

*อันที่จริง “โมนิก้า” อยากจะหยุดพักเรื่องของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเอาเวลาไปเม้าท์เรื่องตลกโปกฮาตามแบบฉบับสาวสวยอารมณ์ดี แต่สุดท้ายก็มีคน “ต่อความยาว สาวความยืด” เข้าจนได้ พร้อมกับทำให้อารมณ์ของอีฉันเตลิดเปิดเปิงอย่างรวดเร็ว มันเป็นโมเม้นต์ของชีวิตที่มีทั้ง “สุข เศร้า” คละเคล้ากันไป และยังทำให้เห็นว่า ผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นติดกับดักทางความคิดกันทั่วหน้านะซี


*อันที่จริง “โมนิก้า” อยากจะหยุดพักเรื่องของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเอาเวลาไปเม้าท์เรื่องตลกโปกฮาตามแบบฉบับสาวสวยอารมณ์ดี แต่สุดท้ายก็มีคน “ต่อความยาว สาวความยืด” เข้าจนได้ พร้อมกับทำให้อารมณ์ของอีฉันเตลิดเปิดเปิงอย่างรวดเร็ว มันเป็นโมเม้นต์ของชีวิตที่มีทั้ง “สุข เศร้า” คละเคล้ากันไป และยังทำให้เห็นว่า ผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นติดกับดักทางความคิดกันทั่วหน้านะซี

*ที่น่าสนใจก็คือ ดูเหมือนว่า คลื่นใต้น้ำกำลังก่อตัวอย่างลับๆ และรอวันที่จะปะทุขึ้นมานั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่ายินดีสักเท่าไหร่ เพราะเหมือนแต่ละฝ่ายกำลังตั้งแง่กันอย่างเต็มที่ ทั้งที่เห็นกันจะจะว่า มีโอกาสที่จะปรับจูนแนวทางให้ win-win กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เดี๊ยนในฐานะคนที่รับฟังเรื่องราวดังกล่าวยังรู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วคนที่ทำงานกันจริงๆ ก็คงเซ็งเป็ดยิ่งกว่าอีฉันแน่ๆ เจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงต้องบอกให้คนทั่วไปได้รู้ว่า ต้องเสนอความคิดเห็นเข้ามากันเยอะๆ เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ทุกคนเห็นอุปสรรคในการทำงานมีเยอะขนาดไหน? พร้อมกันนี้ต้องไม่ลืมว่า ในทางทฤษฎีที่ร่ำเรียนจากตำราหลายกูรูนั้น มันเป็นคนละเรื่องในทางปฏิบัติ “โมนิก้า” ถึงเห็นสมควรที่ทุกอย่างต้องจบบนโต๊ะที่พูดคุยกันเสียที และขอรบกวนเจ้าสำนัก สั่งลูกน้องหัดฟังคนอื่นบ้างนะคะ

*ย้อนกลับมาดูที่บรรยากาศการลงทุนบ้างดีกว่า เพราะทันทีที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นแรง ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ขานรับเป็นลูกระนาดกันเลยทีเดียว วานนี้ถึงเห็นตลาดหุ้นไทยกระชากขึ้นมาปิดที่ 1,491.43 จุด บวกไป 11.85 จุด ด้วยมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท พร้อมกับมีความพยายามกระชากขึ้นไปยืนเหนือ 1,500 จุดอีกรอบนั้น เดี๊ยนบอกได้แค่ว่า อย่ามโนเยอะเกินไปนะจ๊ะ

*เนื่องจากมันเห็นกันอยู่แล้วว่า การขึ้นเที่ยวนี้เป็นผลทางจิตวิทยาล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานสักเท่าไหร่ แถมของจริงต้องรอให้ตัวแปรบางอย่างตกผลึกเสียก่อน “โมนิก้า” ถึงต้องยืนยันแนวทาง “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ต่อไปอีกระยะหนึ่ง หลังเห็นผู้เล่นหลักเริ่มเพลาการซื้อหุ้นมาระยะหนึ่ง ซึ่งจะทำให้การขึ้นแบบไม่มีวอลุ่มหนุนเต็มสูบ เป็นการทะยานขึ้นที่เปราะบางไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับท่าทีของหุ้นแม่ลูก PTT กับ PTTEP ซึ่งกระชากขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 342 บาท บวกไป 13 บาท หรือขึ้นไป 3.95% ด้วยมูลค่า 4.18 บาท ส่วนรายหลังปิดที่ 81.75 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่า 2.59 พันล้านบาท มันเป็นเพียงโมเมนตัมที่เด้งขึ้นตามราคาน้ำมันแค่ระยะสั้นๆ โดยตัวแม่มียอดเดิมแถวๆ 360 บาท ส่วนตัวลูกมียอดเดิมแถวๆ 85 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากถามแฟนคลับว่า วันนี้ควรเลือกกระบวนยุทธ์แบบไหน? ระหว่าง “ลุย” กับ “ถอย” พะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ BDMS ซึ่งอยู่ในลู่ทางขึ้นไม่พ้นยอดเดิมสักที จนแพทเทิร์นของหุ้นกลายเป็นภูเขา 3 ลูกที่เตี้ยลงเรื่อยๆ มันเป็นรูปแบบของการเล่นรอบค่อนข้างชัดเจน แถมมาเจอเรื่องการลงทุนอีก 1.30 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีทั้งการใช้ “เงินสด กู้เงิน หุ้นกู้แปลงสภาพ” มันก็หมายถึงความสามารถในการทำกำไร 2 ปีจากนี้จะไม่เหมือนเดิม หุ้นถึงไหลลงมาปิดที่ 21.60 บาท ลบไป 0.40 บาท ด้วยมูลค่า 4.53 พันล้านบาทไงล่ะค่ะ

*ส่วนที่ไม่เหมือนเดิมอีกหนึ่งตัว “โมนิก้า” คงต้องหันไปมอง ORI หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 12.30  บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 11.80% ด้วยมูลค่า 150 ล้านบาท มันชวนให้สงสัยว่า “เสี่ย น.” กับ “เสี่ย ป.” น่าจะเริ่มระบายหุ้นที่เคยรวบเอาไว้ออกมาสู่ตลาดแล้วใช่ไหม? หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็คงเห็นหุ้นขยับได้อีกไกลเลยทีเดียว เพราะมีการเปลี่ยนมือผู้เล่นระลอกใหม่…หากไม่ใช่อย่างที่ว่า ก็ตัวใครตัวมันนะคะ

*ส่วนตัวทีเด็ดที่น่าสนใจอีกหนึ่งราย “โมนิก้า” กลับมองไปที่ BEAUTY หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 9.35 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่า 294 ล้านบาท สะท้อนถึงแรงซื้อจำนวนมากไหลกลับเข้ามาอีกรอบ จึงอนุมานได้ว่า หุ้นน่าจะไต่ระดับขึ้นไปหายอดเดิม 10 บาทอีกรอบ และเมื่อขึ้นไปถึงระดับดังกล่าวจริงๆ ต้องเริ่มคิดกันอีกครั้งว่า เอาไงดี?…อย่าลืมไปคิดเป็นการบ้านนะจ๊ะ

*ไหนๆ ก็เปิดหัวด้วยเรื่อง HOT ตอนจบก็ขอจบด้วยเรื่อง HOT หลังพรายกระซิบแอบไปได้ยินคำพูดทนาย ของ เฮียประสิทธิ์  เตรียมให้ข้อมูลในชั้นอุทธรณ์ พร้อมกับขอใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ขอรายชื่อคณะพิจารณาชุดที่ 1 ซึ่งลงโทษเกินกว่าเหตุ! และถ้าตรวจพบเรื่องconflict” ขึ้นมาจริงๆ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า คดีเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องติดตามดู เพราะฝ่ายที่โดนกระทำคงเดินหน้าฟ้องร้องเพื่อขอความเป็นธรรมนะนายจ๋า

*ประกอบกับช็อตดังกล่าวมีเรื่องเล่าขานกันปากต่อปากออกมาในโทนที่ว่า ก.ล.ต.ไม่ได้เป็นคนลงรายละเอียดของบทลงโทษขั้นหนักสุด เพราะเป็นแค่คนให้ดาบอาญาสิทธิ์กับนายกสมาคมโบรกเกอร์เป็นคนเสนอความเห็น ซึ่งเป็นไปตามประกาศ ทลธ 8/2557 ข้อ 37 ว่าด้วยคณะกรรมการพิจารณาคดี ซึ่งประกอบด้วยคนไม่เกิน 5 คน โดยคนแรกคือ นายกสมาคมโบรกเกอร์ ส่วนอีก 2 คนมาจากกรรมการสมาคมเสนอมา และตัวแทนของผู้ลงทุนอีก 1 คน พูดง่ายๆ ก็คือ ทีมสังหารเฉพาะกิจ! เพราะต่อหน้าก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี แต่ลับหลังกลับจวงแทงไม่ยั้งแบบนี้…สงสัยประกาศฉบับดังกล่าวของ ก.ล.ต. คงมี conflict of interest เสียกระมัง!

Back to top button