เคาะสั้นๆ

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่ทุกอย่างยังกลิ้งไปกลิ้งมา ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นเกิดอาการลังเลใจอย่างบอกไม่ถูกนั้น “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ทุกคนเคยเจอกันมาหลายครั้ง และน่าจะมีวิธีรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นกันเป็นอย่างดี จึงไม่ขออธิบายอะไรเพิ่มเติมจากที่เป็นอยู่ เพราะทุกคนก็เล่นหุ้นในลักษณะ “เคาะสั้นๆ” กันเป็นประจำอยู่แล้วนั่นเอง


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

 

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่ทุกอย่างยังกลิ้งไปกลิ้งมา ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นเกิดอาการลังเลใจอย่างบอกไม่ถูกนั้น “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ทุกคนเคยเจอกันมาหลายครั้ง และน่าจะมีวิธีรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นกันเป็นอย่างดี จึงไม่ขออธิบายอะไรเพิ่มเติมจากที่เป็นอยู่ เพราะทุกคนก็เล่นหุ้นในลักษณะ “เคาะสั้นๆ” กันเป็นประจำอยู่แล้วนั่นเอง

*เมื่อวันศุกร์ถึงเป็นอีกหนึ่งวันที่ดัชนีแกว่งตัวในแดนลบช่วงแคบๆ ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 1,566.20 จุด ลบไป 3.74 จุด ด้วยมูลค่า 3.40 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า การลงทุนยังวนเวียนอยู่ในกรอบเดิม แถมยังเป็นหุ้นตัวเดิมที่เคาะไปเคาะมา ทุกอย่างถึงย่ำอยู่กับที่อีกหนึ่งสัปดาห์ บวกกับปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนเปลี่ยนไปเป็นท่าทีของเฟดเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยแบบนี้..มีเรื่องสนุกให้ติดตามอีกแล้วค่ะ

*เนื่องจากประเด็นดังกล่าวจะเป็นแรงกดดันตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นกันอยู่แล้วว่า ดอกเบี้ยกับตลาดหุ้นไม่เคยไปในทางเดียวกัน ยิ่งทั่วโลกมีสภาพคล่องทางการเงินล้นระบบ ยิ่งทำให้ท่าทีของเฟดกลายเป็นตัวชี้นำเม็ดเงินจะย้ายไปทางไหน “โมนิก้า” ถึงต้องพุ่งเป้าไปยังหุ้นรายตัวมากเป็นพิเศษ เพื่อความคล่องตัวในการลงทุนนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของหุ้น TRUE สวนภาวะตลาดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 6.60 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 1.47 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของอาการอินกับกระแสความเชื่อที่ว่า ปี 60 จะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ซึ่งจะทำให้เจ้าตลาดเกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ ไปตามกัน บวกกับแรงซื้อถึงไหลบ่าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เท่ากับเป็นกระตุ้นอารมณ์นักเล่นอีกทางหนึ่ง  จึงน่าจะเห็นราคาหุ้นลิงโลดอีกสักพักนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ TPIPL วิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.58 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 740 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการเล่นตามน้ำแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเมื่อดูจากวอลุ่มที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เดี๊ยนพูดได้ทันทีว่า จังหวะนี้เป็นเรื่องของการทำราคารอบใหม่ ยิ่งพรายกระซิบแอบเม้าท์ให้ฟังว่า ปีนี้มีเรื่องกำไรเป็นตัวขับเคลื่อน มองเป้าด้านบนที่ราคา 2.80 บาทได้เลยนะจ๊ะ       *อีกหนึ่งรายที่มาทรงเดียวกัน “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยัง STA หลังขยับขึ้นมาปิดที่ 22.20 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่า 755 ล้านบาท เขาว่ากันว่า จังหวะนี้เป็นรอบของการสะสมหุ้น เพราะได้อานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นจังหวะของการตามไปดูเช่นกัน ซึ่งมีข้อแม้ว่าต้องผ่านแนวต้าน 22.70 บาทไปให้ได้เสียก่อน ถึงจะมีลุ้นถึง 25 บาทเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องน่ารักน่าลุ้น “โมนิก้า” คงต้องย้อนกลับมาดู SQ อีกครั้งหนึ่ง เพราะของมันรู้กันอยู่แล้วว่า กำไรปี 60 น่าจะออกมาเลิศสะแมนแตน ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยเกริ่นนำไปเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน ส่วนวันนี้ต้องมาพูดซ้ำเพื่อให้ทุกคนเห็นว่า หุ้นขึ้นมาปิดที่ 5.75 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่า 340 ล้านบาท มันเป็นการเทรดบน P/E 14.80 เท่า มองจากมุมไหน ด้านไหน วันนี้น่าจะมีการเคาะขวาต่อนะคะ

*เช่นเดียวกับกับในรายของ RPH ทะยานขึ้นมาปิดที่ 5.85 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่า 330 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมเก็บตกของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งต้องการเขย่าของให้สะเด็ดน้ำ ต่อจากนั้นจะเริ่มไล่เก็บหุ้นกันอีกรอบ จึงเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำอีกเช่นกัน พร้อมกับเปิดช่องให้นักลงทุนประเภทคุณค่ากระโจนเข้าเล่นกันอีกรอบเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ TFG ทะยานขึ้น 3 วันต่อเนื่อง ก่อนจะลงมาปิดที่ระดับ 6.60 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 150 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่เห็นกันอยู่แล้วว่า แวลูของหุ้นจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน จึงเหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว วันนี้ถึงไม่ต้องมาถามเดี๊ยนว่า ควรทำอย่างไร? เพราะจังหวะมันให้ขนาดนี้แล้ว หากไม่เข้าทำก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้วค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่คล้ายคลึงกันสุดๆ โมนิก้า” อยากให้ดู BLAND แดนสวรรค์เป็นตัวอย่างในการลงทุน เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า มีคนให้แวลูถึงระดับ 2 บาทกลางๆ ขณะที่ราคาล่าสุดยืนปิดที่ 1.86 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่า 142 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่เหมาะต่อการเคาะสั้นๆ เพื่อลดความเสี่ยงของตัวผู้เล่นเอง จริงหรือไม่..วันนี้ได้รู้กันเจ้าค่ะ

*ส่วนที่รู้แจ้งเห็นจริง “โมนิก้า” ต้องยกให้หุ้นยุค 4.0 ซึ่งเป็นดาวรุ่งของตลาด “เอ็มเอไอ” อย่างเช่น ITEL กระชากขึ้นมาปิดที่ 11.80 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท มันเป็นเกมรอบใหม่ที่ขาประจำหวนกลับเข้ามาเล่นกันอีกครั้ง บวกกับหุ้นถูกขับเคลื่อนด้วยกำไรเป็นหลัก เดี๊ยนพูดได้ทันทีว่า หุ้นมีโอกาสวิ่งระเบิดระเบ้อนะจะบอกให้

Back to top button