เงินทอง..ไม่เข้าใคร..ออกใคร

*กลายเป็นดราม่าร้อนระอุที่ปะทุขึ้นแบบสดๆ ร้อนๆ จนขาเม้าท์ต้องโต้รุ่งสอดรู้สอดเห็นกันข้ามคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยจริงๆ สำหรับเรื่องเงินๆ ทองๆ ในแวดวงตลาดหุ้นไทย ล่าสุดก็มีข่าวเม้าท์ออกจากกลุ่มเจ้าหนี้ ลูกหนี้ และกองเชียร์ว่า พวกคุณนั่นแหละที่มีปัญหา จนเลยเถิดพูดถึงการอ่อนตัวของตลาดหุ้นไทยเป็นผลมาจากอิทธิพลต่างประเทศ แต่บางกระแสก็พูดถึงปัจจัยในประเทศมีน้ำหนักมากกว่านะจะบอกให้


เจาะกระดานหุ้น : โมนิก้าและทีมงาน

 

*กลายเป็นดราม่าร้อนระอุที่ปะทุขึ้นแบบสดๆ ร้อนๆ จนขาเม้าท์ต้องโต้รุ่งสอดรู้สอดเห็นกันข้ามคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยจริงๆ สำหรับเรื่องเงินๆ ทองๆ ในแวดวงตลาดหุ้นไทย ล่าสุดก็มีข่าวเม้าท์ออกจากกลุ่มเจ้าหนี้ ลูกหนี้ และกองเชียร์ว่า พวกคุณนั่นแหละที่มีปัญหา จนเลยเถิดพูดถึงการอ่อนตัวของตลาดหุ้นไทยเป็นผลมาจากอิทธิพลต่างประเทศ แต่บางกระแสก็พูดถึงปัจจัยในประเทศมีน้ำหนักมากกว่านะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวที่เอ่ยมาทั้งหมดทำให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังมั่วกับการ “จับแพะ ชนแกะ” ซึ่งยังไม่มีเจ้าภาพเข้ามาเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น และเมื่อดูไปดูมาก็ไม่ต่างอะไรไปจากข่าวลือ กองประกวดเตรียมปลด น้ำตาล ชลิตา” Miss Universe Thailand คนล่าสุดพ้นจากตำแหน่ง และจะดันให้รองอันดับ 1 ขึ้นรับตำแหน่งแทน หลังอีกฝ่ายเตรียมฉีกสัญญากับทางกองประกวดเช่นเดียวกัน

*เมื่อสถานการณ์ออกไปในโทนเละเทะไปกันใหญ่ “โมนิก้า” ก็จำเป็นต้องออกมาพูดในเรื่องที่อยากจะพูดบ้าง หลังดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,549.87 จุด ลบไป 3.74 จุด ด้วยมูลค่า 3.66 หมื่นล้านบาท โดยฝรั่งตาน้ำข้าวยังคงเทขายหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อนแบบนี้ มันทำให้บรรยากาศการลงทุนเสียไปในทันที แถมดัชนีหลุด 1,550 จุดลงมาแบบงงๆ ย่อมทำให้การเล่นเที่ยวนี้ต้องไวกว่าเดิมนะจ๊ะ

*โดยเฉพาะในรายของหุ้นร้อนทุนญี่ปุ่น GL กำลังกลายเป็นที่กล่าวขวัญในหมู่นักลงทุนขาใหญ่อย่างสนุกสนาน เพราะดันไปมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการทำแครี่เทรดแบบสีเทา และทันทีที่ข่าวดังกล่าวมากระทบใบหูของ “โมนิก้า” เข้าอย่างเต็มเปา ก็ทำให้นิสัยอยากรู้อย่างเห็นปะทุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นโดนถล่มต่ออีกวัน จนหุ้นลงมาปิดที่ 48 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่า 700 ล้านบาท มันเกี่ยวข้องกับข่าวลือเรื่องปล่อยกู้มาซื้อหุ้นของตัวเองหรือเปล่า..ต้องให้เจ้าของออกมาพูดเองนะคะ

*เช่นเดียวกับกรณีของปัญหาที่คาราคาซังของ IFEC ก็ก่อให้เกิดสงครามข่าวสารไม่เว้นแต่ละวัน “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการไม่มีเจ้าภาพเข้ามาเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น ก.ล.ต. ก็บอกไม่ใช่หน้าที่ ตลท.ก็ขอไม่ยุ่งเกี่ยว ทุกอย่างเลยดูวุ่นวายกันไปหมด เดี๊ยนถึงกล้าฟันธงได้ทันทีว่า คงต้องถูกแขวน SP ไปอีกนาน เพราะลำพังเรื่องการเจรจากับเจ้าหนี้บี/อีก็ไม่มีทีท่าจะได้ข้อยุติสักที แถมเดี๊ยนยังรู้สึกสับสนว่า ใครเป็นคนพูดจริง..ใครเป็นคนพูดไม่จริงแบบนี้..แมงเม่าที่ติดหุ้นต้องทำใจสถานเดียวแล้วล่ะค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ก็อยากจะเม้าท์ถึงหุ้น ITD เพื่อย้ำเตือนกับนักเล่นทุกหมู่เหล่าอีกสักครั้งว่า นี่เป็นหุ้นที่มักจะพาแมงเม่าติดดอยกันเป็นประจำ เพราะรูปแบบการเล่นจะอิงกับกำไรที่ทำได้แต่ละโปรเจ็กต์เป็นประจำ จึงอย่าคาดหวังการลงจากดอยจะเกิดในเร็ววัน เนื่องจากไซเคิลของหุ้นกำลังโค้งตัวลงอย่างต่อเนื่อง จึงรู้สึกเป็นห่วงคนที่เพิ่งจะเข้าไปรับหุ้นเมื่อวันก่อนๆ บวกกับแนวโน้มการทำธุรกิจในไตรมาส 1 ค่อนข้างเงียบเป็นเป่าสากแบบนี้ สงสัยงบจะออกมาไม่ดีกระมั้ง

*อีกหนึ่งรายที่มีอาการหนักไม่แพ้กัน “โมนิก้า” คงโฟกัสไปที่หุ้น BA เป็นลำดับถัดมาในทันที หลังราคาหุ้นทรุดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 เดือนเต็มๆ จนแมงเม่าร้องโอดโอยระงมไปทั่วห้องค้าแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของนักเล่นแต่ละคนที่กระโจนใส่หุ้นตัวนี้กันเอาเอง แต่สิ่งที่อยากจะบอกให้ทุกคนรู้มากสุดคือ การอ่อนตัวลงมาปิดที่ 19.60 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2% มันเป็นการลงมาใกล้กับจุดต่ำสุดที่บริเวณ 19.30 บาท ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีกับอีก 3 เดือน แถมเป็นช่วงที่หุ้นเพิ่งเข้าตลาดได้แค่ 2 เดือนอีกด้วย..มันน่ากลัวไหมล่ะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ GPSC อุตส่าห์ยืนแกว่งตัวไปมาที่บริเวณ 36 บาทได้เป็นเวลากว่า 4 เดือนครึ่ง แต่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมากลับโดนเทขายอย่างหนักหน่วง จนล่าสุดหุ้นรูดลงมายืนอยู่ที่ 32 บาท ลบไปอีก 1 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่า 180 ล้านบาท แถมเป็นการปิดต่ำสุดของวันอีกด้วย น่าจะเป็นการสะท้อนภาพพวกฝรั่งตาน้ำข้าวไม่เอาแล้วจริงๆ จึงมีโอกาสที่หุ้นจะไหลลงอีกค่อนข้างสูง แต่ถึงกระนั้นก็อยากให้มองในแง่ดีไว้นิดหนึ่งว่า ตรงนี้ก็เป็นจุดกลับตัวที่สำคัญจุดหนึ่ง จึงต้องลุ้นให้หุ้นเด้งอีกครั้ง..ถ้าไม่เด้ง ก็ตัวใครตัวมันจ้า!

*สำหรับรายที่น่าแปลกใจสุดๆ “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดู GUNKUL เพื่อเตือนนักเล่นให้รู้จักตัดใจเมื่อหุ้นไปต่อไม่ไหว เพราะระยะเวลาแค่ 2 เดือนเต็มๆ คนที่ถือหุ้นตัวนี้ขาดทุนมากถึง 25% จากช่วงต้นปีขึ้นไปถึงระดับ 6.60 บาท ล่าสุดวานนี้หุ้นยืนอยู่ที่ 4.98 บาท ลบไป 0.02 บาท แถมวอลุ่มที่จะเข้ามารับของก็เหือดแห้งลงไปเรื่อยๆ มันทำให้เดี๊ยนสงสัยว่า จุดเด้งแรก 4.80 บาทจะเอาอยู่ไหม? หากเอาไม่อยู่ จะเกิดอะไรขึ้นกับจุดเด้งที่สองแถว 4.60 บาทล่ะค่ะ

*ป.ล. การเล่นหุ้นวันนี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความไวอีกตามเคย แถมหุ้นที่กล่าวถึงส่วนใหญ่ก็มีผลประกอบการเป็นแบ็คอัพ แต่ทันทีที่เกิดการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง หุ้นแกนหลักก็ร่วงลงเหมือนไม่มีคุณค่าอะไรให้จดจำแบบนี้ เขาถึงชอบพูดว่า “เงินทอง..ไม่เข้าใคร..ออกใคร” มีโอกาส take profit  ก็ควรรีบทำไปก่อน…ทราบแล้วช่วยบอกต่อกันด้วยนะคะ

Back to top button