หนอนกินขี้!

*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกอดสูใจเหมือนกับคุณพี่ “วิษณุ” ซึ่งนั่งในตำแหน่งบรรณาธิการอาวุโสของหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้น” ก็คือ ผู้คนในตลาดหุ้นที่เกี่ยวข้องกับหุ้นร้อนกำลังทำตัวเป็นพวกรอเศษเนื้อข้างเขียง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนที่ทำข้อมูลในปัจจุบันพยายามทำตัวเหมือนทองไม่รู้ร้อน แถมบางแห่งยังแสดงพฤติกรรมแบบหนอนกินขี้แบบนี้ มันถึงทำให้ผู้คนก่นด่าพวกคุณอย่างหนัก (อย่าให้เดี๊ยนต้องชี้หน้าว่ามีใครบ้าง) นะจ๊ะ


เจาะกระดานหุ้น : โมนิก้าและทีมงาน

 

*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกอดสูใจเหมือนกับคุณพี่ “วิษณุ” ซึ่งนั่งในตำแหน่งบรรณาธิการอาวุโสของหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้น” ก็คือ ผู้คนในตลาดหุ้นที่เกี่ยวข้องกับหุ้นร้อนกำลังทำตัวเป็นพวกรอเศษเนื้อข้างเขียง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนที่ทำข้อมูลในปัจจุบันพยายามทำตัวเหมือนทองไม่รู้ร้อน แถมบางแห่งยังแสดงพฤติกรรมแบบหนอนกินขี้แบบนี้ มันถึงทำให้ผู้คนก่นด่าพวกคุณอย่างหนัก (อย่าให้เดี๊ยนต้องชี้หน้าว่ามีใครบ้าง) นะจ๊ะ

*เนื่องจากการนำเสนอข่าวร้อนในลักษณะพยายามหักล้างข้อมูลฝั่งตรงกันข้าม โดยไม่พยายามแสวงหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น มันเป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วเหรอ? ถ้ารู้ตัวว่า ไม่ถูกต้อง  ก็อย่ามาสะเออะลอยหน้าลอยตาแสร้งเป็นผู้ที่มีความรู้แบบวัวๆ เพราะมันไม่ช่วยให้ผู้คนในตลาดหุ้นตาสว่างขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว แถมยังเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นอย่างปัญญาอ่อนแบบนี้ “โมนิก้า” ขอแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่า พวกลูกกะเป๋งอย่ามาเปรี้ยว..ถ้าเปรี้ยวมากๆ เดี๋ยวจะเอาน้ำปลามาดับเปรี้ยวให้..อิอิอิ

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลิสซิ่งสีเทาจากแดนปลาดิบ GL ถูกถล่มเทขายอย่างหนักหน่วงตั้งแต่เช้า จนสุดท้ายร่วงลงมาติดฟลอร์ที่ระดับ 25.25 บาท ลบไป 10.75 บาท หรือลงไป 29.86% ด้วยมูลค่า 6.39 พันล้านบาท มันเป็นผลพวงมาจากความไม่ชัดเจนของคำอธิบายที่มีต่อสังคมเมื่อวันก่อน แถมมีคนขุดประวัติเก่าของพี่ยุ่นเคยโดน ก.ล.ต.ญี่ปุ่น ลงโทษแบบนี้..ชักเริ่มสนุกแล้วใช่ไหม?

*เรื่องสนุกยังไม่หมดเพียงเท่านี้!..เมื่อลักษณะการกระทำดังกล่าวดันมาคล้ายคลึงกับเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ ที่ผู้สอบบัญชีได้แสดงความคิดเห็นแบบมีเงื่อนไข “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องยาวที่กำลังถูกเปิดปากแผลให้กว้างขึ้นเรื่อยๆ เดี๊ยนถึงขอให้นักเล่นหันไปถาม ก.ล.ต.ไทย อีกสักครั้งหนึ่ง! หลังมีรายงานฉบับหนึ่งจากญี่ปุ่นพูดถึงความสำเร็จในการจับฉ้อโกงบริษัท Wedge Holding เกิดจากความช่วยเหลือจากฝั่งไทยนะซี

*ถามว่า ทำไมน้องโมต้องเกริ่นไปถึงตรงนั้น? “โมนิก้า” ขอเรียนให้ทราบว่า คนที่นั่งเป็นประธานกรรมการบริหาร ดันมีชื่อละม้ายคล้ายคลึงกับคนที่มีปัญหาในฝั่งไทย ณ เวลานี้ เดี๊ยนก็เลยไม่รู้ว่า ประเด็นดังกล่าวมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร? บวกกับเมื่อวันศุกร์ทีมงานต้องวิ่งวุ่นรับสายโทรศัพท์จากต่างประเทศ เพราะมีผู้หวังดีอยากส่งข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นมาให้อีกแบบนี้..เหตุการณ์นี้มันธรรมดาซะที่ไหน!

*เหล่านี้เป็นข้อมูลที่พรั่งพรูออกมาเรื่อยๆ ซึ่งทีมงานก็ต้องทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไป เดี๊ยนจึงขอย้อนกลับมาเก็บตกเรื่องโดนฟอสเซลอีกสักหน่อย เพราะโบรกเกอร์หลายแห่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายราย แต่ที่น่าประหลาดใจคือ บล.ดีบีเอสฯ ดันกลายเป็นโบรกเกอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในช่วงที่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นโบรกเกอร์ที่อยู่ในลำดับกลางๆ มันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ข้างต้นหรือไม่?..คงต้องดูกันเอาเองนะคะ

*อีกหนึ่งรายที่ดูอาการไม่ค่อยดีมากๆ “โมนิก้า” ต้องพุ่งเป้าไปยัง STA หลังราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 18.80 บาท ลบไป 1.60 บาท หรือลงไป 7.90% ด้วยมูลค่า 712 ล้านบาท น่าจะเป็นการสะท้อนถึงแรงเทขายยังมีออกมาเป็นจำนวนมาก โอกาสที่หุ้นจะกลับตัวในภาวะเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง จึงกลายเป็นเรื่องที่ลำบากมากเหลือเกินในช่วงนี้ และทางที่ดีสุดในตอนนี้คือ อยู่เฉยๆ ดีกว่านะคะ

*ส่วนรายที่อยู่เฉยไม่ได้อีกแล้วก็คือ SIRI กระโดดลงมาปิดที่ระดับ 1.94 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 4.90% ด้วยมูลค่า 204 ล้านบาท อาจเป็นผลมาจากการขึ้นเครื่องหมาย XD แต่ต้องดูกันต่อไปว่า วันนี้จะมีแรงซื้อเข้ามาดันหุ้นกลับขึ้นไปยืนเหนือ 2 บาทหรือเปล่า? หากไม่สามารถกลับขึ้นไปได้ และบรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจ ก็ควรตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆ นะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ TLUXE โค้งตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดลงมายืนที่ 11.50 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 8.70% ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนอยู่ที่ระดับ 14.50 บาท “โมนิก้า” ตีความได้ทันทีว่า ขาใหญ่ชิ่งหนีกันหมดแล้ว ถึงปล่อยให้หุ้นร่วงลงมาเรื่อยๆ จึงกลายเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงในภาวะการลงทุนช่วงแกว่งตัวลง งานนี้ไม่ต้องการห้ามปราม แค่ต้องการบอกเล่าเรื่องราวเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ ACAP มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมายในช่วงที่หุ้นกำลังพีคๆ แต่หลังจากนั้นดูเหมือนจะมีเรื่องซุบซิบนินทาในทางเสียหายเยอะแยะไปหมด และดูเหมือนผู้คนจะอินกับกระแสข่าวในทางลบเป็นส่วนใหญ่ หุ้นถึงร่วงลงมาเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดหุ้นก็ยืนอยู่ที่ 22.40 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 6.30% ด้วยมูลค่า 154 ล้านบาท สงสัยหุ้นจะลงไปตั้งหลักที่บริเวณ  20 บาทเสียกระมั้ง!

*ก่อนจากกันขอย้ำกับผู้เล่นอีกครั้งว่า การที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,539.91 จุด ลบไป 9.33 จุด  ด้วยมูลค่า 3.95 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ตีความได้ทันทีว่า แรงเทขายยังมีอีกเยอะ แรงซื้อหดหายไปมาก โอกาสที่ดัชนีจะแกว่งตัวลงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง วันนี้ถึงต้องกำหนดจุดหนีตายก่อนเคาะขวาทุกครั้ง เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลยนะซี

Back to top button