เด้งกลับโมนิก้าและทีมงาน
*หากถามอารมณ์ของ “โมนิก้า” วานนี้เป็นอย่างไรเมื่อเห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง เดี๊ยนตอบกลับได้ทันทีว่า รู้สึกแฮปปี้สุดๆ เพราะของมันเห็นกันมาตั้งนานแล้วว่า หุ้นควรจะเด้งกลับได้ตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเด้งกลับในช่วงนี้ บวกกับตลาดหุ้นมีการซึมซับรับข่าวร้ายต่างๆ ไปเยอะแล้ว จึงไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป และควรเลิกทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมเสียทีนะจ๊ะ
*หากถามอารมณ์ของ “โมนิก้า” วานนี้เป็นอย่างไรเมื่อเห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง เดี๊ยนตอบกลับได้ทันทีว่า รู้สึกแฮปปี้สุดๆ เพราะของมันเห็นกันมาตั้งนานแล้วว่า หุ้นควรจะเด้งกลับได้ตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเด้งกลับในช่วงนี้ บวกกับตลาดหุ้นมีการซึมซับรับข่าวร้ายต่างๆ ไปเยอะแล้ว จึงไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป และควรเลิกทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมเสียทีนะจ๊ะ
*อย่างที่เม้าท์ให้ฟังเมื่อวันก่อนว่า ผู้เล่นต้องเข้าใจเกมการเงินอย่างถ่องแท้ หลังจากนั้นจะมองภาพการลงทุนในแต่ละช่วงแต่ละตอนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะเข้าใจถึงเหตุผลในการเทขายหุ้นของผู้เล่นแต่ละกลุ่ม และอย่าลืมว่า คนที่ไม่กล้าเข้าเล่นหุ้นในจังหวะ 50 : 50 มักพลาดช็อตเด็ดในการลงทุนเป็นประจำ เพราะมัวแต่คิดมากในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องพะยะค่ะ
*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงไม่เคยแนะนำให้ผู้เล่นต้องล้างพอร์ต และมักจะแนะนำให้มีหุ้นติดพอร์ตไว้เล็กน้อยเป็นประจำ เพราะหุ้นพื้นฐานดี ทำกำไรสม่ำเสมอ ต้องยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งวานนี้ได้พิสูจน์ทฤษฎีความเชื่อดังกล่าวเต็มๆ หลังดัชนีกระชากขึ้นมาปิดที่ 1,569.35 จุด บวกไป 9.03 จุด ด้วยมูลค่า 3.98 หมื่นล้านบาท โดยที่กองทุนใหญ่กลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิอีกครั้ง เท่ากับตอกย้ำว่า หุ้นไทยก็แจ๋วไม่เป็นรองใครนะคะ
*บวกกับนักเล่นส่วนใหญ่หันมามองเรื่องสัญญาณเทคนิคมากขึ้น ช่วงหลังถึงเห็นหุ้นเด้งกลับขึ้นแรงบ่อยมากเหลือเกิน ก็ในเมื่อสัญญาณเทคนิคเริ่มผงกหัวขึ้น บวกกับหุ้นหลายตัวยังประคองตัวยืนเหนือแนวรับสำคัญ ตามตำราราที่ร่ำเรียนมาจากอเมริกา เขาเรียกจังหวะนี้ว่า buy..buy..buy พวกเงินถุงเงินถังก็เลยกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง ส่งผลให้หุ้นพุ่งกระฉูดไงหละคะ
*เหมือนกับหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เม้าท์ถึงเมื่อวันก่อนว่า ตัวธุรกิจจะต้องพบกับจุดพลิกกลับที่สำคัญ จังหวะนั้นหุ้นจะวิ่งขึ้นอีกรอบ และดูเหมือนหุ้นแบงก์บางตัวจะเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เร็วกว่าใครเพื่อน โดยเฉพาะในรายของ SCB กระชากขึ้นมาปิดที่ 177 บาท บวกไป 6.50 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น ประเด็นใหญ่น่าจะอยู่ที่การลงมาทำ double bottom หุ้นถึงเด้งกลับขึ้นแรง บวกกับเป็นหุ้นที่กองทุนชื่นชอบมาแต่ไหนแต่ไร ทุกอย่างเลยดูดีไปหมดพะยะค่ะ
*ส่วนอีกหนึ่งรายที่แรงไม่ใช่ย่อยก็คือหุ้นมะเขือเผา TASCO แต่ตอนนี้ไม่สามารถเรียกเช่นนั้นได้อีกต่อไป หลังจากหุ้นเริ่มออกสตาร์ทที่ระดับ 60 บาท เมื่อเดือนธ.ค. 57ล่าสุดเดือนเม.ย. 58 หุ้นวิ่งขึ้นปิดที่ 138 บาท บวกไป 14 บาท หรือขึ้นไป 11.30% รวมเบ็ดเสร็จ 5 เดือนหุ้นวิ่งขึ้นอย่างเดียว แสดงว่า ต้องมีข่าวดีประกาศออกมาให้เห็นในเร็วๆ นี้ หรือถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง ธุรกิจยางมะตอยมีแต่โตขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งน้ำมันถูกลงเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีกับกำไรของบริษัทมากขึ้นเท่านั้นเจ้าค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องตัวเลขกำไรสวยๆ ทีไร “โมนิก้า” มักหันมามอง MTLS กับ SAWAD เป็นประจำ แถมทั้งคู่มีดีตรงที่การเติบโตของบริษัทเป็นไปอย่างต่อเนื่อง บวกกับมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งที่ผ่านมาได้มีการทดสอบแรงเทขายจนสะเด็ดน้ำ วานนี้ถึงเห็นรายแรกกระชากขึ้นมาปิดที่ 19.60 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ส่วนรายหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 40.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.20% งานนี้เม้าท์ได้แค่ว่า ชอบหนุ่มใหญ่ ลุยงานเต็ม ต้องรายแรก ส่วนคนที่ชอบหญิงแกร่ง สู้งานหนัก ต้องรายหลัง..หรือคิดไม่ตกจะเล่นแซนวิสก็ได้..อิอิอิ
*ส่วนในรายของ PRECHA กับ SAMCO ก็เป็นอีกหนึ่งออปชั่นของพวกขาลุยไม่ควรพลาด เพราะประเด็นของหุ้นยังมีการถกเถียงกันว่า ทั้งหมดมีเหตุผลซัพพอร์ตเพียงพอหรือไม่? “โมนิก้า” ขอตอบว่า ทุกอย่างมักมีคำอธิบายในตัวของมันเอง และดุเหมือนทุกคนจะเชื่อไหในทางเดียวกันว่า ต้องมีดีอะไรแน่ๆ หุ้นตัวแรกเลยโดนขึ้นเครื่องหมาย เทรดดิ้ง อะเลิร์ท ก่อนจะมาปิดที่ 3.62 บาท บวกไป 0.48 บาท หรือขึ้นไป 15% ส่วนรายหลังยังชิวๆ ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 6.45 บาท บวกไป 0.40 บาท บวกไป 6.60% นะจะบอกให้
*สำหรับในรายของ CYBER มีความชัดเจนในการทำธุรกิจให้เห็น และเริ่มกางแผนสร้างรายได้มโหฬารให้แฟนคลับได้เห็นเสียทีแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่าติดตามดูเป็นอย่างยิ่ง หลังบริษัทประกาศลุยธุรกิจพลังงานเต็มสูบ ซึ่งตอนนี้มีกำลังไฟที่ผลิตอยู่ในมือมากถึง 520 เมกะวัตต์ ที่เหลือเป็นจังหวะของการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเรื่อยๆ เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 2.70 บาท เป็นจังหวะที่เล่นได้นะซี
*เหมือนกับในรายของ CHO วันนี้จะยื่นซองประมูลงานผลิตรถเมล์ NGV ล็อตแรก จำนวน 489 คัน พร้อมกับเคาะราคาสู้อย่างเป็นทางการ “โมนิก้า” รู้สึกตื่นเต้นแทนอย่างบอกไม่ถูก เพราะดีลนี้ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจอีกแขนงหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมตัวบริษัทครั้งสำคัญเลยก็ว่าได้ ในขณะที่ราคาหุ้นยังย่ำฐานอยู่ที่ 3.84 บาท เดี๊ยนถือเป็นระดับที่น่าสอยติดปลายนวมไว้เล็กน้อยนะจะบอกให้
*สุดท้ายนี้ “โมนิก้า” ขอแสดงความยินดีกับ “น้องช้าง” หรือ “ชนิตร ชาญชัยณรงค์” ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็น กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติอย่างสูง และยังแสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถของผู้บริหารหนุ่มไฟแรงคนนี้ได้เป็นอย่างดี จึงขอปรบมือให้ดังๆ อีกสักครั้งนะค่ะ