TDRI รัฐไทยกระจอก

  “รัฐไทยอาจจะมีความสามารถมากพอที่จะละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน จับประชาชนไปปรับทัศนคติได้ แต่รัฐไทยกระจอกเกินไปที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศได้”


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

“รัฐไทยอาจจะมีความสามารถมากพอที่จะละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน จับประชาชนไปปรับทัศนคติได้ แต่รัฐไทยกระจอกเกินไปที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศได้”

ไม่บอกไม่รู้นะนี่ว่าเป็นคำพูดของ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธาน TDRI จากปาฐกถาปรีดี พนมยงค์ ประจำปี 2560 เรื่อง “ประชาธิปไตย กลไกตลาด รัฐ และทุน”

ไม่บอกอาจคิดว่าเป็นคำพูดของนักศึกษา นักวิชาการประชาธิปไตย ที่โดนจับ โดนเตือน โดนตำรวจทหารไปถึงบ้าน อย่างมากมาย ระหว่างกิจกรรมรำลึก 85 ปีเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งกลายเป็นทำผิดคิดร้าย ทั้งที่ประเทศนี้อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย

แต่คำวิจารณ์นี้มาก TDRI ซึ่งเคยเป็นหัวหอกวิพากษ์ทักษิณ จนอดีตประธานเหาะไปเป็นรัฐมนตรีคลังยุคขิงแก่เพียงแต่ครั้งนี้ TDRI ระมัดระวังท่าที อยู่ห่างจาก คสช.

แนะนำให้หาอ่าน โดยเฉพาะคนที่ยังเชื่อว่า รัฐราชการจะสามารถผลักดันไทยแลนด์ 4.0 นำประเทศพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ดำเนินนโยบายประชารัฐลดความเหลื่อมล้ำ

รัฐที่เซ็นเซอร์กระทั่งหนังชาร์ลี แชปลิน The Great Dictator ซึ่งสร้างมา 70 กว่าปี ยังสามารถนำประเทศก้าวไปข้างหน้าหรือ

ใช่เลยครับ นักการเมืองไม่ใช่ฉลาดปราดเปรื่อง ทั้งยังฉ้อฉล แต่ประชาธิปไตยมีช่องให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียง และตรวจสอบอำนาจได้ พูดง่ายๆ นอกจากด่านักการเมืองได้ สังคมยังได้ออกความคิดเห็น ได้ผลักดัน ไม่ใช่ทุกอย่างกำหนดโดยรัฐราชการ ที่ไม่ฉลาด ด้อยประสิทธิภาพ และเจ้าขุนมูลนาย

แต่ทุกวันนี้ภายใต้ยุครัฐราชการนำชาติ ภาพที่เราเห็นกลาดเกลื่อนคือ ความคิดดีๆ ที่มาจากภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เมื่อต้องการให้รัฐช่วยสนับสนุน ผลักดัน หรือให้งบประมาณ ก็ต้องเชิญข้าราชการมาเป็นประธาน เป็นหน้าเป็นตา สมมติระดับจังหวัดก็ต้องเชิญท่านผู้ว่าฯ มารับฟังรายงาน กดปุ่มเปิดป้าย ซึ่งยังแถมคนติดตาม หิ้วกระเป๋า เปิดประตูรถ ฯลฯ ประเทศนี้สิ้นเปลืองกับเรื่องแบบนี้ไม่รู้เท่าไหร่

3 ปีผ่านไป ระบบราชการยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งปราศจากกลไกการเมือง กลไกประชาสังคม คอยถ่วงคาน แล้วรัฐบาลก็ให้งบพัฒนามหาศาลผ่านมหาดไทยและกองทัพ

สมมตินะครับ สมมติพรุ่งนี้ตื่นมามีปาฏิหาริย์เปลี่ยนประเทศ หน่วยงานปราบโกงเลิกสองมาตรฐาน ไล่ตรวจโครงการจริงจัง เผลอๆ จะมีคนติดคุกเป็นพันเป็นหมื่น

หลายคนในประเทศนี้ฝันว่า เราจะเป็นแบบจีน สิงคโปร์ ไม่เห็นต้องเป็นประชาธิปไตย แต่ลืมไปว่า รัฐไทยด้อยคุณภาพกว่าจีน สิงคโปร์ แบบไม่ติดฝุ่น พรรคคอมมิวนิสต์จีนรวมศูนย์อำนาจ สั่งการเป็นเอกภาพ มีประสิทธิภาพ แต่รัฐราชการไทยเป็นอย่างที่ ดร.สมเกียรติพูดรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลางมากแต่กลับทำงานแยกส่วนกัน กระทรวงใครกระทรวงมัน กรมใครกรมมัน ไม่ทำงานแบบเชื่อมโยงกัน และไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม

ราชการไทยนะครับ ต่างคนต่างใหญ่ แค่หัวหน้าแผนกก็ใหญ่คับ แถมต่างคนต่างก็ขยายอำนาจ ให้ต้องไปขออนุญาต ขอรับการสนับสนุน ฯลฯ

ในขณะที่คุณภาพข้าราชการก็เสื่อมถอย เพราะระบบบนลงล่าง ใครมีอำนาจก็แทรกแซงไม่ว่านักการเมืองหรือข้าราชการด้วยกัน คนเก่งคนดีไม่ได้ดี คนได้ดีต้องประจบเอาใจนาย

แล้วถ้าย้อนดูอดีต ช่วงปลายทศวรรษ 2520 จนก่อนวิกฤติ 2540 ธุรกิจเอกชนเติบโต คนดีคนเก่งไม่นิยมรับราชการ กระทั่งหลังวิกฤติ เห็นอาชีพข้าราชการมั่นคง จึงกลับมานิยม ทำให้ขาดช่วงไปเกือบ 20 ปี ข้าราชการรุ่นนี้แหละที่กำลังขึ้นมาเป็นมันสมองของประเทศ

รัฐราชการ 0.0 ไม่ลดอำนาจไม่กระจายอำนาจเลย 4.0 ก็ฝันไปเถอะ

Back to top button