STANLY คงกำไรแกร่ง!!

ช่วงเทศกาลการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ไตรมาส 3/60) นั่นเอง แต่ทาง STANLY งบจะไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งจะเป็นงบไตรมาส 2 ปี 60/61 (ก.ค.-ก.ย. 60) มีข่าวว่าจะประกาศผลประกอบการในวันที่ 2 พ.ย. 2560


คุณค่าบริษัท

ช่วงเทศกาลการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ไตรมาส 3/60) นั่นเอง แต่ทาง บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY งบจะไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งจะเป็นงบไตรมาส 2 ปี 60/61 (ก.ค.-ก.ย. 60) มีข่าวว่าจะประกาศผลประกอบการในวันที่ 2 พ.ย. 2560

โดยหลายฝ่ายประเมินว่า กำไรไตรมาส 2 ปี 60/61 (ก.ค.-ก.ย. 2560) จะปรับตัวดีขึ้น 370 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือน ก.ค.-ก.ย. 2560 ที่มียอดผลิตรถยนต์เท่ากับ 526,778 คัน เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้จะทำให้ยอดขาย STANLY เติบโตดีที่ 3,050 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 17.2% จาก 15.2% ในไตรมาสก่อน แต่ยังน้อยกว่าปีก่อน 19.6%

นอกจากนี้ ได้รับคำสั่งซื้อใหม่ต่อเนื่อง โดยแนวโน้มคำสั่งซื้อไฟหน้าและไฟท้าย จากค่ายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ของ STANLY ในอนาคตมีทิศทางในด้านบวกต่อเนื่อง โดยเฉพาะ STANLY มีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีจุดเด่นและแข็งแกร่งในเรื่องเทคโนโลยี

อีกทั้ง รถโมเดลรุ่นใหม่ที่ STANLY ได้ เช่น รถยนต์ Honda CRV, Toyota Yaris ATIV รถจักรยานยนต์ Honda Scoopy, Yamaha QBIX จะช่วยสนับสนุนยอดขายโตดีต่อเนื่อง ในอนาคตข้างหน้าจะมีรถรุ่นใหม่อีก 2-3 โมเดล และรถจักรยานยนต์ มีการออกรถรุ่นใหม่ต่อเนื่อง ซึ่ง STANLY ยังได้รับคำสั่งซื้อไฟหน้า-ไฟท้ายต่อเนื่อง และบางรุ่นได้รับคำสั่งซื้อหลายชิ้นมากขึ้น ทำให้ STANLY มีแนวโน้มจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมียอดขายเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม

ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินยอดขายของ STANLY ในปีนี้จะเติบโต 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 11,576 ล้านบาท และคาดจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,424 ล้านบาท เติบโต 12% เติบโตได้ดี จากการควบคุมต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ STANLY มีเงินสดในมือและเงินลงทุนระยะสั้นสูงถึง 5.3 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้กระแสเงินสดจากบริษัทในการลงทุนในอนาคต แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยเปลี่ยนไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าในราคาเป้าหมาย 250 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. STANLEY ELECTRIC HOLDING ASIA-PACIFIC PTE, LTD. 22,950,000 หุ้น 29.95%
  2. นางพรดี ลี้อิสสระนุกูล 7,695,876 หุ้น 10.04%
  3. นายอภิชาต ลี้อิสสระนุกูล 4,500,036 หุ้น 5.87%
  4. นายทนง ลี้อิสสระนุกูล 3,208,920 หุ้น 4.19%
  5. STANLEY ELECTRIC HOLDING ASIA-PACIFIC PTE.LTD. 3,009,650 หุ้น 3.93%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายทนง ลี้อิสสระนุกูล กรรมการ
  2. นางพรทิพย์ เศรษฐีวรรณ กรรมการ
  3. นางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล กรรมการ
  4. นายอภิชาต ลี้อิสสระนุกูล กรรมการ
  5. นายโคอิจิ นางาโนะ กรรมการ

Back to top button