ได้เวลาทบทวน Minsky Moment (จบ)

มายาภาพชั่วคราวของการวิ่งขึ้นของตลาดหุ้นที่สวนทางกับการปรับลดอัตราเติบโตของเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ ที่เป็นผลพวงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ชี้ให้เห็นว่า กำลังจะเกิดการเคลื่อนย้ายทุนครั้งใหญ่ สะท้อนว่า “มือที่มองเห็น” จากเฟด รัฐสภาอเมริกัน โดนัลด์ ทรัมป์ รัฐสภายุโรป และ ECB (เชื่อแน่นอนได้เลยว่าอีกไม่นานจะมีมาตรการทำนองเดียวกันจาก BOJ ตามมาเป็นชุดแบบจัดหนัก) คือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่กลบเกลื่อนข้อเท็จจริงที่ว่า เศรษฐกิจโลกหลังโควิด-19 ย่างเข้าสู่ภาวะซ้ำเดิมของ “กับดักสภาพคล่อง” และเงินฝืด ที่ร้ายกว่ายุคหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ค.ศ. 2008 เมื่อ 12 ปีก่อน


พลวัตปี 2020 : วิษณุ โชลิตกุล

ต่อจากฉบับวานนี้

มายาภาพชั่วคราวของการวิ่งขึ้นของตลาดหุ้นที่สวนทางกับการปรับลดอัตราเติบโตของเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ ที่เป็นผลพวงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ชี้ให้เห็นว่า กำลังจะเกิดการเคลื่อนย้ายทุนครั้งใหญ่ สะท้อนว่า มือที่มองเห็น จากเฟด รัฐสภาอเมริกัน โดนัลด์ ทรัมป์ รัฐสภายุโรป และ ECB (เชื่อแน่นอนได้เลยว่าอีกไม่นานจะมีมาตรการทำนองเดียวกันจาก BOJ ตามมาเป็นชุดแบบจัดหนัก) คือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่กลบเกลื่อนข้อเท็จจริงที่ว่า เศรษฐกิจโลกหลังโควิด-19 ย่างเข้าสู่ภาวะซ้ำเดิมของ กับดักสภาพคล่องและเงินฝืด ที่ร้ายกว่ายุคหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ค.ศ. 2008 เมื่อ 12 ปีก่อน

เหตุผลคือ การทุ่มเงินอัดฉีดผ่านมาตรการทางการคลัง จะทำให้หนี้สาธารณะของชาติต่าง ๆ “พอกหางหมู” ในขณะที่มาตรการดอกเบี้ย 0% และ QE ที่พิมพ์ธนบัตรเพิ่ม ล้วนสร้างภาวะกับดักสภาพคล่องยืดเยื้อยาวนาน

ดังที่ทราบกันดี กับดักสภาพคล่อง หมายถึงภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำจนคนไม่บริโภคสินค้า และธุรกิจลดเลิกการลงทุนใหม่ ส่งผลต่อการจ้างงานและกำลังซื้อในตลาด ผลพวงคือสินค้าขายไม่ออก หรือขาดแคลน เข้าสู่ภาวะ ข้าวหายากแต่หมากแพงหรือเงินฝืดเรื้อรัง

ภาวะเช่นนี้ ปรากฏการณ์คนที่ทำธุรกิจ เงินกู้นอกระบบหน้าเลือด (loan sharks) จะเฟื่องฟู เสมือนเชื้อมะเร็งร้ายเพราะคนทั่วไปตกอยู่ใต้กับดักค่ายกลของหนี้มหาศาลให้รัฐบาลต้องออกมาปราบเป็นระยะ ๆ แต่ปราบไม่มีหมด

ในมุมของนักการเงินอธิบายว่า กับดักสภาพคล่อง คือ การที่มีสภาพคล่องที่ล้นระบบแต่ไม่มีที่ไป ดอกเบี้ยถูกแต่คนก็ไม่กู้เพราะไม่รู้จะกู้ไปทำอะไร ขายของก็ขายไม่ได้อย่างที่คิด ทำให้กำลังการผลิตของโรงงานยังเหลือ ส่วนธนาคารก็ไม่กล้าปล่อยกู้เพราะคุณภาพของผู้กู้ลดต่ำลงมีโอกาสผิดนัดชำระกลายเป็นหนี้เสียได้

โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนใหญ่จะใช้จ่ายก็ต่อเมื่อรู้สึกถึงความมั่นคงของรายได้ปัจจุบันและรายได้ในอนาคต(income effect) หรือเมื่อรู้สึกว่ารวยขึ้น (wealth effect) ในยามปกติ  หากจะกระตุ้นการใช้จ่ายก็ต้องทำทั้งสองอย่างนี้ไปด้วยกัน และการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดเงิน จะทำให้มูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น (asset price inflation) ทำให้คนรู้สึกรวยขึ้น อยากออกไปจับจ่ายใช้สอย แต่ในกับดักสภาพคล่องนั้น มาตรการนี้ใช้ไม่ค่อยได้ผล พอเพิ่มสภาพคล่องเข้าไปคนกลับไปออมในรูปแแบการซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ จึงต้องมาแก้ที่พื้นฐานคือทำให้คนมีความมั่นใจในรายได้ทั้งปัจจุบันและอนาคต ซึ่งยากจะทำได้ง่าย ๆ เพราะการหว่านเงินที่เรียกกันว่าเฮลิคอปเตอร์ มันนี่ นั้นไม่สามารถก่อแรงกระตุ้นใหม่ทางเศรษฐกิจ แต่แค่ซื้อเวลาตายออกไปให้ยาวนานขึ้น

กับดักสภาพคล่องจะแสดงตัวออกมาในรูป inverted yield curve (อัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ระยะยาวต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น) เป็นตัวบ่งชี้สภาวะเศรษฐกิจที่กำลังจะชะลอตัวและอาจรุนแรงถึงขั้นถดถอยที่ค่อนข้างแม่นยำโดยเฉพาะในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า ทำให้มาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลชาติต่าง ๆ ตั้งใจทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยามนี้นอกจากอาจไม่ได้ผลเต็มที่ดังที่ตั้งใจไว้แล้ว เม็ดเงินที่พยายามอัดฉีดลงไปเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจจะถูกผู้คนในระบบนำไปหาทางออม แทนที่จะไปใช้จ่ายหรือลงทุนทำธุรกิจ

ทางออกที่พูดง่ายแต่ทำยาก (หรือแทบทำไม่ได้เลยของปัญหากับดักสภาพคล่องคือ

– ผ่อนปรนธนาคารที่กลัวหนี้เสียจนไม่กล้าปล่อยสินเชื่อ ทำการปล่อยเพิ่ม โดยยินยอมเสี่ยงปัญหาอัตราส่วนที่ประชาชนมีหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงในอนาคต

-เพิ่มรายได้และความสามารถในการแข่งขันของประเทศและคนในประเทศเพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เงินฝืดในขอบเขตทั่วโลกส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจถดถอยลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งเหว การว่างงานระบาดหนักจนกลายเป็นปัญหาสังคม ที่อาจนำไปสู่วิกฤตทางการเมืองในหลายประเทศ ทำนองเดียวกับ ช่วงGreat Depression ในช่วงปีค.ศ. 1928-35

เราจะเรียกมันว่า The Ultra Depression ก็ได้

ภาวะเช่นนี้ มีคำถามว่า Minsky Moment จะพัฒนาการจากระยะที่สี่เป็นระยะที่ห้าเมื่อใด และจะรุนแรงแค่ไหน

แม้จะยังไม่มีคำตอบแบบ มาก่อนกาล แต่เชื่อได้เลยว่าหนีไม่พ้นกันแน่นอน

จะถือว่าเขียนเสือให้ลิงดูก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่อย่าได้ประมาทใจ ว่าเป็นไปไม่ได้

Back to top button