MAX ทางสองแพร่ง

น่าแปลกใจ...เมื่อ IFA หรือที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงกรณีบริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX จะซื้อหุ้นในบริษัท เดอะมาสเตอร์ เรียลเอสเตท จำกัด (MASTER) และ บริษัท อริยา เอสเตท จำกัด (ARIYA) ว่า ไม่เหมาะสม และผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติ


สำนักข่าวรัชดา

น่าแปลกใจ…เมื่อ IFA หรือที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงกรณีบริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX จะซื้อหุ้นในบริษัท เดอะมาสเตอร์ เรียลเอสเตท จำกัด (MASTER) และ บริษัท อริยา เอสเตท จำกัด (ARIYA) ว่า ไม่เหมาะสม และผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติ

IFA ระบุว่า ราคาที่จะซื้อ MASTER ซึ่งถือครองที่ดินประมาณ 27 ไร่ คาดว่าจะนำมาพัฒนาก่อสร้างโรงแรมประเภท Airport Hotel และ ARIYA ทำธุรกิจโรงแรมในโครงการ Wisdom Hotel และมีแผนที่จะนำผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่มีการบริหารภายใต้ชื่อทางการค้าที่ได้รับการยอมรับ (Chained-Brand Hotel) ที่มีชื่อเสียงเข้ามาบริหารงานนั้น แพงเกินไป…

เนื่องจากมูลค่ายุติธรรมรวมหุ้น MASTER และ ARIYA อยู่ระหว่าง 812.61–942.61 ล้านบาทเท่านั้น แต่ MAX เสนอซื้อหุ้นสูงถึง 1,038.11 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง โดยเฉพาะแผนการพัฒนาที่ดินของ MASTER ซึ่ง MAX จะต้องนำไปพัฒนาต่อเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับมูลค่าเงินลงทุนที่จ่ายไป

ขณะที่ยังมีปัญหาการจัดการเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในการบริหารจัดการโครงการ Wisdom Hotel ซึ่งเป็นทรัพย์สินหลักของ ARIYA อีกด้วย

โบราณว่า จิ้งจกทักยังต้องฟัง…แล้วนี่ IFA ท้วงติง ผู้ถือหุ้น MAX ไม่ฟังหน่อยเหรอ…

พอไปสอดส่องข้อมูล MASTER และ ARIYA ที่ MAX แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ถึงบางอ้อ…เมื่อพบว่า แม้ทั้ง 2 บริษัทจะจดทะเบียนเป็นบริษัทซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ฯ แต่ดูจากงบการเงินแทบจะไม่มีธุรกรรมใด ๆ

โดย MASTER จัดตั้งเมื่อวันที่ 30 ต.ค.57 ด้วยทุนจดทะเบียน 39  ล้านบาท ปี 2560 ไม่ปรากฏรายได้ แต่ขาดทุนสุทธิ 0.01 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 67.48 ล้านบาท หนี้สินรวม 66.53 ล้านบาท ปี 2561 ไม่ปรากฏรายได้ แต่ขาดทุนสุทธิ 0.02 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 67.48 ล้านบาท หนี้สินรวม 66.55 ล้านบาท ส่วนปี 2562 มีรายได้รวม 31 ล้านบาท กำไรสุทธิ 0.34 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 39.40 ล้านบาท หนี้สินรวม 0.12 ล้านบาท

ส่วน ARIYA จัดตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.ค.56 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยปี 2560 ไม่ปรากฏรายได้ แต่ขาดทุนสุทธิ 0.52 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 55.56 ล้านบาท หนี้สินรวม 55.67 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 1.11 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 18.10 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 124.51 ล้านบาท หนี้สินรวม 142.72 ล้านบาท ส่วนปี 2562 มีรายได้รวม 9.19 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 19.78 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 110.68 ล้านบาท หนี้สินรวม 148.67 ล้านบาท

ไม่ต่างกับบริษัท เปเปอร์ คอมปันนี หรือบริษัทกระดาษ ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับการทำธุรกรรมบางอย่าง…

ก็ไม่รู้ว่า ข้อมูลข้างต้นเคยผ่านตาบอร์ด MAX มาบ้างหรือเปล่า..?

เหตุใดยังหลับหูหลับตาเห็นว่า รายการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผลและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น

แถมยังนั่งยันนอนยันอีกว่า ได้พิจารณาราคาอย่างรอบคอบดีแล้ว…

ไม่เข้าใจบอร์ด MAX เลยจริง ๆ…ให้ตายสิ..!!

แต่สุดท้ายไม่ว่าจะถูกหรือแพงก็เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นที่จะต้องชี้ขาดในวันที่ 19 มิ.ย.นี้

สิ่งที่ IFA ท้วงติงมา กับข้อมูลตรงนี้เป็นเพียงส่วนประกอบในการตัดสินใจเท่านั้น

เพราะ MAX เป็นของคุณ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button