เปิดแก๊ปแล้ว..ต้องปิดแก๊ป

* บรรยากาศลงทุนวานนี้ถือว่า สุดสวิงริงโก้อีโต้บานอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะแรงซื้อกระจายไปยังหุ้นกลุ่มต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็น “หุ้นใหญ่ หุ้นกลาง หุ้นเล็ก” ล้วนแสดงศักยภาพให้เห็นว่า ยังมีของดีที่จะเอาออกมาโชว์อีกเยอะแยะ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นดัชนีเตรียมขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,600 จุด เป็นครั้งที่สองในรอบหนึ่งสัปดาห์ไงละคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* บรรยากาศลงทุนวานนี้ถือว่า สุดสวิงริงโก้อีโต้บานอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะแรงซื้อกระจายไปยังหุ้นกลุ่มต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็น “หุ้นใหญ่ หุ้นกลาง หุ้นเล็ก” ล้วนแสดงศักยภาพให้เห็นว่า ยังมีของดีที่จะเอาออกมาโชว์อีกเยอะแยะ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นดัชนีเตรียมขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,600 จุด เป็นครั้งที่สองในรอบหนึ่งสัปดาห์ไงละคะ

* ถึงกระนั้นยังมีเรื่องที่ต้องหยุดคิดเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยว่า เร็วไปไหม? หลังดัชนีเปิดกระโดดมายืนที่ระดับ 1,579.72 จุดตั้งแต่เปิดตลาด ต่อจากนั้นพยายามเทคตัวขึ้นไปอีก แต่สุดท้ายหมดแรงกลางอากาศดื้อ ๆ และทำได้แค่เพียงยืนปิดที่ 1,568.82 จุด บวกไป 2.06 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.07 หมื่นล้านบาท เลยเข้าตำราสัญญาณเทคนิคที่เรียกกันว่า “เปิดแก๊ป ปิดแก๊ป” ภายในวันเดียวนะจะบอกให้

* สถานการณ์ตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” อยากบอกกับแฟนคลับให้รู้ว่า วิธีการยกฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิมต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การเคาะขวารัว โดยปัจจัยพื้นฐานยังไม่ซัพพอร์ต ย่อมสร้างแรงกดดันต่อดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ และเรื่องนี้ดูได้จากดัชนีพยายามเดินหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่เอาเข้าจริงกลับต้องแกว่งตัวออกด้านข้าง เพื่อรอให้แรงเทขายสะเด็ดน้ำเสียก่อนแบบนี้..ใจเย็น ๆ เถอะโยม!

* เหมือนกับการขยับตัวของแบงก์สีเขียว KBANK ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 147.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.64 พันล้านบาท ก็เป็นเพียงการเด้งกลับธรรมดา ๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้มาสองหน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูวงรอบที่เล่นกันเป็นประจำบริเวณ 138-150 บาทเป็นพิเศษ เพราะเที่ยวนี้อาจเป็นเหมือนกับรอบก่อน ๆ นะสิ

* เช่นเดียวกับหุ้นขายยาง STA อาจต้องลุ้นหนักเป็นพิเศษ เพราะสตอรี่ในการเบ่งกำไรถูกเอามาเล่นหมดทุกมุม “โมนิก้า” ถึงกังวลใจกับการยืนปิดที่ 47.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.42 พันล้านบาท บวกกับเห็นหุ้นแกว่งตัวออกด้านข้างร่วมครึ่งเดือน จึงไม่แน่ใจว่า เที่ยวนี้หุ้นจะไปได้ไกลแค่ไหน? เพราะอะไรหลายอย่างไม่เป็นใจให้เสียเลยเจ้าค่ะ

* ส่วนรายที่วิบวับสุดในเพลานี้ต้องยกให้ RBF เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า เป็นคนที่รับเต็ม เกี่ยวกับกัญชง บวกกับเมื่อตีตัวเลขออกมาแบบคร่าว ๆ บรรดาเกจิอาจารย์ก็ฟันธงไปในทางเดียวกันว่า ลุยได้! “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินสิ่งที่วิเคราะห์ให้ฟังมีความน่าเชื่อถือขนาดไหน? หลังเห็นราคาหุ้นยืนปิดที่ 17.70 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 9.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 700 ล้านบาทนะออเจ้า

* สำหรับในรายของ ICHI อาจต้องประเมินให้ลึกขึ้นกว่าเดิมนิดหนึ่ง เพราะสินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชง ซึ่งมีแผนจะวางตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อ จึงกลายเป็นศึกหนักที่แต่ละเจ้าจะห่ำหั่นกันด้วยราคา “โมนิก้า” ในฐานะคนที่ดูเกมอยู่ห่าง ๆ เลยไม่อยากคอมเมนต์อะไรมากไปกว่านี้ เพราะต้องการดูผลงานจริงที่ทำได้สามารถซัพพอร์ตราคาหุ้นในกระดานที่ขึ้นมาปิด 14.70 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 7.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.34 พันล้านบาทได้อะป่าว?

* เหมือนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้นเดินเรือ TTA ล้วนมีมุมที่ทำให้เชื่อว่า ไปต่อ! หลังมีบทวิเคราะห์พูดถึงหุ้นตัวนี้มากเหลือเกิน ประจวบกับค่าระวางเรือก็พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับขาลุยดูราคาปิดที่ 9.55 บาท บวกไป 1.15 บาท หรือขึ้นไป 13.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 814 ล้านบาท เทียบกับราคาเป้าที่ให้กันไว้ก่อนหน้านี้ ยังเล่นสั้น ๆ ได้อีกกี่รอบ ลองไปดูกันเอาเองนะจ๊ะ

* ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น AIE มากเหลือเกิน เพราะสัปดาห์ก่อนเพิ่งคอมเมนต์สถานการณ์ของธุรกิจดีหมดทุกอย่าง (ปาล์มขึ้นเรื่อย ๆ) แต่ราคาหุ้นกลับย่ำต๊อกต๋อยอยู่ที่บาทต้น พอถึงวันนี้เห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 1.25 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 9.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 276 ล้านบาท ก็รู้ทันทีว่า คนเล่นเริ่มเข้าใจธุรกิจนี้มากขึ้น และคิดบัญญัติไตรยางค์กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท เทียบกับ PE 20 เท่า ราคาหุ้นขั้นต่ำควรอยู่แถว 1.80 บาท แบบนี้ถูกไหม? คุณเท่านั้นที่รู้..อิอิอิ

Back to top button