ย่อก่อนเด้ง ?

* เมื่อดัชนีเริ่มขยับเข้าใกล้ 1,600 จุด มากเท่าไหร่ ก็จะเจอกับแรงขายทำกำไรมากขึ้น นักเล่นหน้าใหม่จึงมักออกอาการ “กล้า ๆ กลัว ๆ” เข้าใจไปเองว่าหนทางสู่การทำกำไรแสนยากเย็น  แต่เนื่องจากข้อมูลที่มีอยู่ในมือของ “โมนิก้า” ในฐานะคนเฝ้าติดตามหุ้นอย่างใกล้ชิด ยังบ่งบอกว่าดัชนีมีโอกาสเทคตัวผ่านแนวต้านจิตวิทยาได้ในวันข้างหน้า จึงอยากให้ปรับเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ และต้องกล้าที่จะเล่นเกมเสี่ยงมากขึ้น


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* เมื่อดัชนีเริ่มขยับเข้าใกล้ 1,600 จุด มากเท่าไหร่ ก็จะเจอกับแรงขายทำกำไรมากขึ้น นักเล่นหน้าใหม่จึงมักออกอาการ “กล้า ๆ กลัว ๆ” เข้าใจไปเองว่าหนทางสู่การทำกำไรแสนยากเย็น  แต่เนื่องจากข้อมูลที่มีอยู่ในมือของ “โมนิก้า” ในฐานะคนเฝ้าติดตามหุ้นอย่างใกล้ชิด ยังบ่งบอกว่าดัชนีมีโอกาสเทคตัวผ่านแนวต้านจิตวิทยาได้ในวันข้างหน้า จึงอยากให้ปรับเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ และต้องกล้าที่จะเล่นเกมเสี่ยงมากขึ้น

* สาเหตุที่ใช้มาอ้างอิงความคิดของ “เดี๊ยน” มาจากแรงซื้อสะสมหุ้นที่ยังมีให้เห็นคึกคัก โดยเฉพาะหุ้นกลาง-เล็ก และอยากให้โฟกัสถึงหุ้นหลายตัวเริ่มฉายแววโดดเด่นหลังจากการบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นตัว ด้วยเหตุนี้ถึงอยากให้พยายามเคาะหุ้นเก็บไว้บ้าง และบางครั้งไม่จำเป็นต้องรอให้หุ้นลงมาถึงแนวรับสำคัญ ก็สามารถเข้าเก็บหุ้นไว้ในพอร์ตได้เหมือนกัน เพราะวงรอบที่เล่นเที่ยวนี้หากฝ่าด่านหินไปได้ ยังเหลือแก๊ปอีกบานตะไทเจ้าค่ะ

* ประเด็นตรงนี้สอดคล้องกับเรื่องที่เคยเกริ่นให้ฟังตั้งแต่วันก่อนว่าให้เคาะขวาสวน!  โดยเฉพาะคนที่มีเงินแช่ไว้ในพอร์ตเยอะ ๆ จังหวะนี้คือการเล่นรอบที่เคยเห็นกันมาหลายครั้ง แต่ “โมนิก้า” ขอบอกในทันทีว่าต้องกำหนดจังหวะการลงทุนให้ถูกต้อง และต้องติดตามดูกันต่อไปว่า ดัชนีจะยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งขนาดไหน? หลังจากได้เห็นดัชนีพยายามสู้สุดชีวิต ก่อนจะลงมาปิดที่ระดับ 1,587.21 จุด ลบไป 2.32 จุด ด้วยมูลค่า 7.24 หมื่นล้านบาท

* ส่วนรายที่ก้ำกึ่งเหมือนจะไปต่อแต่ไปไม่สุดอย่าง OISHI กลายเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงปัจจัยพื้นฐาน เพื่อชี้ให้เห็นถึงความน่าสนใจที่ยังเป็นแรงส่งทั้งด้านยอดขายเครื่องดื่ม และธุรกิจอาหารเริ่มไฉไลขึ้น เดี๊ยนเลยมองว่าการขึ้นมาปิดที่ 48.50 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.57% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.37 พันล้านบาท มันยังมีแรงไปต่อได้อีกไกลเจ้าค่ะ

* ในรายของ EA เริ่มไต่ระดับสูงขึ้น และใกล้จะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 65 บาทเข้าไปทุกที ซึ่งเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของนักลงทุน เพราะสัญญาณเทคนิคที่เริ่มผงกหัวขึ้น บวกกับเรื่องของปีนี้เป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวธุรกิจใหม่ ๆ ที่ปูทางเอาไว้ วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 62 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.77% ด้วยมูลค่า 2.30 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะนักลงทุนสไตล์คุณค่าน่าจะตามไปดูนะจะบอกให้

* แวะมาที่หุ้นอสังหาริมทรัพย์รายนี้กันบ้าง RICHY ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.07 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 5.94% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 19.92 ล้านบาท ทำนิวไฮในรอบกว่าปีครึ่ง ส่วนปัจจัยหนุนรอบนี้ “โมนิก้า” มองไปที่การเก็งกำไรหุ้นเล็กราคาหุ้นต่ำบุ๊ก แถมยังมีสตอร์รี่ปลดล็อกมาตรการ LTV บ้านหลังที่ 2 เป็นวันแรกคอยหนุน หุ้นถึงยังได้เป็นขวัญใจขาเล็ก-ขาใหญ่ยังไงล่ะเจ้าคะ

* ส่วนในรายของ RS มีแรงซื้อเก็งกำไรกันแบบอุ่นหนาฝาคั่งได้อีกวัน หลังเปิดแผนคลอดผลิตภัณฑ์ผสมกัญชง-กัญชา ทำเอาราคาหุ้นวิ่งคึกมาปิดที่ 29 บาท บวก 1.50 บาท หรือบวกไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.48 พันล้านบาท แต่ “เดี๊ยน” มองเห็นอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย 31 บาทแล้ว ขอบอกว่าเหลือจังหวะเคาะขวาเบา ๆ สำหรับคนเล่นรอบ แต่หากใครช้าระวังโดนจ่ายรอบวงนะเจ้าค่ะ

* ด้านหุ้น KOOL ราคาเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.41 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 6.02% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 118.36 ล้านบาท ตามธรรมชาติของหุ้นตัวนี้มักจะดี๊ด๊าท้าลมร้อน ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ด้านสัญญาณทางเทคนิคยังถือว่าดูดี! สำหรับนักลงทุนที่เน้นเล่นสั้นเดี๊ยนยังมองเป็นโอกาสเก็งกำไรที่ระดับ 1.48-1.50 บาท ได้สบาย ๆ แต่หากใครใจไม่ถึงแนะนำให้ย้ายไปเวย์อื่นแทนก่อนเจ้าค่ะ

* ปิดท้ายด้วย TEAMG มีแบ็กอัพเกี่ยวกับตัวเลขกำไรเป็นที่ตั้ง การันตีความปังด้วยยอดสะสมแบ็กล็อกกว่า 3 พันล้านบาท แถมมีโอกาสได้งานใหม่เพิ่มตามแผนลงทุนทั้งรัฐและเอกชน ถึงได้เห็นแรงซื้อไหลเข้ามาต่อเนื่อง 3 วันติด จนหุ้นวิ่งขึ้นมายืนที่ 2.36 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 3.51% ด้วยมูลค่า 162.58 ล้านบาท แถมเหลือบไปดูค่า P/E ยังอยู่แถว ๆ 12-13 เท่า ต่ำกว่ากลุ่ม “โมนิก้า” ขอบอกว่าโอกาสไปต่อสูงมาก..อิอิอิ

Back to top button