เราไม่ใช่ผักปลา

โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว แต่เรายังจมปลักอยู่ตรงนี้!


ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว แต่เรายังจมปลักอยู่ตรงนี้!

ครับ ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ อียู 27 ชาติ  กำลังพิจารณาอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้ โดยไม่มีการกักตัว เพียงปฏิบัติตามเงื่อนไขการฉีดวัคซีน 1 เข็ม ที่ได้รับอนุญาต นั่นคือ ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และแอสตราเซเนกา

ก็ใช่ว่า ประเทศในกลุ่มอียูจะปลอดเชื้อ ปลอดโรคโควิด-19 ไปแล้วนะครับ อัตราการติดเชื้อในแต่ละวันก็ยังเป็นหลักพันหลักหมื่น และอัตราการตายก็ยังเป็นหลักร้อยหลักพันอยู่ เพียงแต่เป็นอัตราการแพร่เชื้อและการตายที่ลดลง ในขณะที่อัตราการแพร่เชื้อและการตายของเราเป็น “ขาขึ้น”

อัตราการรับวัคซีนของชาวยุโรปอยู่ในระดับ 30% ขึ้นไป แต่ของเรายังคืบคลานอยู่แค่ระดับ 2.4% มันไม่มีนัยยะต่อระดับ “ภูมิคุ้มกันหมู่” อะไรเลย

มัวทำอะไรอยู่ถึงล่าช้า? ก็รอวัคซีนหลัก แอสตราเซเนกา แล้วช่วงรอวัคซีนหลัก ทำอะไร ล่ะ? ก็ซื้อวัคซีนซิโนแวคมาฉีด “ขัดตาทัพ” ไปพลาง ๆ

นานวันเข้า วัคซีนหลัก ก็ยังไม่มาซักที เสียงตำหนิรัฐบาลอื้ออึงยิ่งขึ้น ก็เลยหยิบเบี้ยใกล้มือ นำวัคซีนขัดตาทัพมาใช้แทนวัคซีนหลักจนมียอดสั่งซื้อเกินกว่า 5 ล้านโดสเข้าไปแล้ว

จีนมีวัคซีนโควิด 2 ตัว คือ ซิโนแวคและซิโนฟาร์ม ตัวที่ดีกว่าคือซิโนฟาร์ม และองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ให้การรับรองแล้ว แต่รัฐบาลไทยก็ไม่เลือก ดันไปเลือกเอาตัวด้อยกว่าคือซิโนแวค ที่จนบัดนี้ก็ยังไม่ผ่านการรับรองจาก WHO ซึ่งต่อไปเมื่อมีการใช้ “วัคซีน พาสปอร์ต” ก็น่าจะก่อปัญหาให้ไม่น้อย

ส่วนวัคซีนหลัก ซึ่งเลือกเอาแอสตราเซเนกา และรัฐบาลก็พยายามจะโหนว่าเป็นวัคซีนพระราชทานนั้น ก็ปรากฎว่า ในโลกนี้ ก็ยังมีวัคซีนที่เหนือกว่าแอสตราเซเนกาและมีข้อตำหนิน้อยกว่าแอสตราฯ เป็นอันมาก

นั่นก็คือ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หรือ สปุตนิก V เป็นต้น

อะไรเป็นวัคซีนหลัก อะไรเป็นวัคซีนรอง รัฐบาลไทยภายใต้ ฯพณฯ ประยุทธ์อนุทิน ตัดสินใจเลือกแบบผิดฝาผิดตัวไปหมด

ควรจะเลือกไฟเซอร์-โมเดอร์นา ก็ดันเลือกแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนหลัก และควรจะเลือกซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนรอง ก็ดันเลือกซิโนแวคเสียนี่

มาวันนี้ แม้จะมีการยอมรับวัคซีนตัวรอง อาทิ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โมเดอร์นา และไฟเซอร์ ซิโนฟาร์ม กำลังจะตามมา แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำมาฉีดให้ประชาชน หากหน่วยงานรัฐไม่เป็นผู้นำเข้ามาซะอย่าง

ข้อติดขัดใหญ่มีอยู่ด้วยกัน 2 ด่าน แต่ละด่านใช้เวลานานมาก

ด่านแรก คือ การขึ้นทะเบียนอ.ย. ซึ่งแบรนด์อินเตอร์โด่งดังมาขนาดไหน แต่หากอ.ย.ไม่รับรอง ก็นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไม่ได้ ขณะเดียวกัน แบรนด์รองที่อินเตอร์ฯ ยังไม่ยอมรับ แต่นโยบายรัฐไทยยอมรับซะอย่าง อ.ย.ก็พร้อมขึ้นทะเบียนให้

หลุดด่านอ.ย.มาก็เจอด่านองค์การเภสัชกรรม โดยเฉพาะสินค้าวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขชอบอ้างว่า เอกชนเมืองนอกพอใจจะขายให้รัฐเป็นคู่สัญญา เท่านั้น

ผมเองก็ชักสงสัยเหมือนกันว่ามันเป็นข้ออ้างหรือความจำเป็นแท้จริงกันแน่ แต่แม้เป็นเรื่องจริง ก็ไม่เห็นจะเป็นอุปสรรคยากเย็นอะไรนี่ รัฐบาลก็ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับวัคซีนมาจำหน่ายต่อให้กับโรงพยาบาลเอกชน ในราคาต้นทุน+ค่าบริหารจัดการนิดหน่อย

โรงพยาบาลเอกชนก็นำมาฉีดให้กับลูกค้าตนเอง ซึ่งมีความต้องการอย่างมหาศาลทั้งฉีดให้ตนเองและครอบครัว ตลอดจนลูกน้อง บริวาร พนักงานบริษัทตนเองในราคาต้นทุน+ค่าบริหารจัดการนิดหน่อยเช่นเดียวกัน

เพื่อจะได้ไม่ต้องไปเข้าคิว รอฉีดวัคซีนจากบริการภาครัฐ ประหยัดเงินให้รัฐได้อีกทางหนึ่งด้วย

การจะได้มาซึ่งวัคซีนที่ดีกว่า ไม่เห็นจะยากเย็นแสนเข็ญตรงไหนเลยนี่ ไม่ว่าจะเป็นไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์นสันฯ สปุตนิก วี ซิโนฟาร์ม ฯลฯ ก็ไม่เห็นจะเหลือบ่าฝ่าแรงแต่อย่างใด

แต่นี่พวกคุณ (ประยุทธ์และพวก) ไล่ต้อนและบีบคั้นประชาชนให้ยอมรับวัคซีนเกรดรอง แถมไอ้ที่จำยอมแล้วก็ยังเกิดการขาดแคลน เพราะการบริหารงานห่วย ๆ มั่วซั่ว กอปร์ทั้งความอ่อนหัดของพวกคุณ

วัคซีนแอสตราเซเนกา 1.7 ล้านโดส ที่พวกคุณสัญญาจะส่งมอบเมื่อ 21 พ.ค. มันหายไปไหน ไม่มีคำตอบ แล้วจู่ ๆ พวกคุณก็ยุบแอป “หมอพร้อม” บอกให้ไปจองวัคซีนท้องถิ่น หรือแอป “หมาพร้อม” ที่ไหนก็ไม่รู้ได้

วันจันทร์ที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันนัดจะมีการฉีดวัคซีนแอสตราฯ เข็มที่ 2 แก่ประชาชน แต่ถึงเวลาวัคซีนไม่มาตามนัด “ประชาชนแห้ว” แต่ในวันนั้นเองก็มีภาพพล.อ.ประยุทธ์ไปเต๊ะท่าถ่ายรูปฉีดเข็มที่ 2 พร้อมจัดเต็มบริวาร 9 คนเป็นแบ็คดรอป หลังภาพ บาดตายิ่งนัก!

จู่ ๆ ก็มีแอป “ไทยร่วมใจ” ให้จองวัคซีนกทม.ขึ้นมา และจู่ ๆ ก็มีแอปมือถือ 3 ค่าย ให้จองวัคซีนในโควตาสถานีบางซื่อของพรรคภูมิใจไทยขึ้นมา พวกคุณจะบริหารงานมั่วซั่วไปถึงไหนกันเนี่ย!

มันอ่อนหัดหรือ “ใจดำ” เห็นประชาชนเป็นผักปลากันเนี่ย

Back to top button