งานฉลองอันแสนสั้น

ตลาดเช้าวันอังคารที่ผ่านมาไปที่ 1.81 บาท ก่อนลงมาปิดตลาดวันเดียวกันที่ราคา 1.69 บาท ด้วยปริมาณซื้อขายเกือบ 1.3 พันล้านบาท


ราคาหุ้นที่แสนจะหวือหวาอย่าง BEAUTY ในวันอังคารที่ผ่านมา ดั้นเมฆชนเพดานในตอนเปิดตลาดเช้าวันอังคารที่ผ่านมาไปที่ 1.81 บาท ก่อนลงมาปิดตลาดวันเดียวกันที่ราคา 1.69 บาท ด้วยปริมาณซื้อขายเกือบ 1.3 พันล้านบาท

สาเหตุเพราะเชื่อกันว่าจะได้รับผลดีจากนักท่องเที่ยวและลูกค้าชาวจีนท่วมท้นเหมือนเคย จึงเป็นการฉลองบน “ราวไต่ลวด เพราะก่อนหน้านี้หมอสุวิน ไกรภูเบศ ผู้ก่อตั้ง ผู้ถือหุ้นใหญ่สุด และผู้บริหารเพิ่งจะยอมรับว่าผลประกอบการไตรมาสสามยังคงย่ำแย่ หมายถึงน่าจะยังขาดทุนต่อไปอีก ส่งสัญญาณว่าสิ้นปีนี้น่าจะขาดทุนสุทธิแน่นอน จะมากน้อยแค่ไหนไม่รู้

ราคาหุ้นวิ่งขึ้นรุนแรงรับข่าวดีเกินเหตุอย่างนี้ บ่งบอกถึงสภาวะของกระต่ายตื่นตูมที่ฝันกลางวันในฤดูฝนซึ่งคนที่มีกำไรสามารถออกของในราคาสูงก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่วนคนที่ติดที่ยอดดอยในอนาคตคงต้องจ่ายค่าโง่แพง ๆ ไปตามระเบียบ

เช่นเดียวกัน ราคาหุ้นขายกล้อง BIG ราคาบวกขึ้นสูงสุดในรอบ 9 เดือน จนต้องติดบัญชีแคชบาลานซ์ประหนึ่งว่าคนจะแห่แหนไปซื้อกล้อง ก็เป็นแค่สงครามวันเดียวธรรมดา

ทั้งนี้เพราะว่า ไม่มีใครกล้าคาดเดาได้ว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์มีอาการกินยาผิดซองมาจากไหน จึงกล้าประกาศเดิมพันครั้งล่าสุด (แม้จะยังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย) ด้วยการเปิดประเทศ

โดยข้อเท็จจริง การที่จำนวนของผู้ป่วยโควิด-19 ที่แม้จะลดลง แต่ยังไม่น่าวางใจเพราะตัวเลขยังเกินวันละกว่า 1 หมื่นคน การเปิดประเทศ จึงเป็นการเดิมพันทางอำนาจแบบมาคิอาเวลลีโดยแท้จริง เพราะจับเอาสุขภาพของประชาชนคนไทยเป็นตัวประกัน

ไม่มีหลักประกันใดเลยว่าหลังจากการเปิดประเทศในขณะที่จำนวนคนไทยที่ฉีดวัคซีนมีคุณภาพ ยังต่ำมากไม่ถึง 10% ของจำนวนประชากรและจำนวนผู้ป่วยใหม่ยังมีมากกว่าวันละ 10,000 คน จากการที่เร่งฉีดวัคซีนคุณภาพต่ำมั่วซั่ว

บางคนที่ฉีดซิโนฟาร์ม, ซิโนแวค หรือ ผสมแอสตร้าเซเนก้าครบ 2 เข็มไปแล้วจนหมดภูมิคุ้มกันแล้วต้องการฉีดเข็มที่สาม ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะฉีดได้ที่ไหน ยาจะเข้ามาเมื่อใด

การเร่งเปิดประเทศโดยไม่รู้ว่าใช้ส่วนไหนที่ไม่ใช่สมองคิด เพื่อหวังว่าจะสร้างความคึกคักครั้งใหม่ให้จีดีพี ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี จึงมีคำถามว่าหากลงเอยด้วยการแพร่ระบาดรอบใหม่ จะมีใครรับผิดชอบ

คำถามที่ไร้คำตอบชัดเจนเหล่านี้ ทำให้ต้องดูผลประกอบการเป็นหลักเพราะข่าว อาจจะกลายเป็นข่าวร้ายเมื่อใดก็ได้

งานฉลองชั่วคราวทำนองนี้ เปรียบได้กับนิทานเปรียบเปรย เรื่องมายากลแก้ปวดฟันของพระพุทธเจ้าไม่มีผิด

ต้นว่าร้ายแล้ว ปลายจะดีเสมอ ไม่จริงตลอดไป เพราะอาจจะมีร้ายกว่ารออยู่

Back to top button