สิ่งที่ CEO ‘กังวลสุด’ ปีหน้า

ก่อนที่จะพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอมิครอน นักธุรกิจส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มในปีหน้า ซึ่งรวมถึง บิลล์ เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์


ก่อนที่จะพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอมิครอน นักธุรกิจส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มในปีหน้า ซึ่งรวมถึง บิลล์ เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ แต่ในขณะนี้ซีอีโอส่วนใหญ่และเกตส์ยังคงมีความกังวลอยู่บางเรื่องสำหรับปีหน้า

ในโพสต์ส่งท้ายปีของบิล เกตส์ ได้จั่วหัวว่า “เหตุผลสำหรับการมองโลกในแง่ดีหลังจากปีที่ยากลำบาก” โดยมีการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงความสดใสหลายอย่าง ซึ่งมีตั้งแต่มองว่าการระบาดของโควิดอาจสิ้นสุดลง ไปจนถึงการเติบโตของ metaverse

อย่างไรก็ดี เขาได้คาดการณ์ว่าหนึ่งในปัญหาที่อาจชะลอหรือยับยั้งความก้าวหน้าเหล่านั้นคือ “ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาล” และนี่เป็น “สิ่งที่เขากังวลมากที่สุด” ในปีหน้า

เหตุผลที่เขากังวลเช่นนั้นเพราะ หากประชาชนไม่ไว้วางใจก็จะไม่สนับสนุนแผนริเริ่มใหม่ ๆ ที่สำคัญ และเมื่อมีวิกฤตใหญ่ ๆ เกิดขึ้น ประชาชนก็ไม่น่าจะทำตามคำแนะนำที่จำเป็นต่อการฝ่าฟันวิกฤตไปได้ โดยตั้งข้อสังเกตว่าสถาบันของรัฐจำเป็นต้องมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ เช่น ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศหรือการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดใหม่

คงจะจริงดังที่เขาว่า ความไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้เห็นชัดมากขึ้นในทุกมุมโลก นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด มีข้อมูลที่ผิด ๆ เกี่ยวกับโควิดแพร่ไปทั่วทั้งในสหรัฐฯ และที่อื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการฉีดวัคซีนของประเทศ และในท้ายที่สุดทำให้การระบาดยุติลงได้ช้า

ในความเห็นของเกตส์ วงจรข่าว 24 ชั่วโมง พาดหัวข่าวที่มีแรงจูงใจทางการเมือง และโซเชียลมีเดีย ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการสร้าง ความแตกแยกเพิ่มขึ้น และรัฐบาลอาจจำเป็นต้องควบคุมแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อขจัดข้อมูลเท็จให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จำนวนหนึ่งได้ให้ความสนใจต่อการควบคุมแพลตฟอร์มออนไลน์แล้วในขณะนี้ หลังจากในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ฟรานเซส เฮาเก้น อดีตวิศวกรของเฟซบุ๊ก ได้แถลงต่อกรรมาธิการวุฒิสภาเกี่ยวกับ “วิกฤต” ในการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดของเฟซบุ๊ก ซึ่งนี่เป็นขั้นตอนในเบื้องต้น ที่อาจนำไปสู่การออกระเบียบควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

เกตส์แสดงความกังวลว่า หากไม่มีการแทรกแซงโดยเร็ว ชาวอเมริกันอาจจะเลือกนักการเมืองที่แสดงออกและส่งเสริมความไม่ไว้วางใจอย่างเปิดเผยมากขึ้น และผลกระทบแบบสโนว์บอลนี้อาจทำให้ประชาชนยิ่งไม่แยแสต่อรัฐบาลมากขึ้น

เกตส์ยอมรับว่านี่เป็นปัญหาที่แก้ได้ยาก และเขาก็ไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร แต่เขามีแผนที่จะค้นหาและอ่านแนวคิดของคนอื่นต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนหนุ่มสาว ซึ่งเขาหวังว่าคนรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาในโลกออนไลน์จะมีแนวคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีจัดการกับปัญหาที่หยั่งรากลึกในอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นความตั้งใจที่ผู้นำประเทศของเราไม่น่าจะมี และไม่เคยคิดที่จะรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่

สำหรับซีอีโอคนอื่น ๆ ได้คาดการณ์ไปในทางเดียวกันว่า ปีหน้าจะเกิดความผันผวนอีกครั้ง และไม่ใช่ความผันผวนในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง และจะมีความผันผวนมากเป็นพิเศษในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจทุกประเภท และโควิดจะไม่จบลง เพราะจะมีการติดต่อวนต่อไป และระดับการฉีดวัคซีนทั่วโลกยังไม่คืบหน้า

นอกจากนี้ นักธุรกิจยังกังวลว่าสินค้าคงคลังจะหมด และห่วงโซ่อุปทานที่ตึงเครียดอยู่แล้วจะทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น และนำไปสู่การขึ้นราคาสินค้า ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลสูงเช่นกันว่าจะมีการลาออกครั้งใหญ่ของพนักงาน และความผันผวนที่คาดไว้ จะทำให้ความท้าทายในตลาดแรงงานเลวร้ายยิ่งขึ้น

ถึงกระนั้นก็ตาม บรรดาซีอีโอมองว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้ปรับโมเดลธุรกิจให้ง่ายขึ้นเพื่อรองรับความผันผวน กับกฎระเบียบที่เกิดจากโควิด หรือจากวิถีชีวิตใหม่

พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายของปี 2564 แล้ว แต่ดูเหมือนจะมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกมุมของโลก และนั่นน่าจะสนับสนุนได้ว่า “ความกังวล” ของเหล่าซีอีโอ และบิล เกตส์ น่าจะมีโอกาสเป็นจริงได้ไม่ยากในปีหน้า

เตรียมรับมือกันให้ดี อย่าได้ย่ามใจและเคลิบเคลิ้มแต่กับข้อมูลในด้านดีที่ความจริงอาจเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว

Back to top button