ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้

เสียงเพลงของป้าเบิร์ด ในเพลง “เล่าสู่กันฟัง” แว่วมาแต่ไกลเมื่อเห็นการใจป้ำจ่ายปันผลเป็นเงินสดงวดปลายปีของหุ้นโทรคมนาคมอันดับหนึ่งของไทยอย่าง ADVANC


เสียงเพลงของป้าเบิร์ด ในเพลง “เล่าสู่กันฟัง” แว่วมาแต่ไกลเมื่อเห็นการใจป้ำจ่ายปันผลเป็นเงินสดงวดปลายปีของหุ้นโทรคมนาคมอันดับหนึ่งของไทยอย่าง ADVANC

ที่ตัดสินใจปล่อยผีจ่ายเท่าเดิม หลังจากงบกำไรสุทธิงวดส่งท้ายปี 2564 ออกมาลดลงไปเล็กน้อยจากปี 2563 แค่ 2%

มติที่ให้จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดหุ้นจะอนุมัติให้เสนอที่การประชุมผู้ถือหุ้นในอัตรา 7.69 บาทต่อหุ้น ทำให้งวดครึ่งหลังของปีที่ระดับ  4.24 บาทต่อหุ้น เท่ากับ INTUCH จะได้รับปันผลจาก ADVANC ประมาณ 5,100 ล้านบาทจากหุ้นที่ถืออยู่ขั้นต่ำ 1,202 ล้านหุ้น

เหตุผลก็เพราะเรื่องของ “ฝนตกที่บ้านน้อง ฟ้าร้องถึงบ้านพี่เชิงบวกจากการได้รับเงินปันผลของ INTUCH ที่ส่งต่อมายังราคาหุ้น GULF ในทางอ้อมจะทำให้มีผลต่อราคาและกำไรจากการลงทุนของ GULF ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งของ INTUCH โดยปริยายไม่ต้องเหนื่อยยาก อย่างช้าก็ภายในเดือนเมษายนหรือไตรมาสที่สองของปี ที่จะมีผลบวกต่อกำไรสุทธิและมูลค่าหุ้นของ GULF ให้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าหรือไม่

หากคำนวณจำนวนหุ้นที่ GULF ถือใน INTUCH 1.35 พันล้านหุ้นเท่ากับเงินปันผลที่ GULF ได้รับขั้นต่ำจาก ADVANC ทางอ้อมจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2 .0 พันล้านบาท

หากข้างหน้าไปถึงอนาคต คิดเสียว่าอนาคตของ GULF หากไม่ยอมขายหุ้น INTUCH ออกไป และ INTUCH ยังคงนโยบายจ่ายปันผลในอัตราเดิมนี้ไปเรื่อย ๆ เท่ากับจะได้รับปันผลจากกำไรที่จ่ายปันผลของ ADVANC ปีละเฉลี่ยก็ขั้นต่ำ ปีละประมาณ 4 พันล้านบาท แค่ 11 ปี ก็คุ้มทุนแล้ว เว้นแต่ขายหุ้นใน INTUCH ออกไปบางส่วนก็จะคุ้มทุนเร็วขึ้น

ด้านผู้ถือหุ้นของ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH โดย GULF ของ ‘นายสารัชถ์ รัตนาวะดี’ มหาเศรษฐีด้านพลังงานคนล่าสุด ผู้รั้งอันดับ 5 การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2564 ได้ขยับจากผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ขึ้นมาเป็น ‘ผู้ถือหุ้นใหญ่’ เต็มตัวหลังการขึ้นทะเบียนตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2564 สามารถซื้อหุ้นไปได้จากการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ทั้งสิ้น 747.87 ล้านหุ้น หากคำนวณด้วยราคาหุ้น 65 บาทใช้เงินไปรวมประมาณ 4.86 หมื่นล้านบาท ทำให้ GULF ขึ้นมาอยู่หัวตารางของทำเนียบผู้ถือหุ้นในสัดส่วนทั้งหมด 42.25% โดยเป็นการรวมกับหุ้นที่มีอยู่เดิม 18.93% และซื้อเพิ่มได้ในครั้งนี้อีก 23.32%

ในกรณีของ INTUCH ที่มีกำไรสะสมเมื่อสิ้นไตรมาสที่สามมากถึง 20,563.66 ล้านบาทหากได้เงินปันผลจาก ADVANC งวดสิ้นปีนี้อีกประมาณ ราคาจะวิ่งขึ้นไปอีกจากราคาตามบุ๊กแวลูที่เพิ่มขึ้นไป ก็เป็นผลพลอยได้ ทำให้ราคาหุ้น GULF เพิ่มขึ้นไปอีกเป็นผลพวงที่ดีอย่างคาดไม่ถึงอีกต่างหาก

การที่ GULF ใช้เงินไปรวมประมาณ 4.86 หมื่นล้านบาท เพื่อขึ้นมาอยู่หัวตารางของทำเนียบผู้ถือหุ้น INTUCH ด้วยสัดส่วนทั้งหมด 42.25% ถือว่าเป็นความคุ้มค่าจากการรับเงินปันผลเป็นเงินสดทันทีทุกไตรมาสที่มีการจ่ายปันผลของ INTUCH ที่อ้างว่า “เป็นกิจการที่ดี และมีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัท” ทำให้นักลงทุนถึงบางอ้อทันทีในวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร GULF

นี้ยังไม่ต้องพูดถึงข่าวดีที่รออยู่ข้างหน้า โดยปีนี้  ADVANC จะมีกำไรจากธุรกิจสินเชื่อ AISCB ที่ร่วมลงทุนกับ SCB เข้ามาเสริม ขณะที่ธุรกิจบริการ Data Center และบริการ Cloud ที่ร่วมลงทุนกับ GULF และ SINGTEL ยังอยู่ระหว่างการตกลง

เอาเป็นว่า การกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้องของ GULF ให้ผลลัพธ์หลายต่อจริง ๆ แต่ราคาบนกระดานซื้อขายยามนี้ที่ค่า P/E สูงถึง 92 เท่า ทำให้คนกล้า ก็สามารถยืนขาสั่นได้เช่นกัน เว้นเสียแต่กำไรสุทธิจะเพิ่มมากขึ้นจนค่าดังกล่าวต่ำลงมา น่ายังพอทำให้ขาที่สั่นอยู่ยามนี้ บรรเทาลงไปได้

ต้องไม่ลืมข้อเท็จจริงที่ว่า ราคาหุ้นดีขนาดไหนก็ไม่ควรมีค่า P/E สูงเหมือนปีนยอดมะพร้าวได้นาน

Back to top button