พาราสาวะถี

จับอาการของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกับคำถามทางการเมืองว่าด้วยท่าทีของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ไม้เบื่อไม้เมาของท่านผู้นำต่อบทสัมภาษณ์


จับอาการของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกับคำถามทางการเมืองว่าด้วยท่าทีของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ไม้เบื่อไม้เมาของท่านผู้นำต่อบทสัมภาษณ์ “ไม่เอา เราไม่เอาตำแหน่งอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ใส่ใจเรื่องตำแหน่งหน้าที่ในคณะ (รัฐบาล) ชุดนี้” พร้อม ๆ กับการยืนยันว่าไม่หนุนคนชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค แต่จะหาคนที่เหมาะสมมาเป็นผู้ท้าชิง อ่านกันไม่ยาก นี่เป็นการยั่วยวน กวนประสาทเพื่อให้อีกฝ่ายเกิดความหงุดหงิด

ดูเหมือนจะได้ผล เมื่อนักข่าวนำเรื่องไปถามผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ก็ได้รับคำตอบด้วยน้ำเสียงที่ดุดันว่า “ใครจะปรับเหรอ คุณจะปรับเหรอ ไม่ได้ปรับอะไรทั้งนั้น” พอนักข่าวถามต่อ สบายใจหรือไม่ที่ธรรมนัสประกาศเช่นนี้ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ไม่ตอบ” ก่อนจะสะบัดตูดเดินขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที ไม่เพียงเท่านั้นในการตอบคำถามหลังประชุมครม. ท่านผู้นำยังบอกกับนักข่าวด้วยว่า ปัญหาอะไรที่มันไม่เกี่ยวข้องกันก็ให้ลด ๆ ลงไปเสียบ้าง ตนก็ต้องขอร้องกันแค่นั้น

ไม่ใช่ครั้งแรก ตลอดระยะเวลาที่รับหน้าที่บริหารประเทศ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะบอกเช่นนี้กับนักข่าวทุกครั้งเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองอยู่ในภาวะที่ตัวเองถูกกดดัน เหมือนจะร้องขอความเห็นใจ หรือความจริงหากมีหัวโขนหัวหน้าคสช.ก็คงจะสั่งบังคับไม่ให้มีการนำเสนอประเด็นที่ตัวเองไม่พอใจไปแล้ว แต่ไม่ใช่แค่น้องเล็กเท่านั้นที่ต้องรับแรงกระแทก พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็ต้องแบกภาระถูกตั้งปุจฉาเหมือนกันกับการที่เด็กในคาถาแสดงท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้

การบอกว่าธรรมนัสยังสนับสนุนรัฐบาลและผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงบารมีที่ตัวเองนั้นเป็นผู้ดูแลพรรคการเมืองที่ผู้กองมันคือแป้งนำ 17 ส.ส.ไปสังกัด แต่อีกด้านเป็นเหมือนการทำให้น้องเล็กได้หันกลับมาให้ความสำคัญกับเสียงของพรรคที่ตัวเองกุมอำนาจการตัดสินใจไว้ทั้งพรรคสืบทอดอำนาจและเศรษฐกิจไทย ไม่ใช่ไปให้ความสำคัญกับ 260 เสียงที่ได้รับการการันตีมาจาก อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ธรรมชาติของรัฐบาลผสมและในยุคที่กล้วยขายดี ใครที่สามารถประสานความร่วมมือกับส.ส.ต่างพรรคได้ ย่อมได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็มองจุดนี้ออกจึงต้องเอ่ยปากหนูช่วยด้วยนะ เพราะนิสัยของท่านผู้นำจะไม่ยอมลดตัวไปเกลือกกลั้วกับคนที่ตัวเองเคยด่าว่าชั่วว่าเลวอยู่แล้ว จึงต้องอาศัยนักการมืองอาชีพที่มีสายสัมพันธ์และกล้าที่จะยิงกระสุนเป็นมือเป็นไม้แทน โดยที่ผ่านมาหนูของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจนั้นก็มีส.ส.ในสังกัดทั้งพรรคตัวเองและต่างพรรคจนมีพลังต่อรองมหาศาล

สังเกตได้จากการไม่ตอบโต้ โทนี่ วูดซัม ที่พูดถึงการฉีดวัคซีนนักเลือกตั้ง 20-30 ล้านบาท และการดูแลกันเป็นรายเดือนเป็นตัวเลขหกหลัก ไม่ใช่เพราะเคยมีพระคุณต่อกันเท่านั้น หากแต่ปัจจุบันก็ยังต้องพึ่งพาอาศัยกันอยู่ ประเภทไก่เห็นตีนงูทั้งนั้น รู้ทั้งรู้แต่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อเลือกที่จะรักษาเสถียรภาพของตัวเองต่อการอยู่ในอำนาจให้ได้นานที่สุด จำเป็นที่จะต้องใจป้ำ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่น่าจะต้องกังวลเสียด้วยซ้ำ เพราะรู้กันอยู่ว่ามีใคร พวกไหนคอยซัพพอร์ตเต็มที่อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การเมืองในฝ่ายบริหารความเหนือชั้นในการเดินเกม และสร้างพลังต่อรองสำหรับพรรคร่วมรัฐบาล ประชาธิปัตย์ตกเป็นรองภูมิใจไทยหลายขุม เพราะไม่ใช่ประเภทใจถึงพึ่งได้ แต่ในแง่การเมืองฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว พรรคเก่าแก่ไม่เป็นสองรองใคร แสดงฤทธิ์เดชให้เห็นแล้วจากผลของการเลือกประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และว่าด้วยพรรคการเมือง

จากการที่พรรคสืบทอดอำนาจจับมือกับส.ว.ลากตั้งวางตัว ไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นตัวเลือกเดียวและเชื่อมั่นว่าจะไม่มีใครมาขัด ปรากฏว่าฝ่ายค้านเดินเกมด้วยการให้พรรคก้าวไกลต่อสายถึง สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นกรรมาธิการในสัดส่วนของครม. เพื่อจะเสนอชื่อชิงตำแหน่งดังกล่าว โดยที่เจ้าตัวก็ไม่ปฏิเสธ ทั้งที่มีคำแนะนำมาจากเนติบริกรอย่าง วิษณุ เครืองาม แล้วว่าไม่ให้เข้าร่วมประชุมในวันที่เหลือ เพราะกรรมาธิการจะเกรงใจความเป็นรัฐมนตรีแล้วยกมือให้

สาธิตก็ทำตามคำแนะนำอย่างดี ไม่เข้าร่วมประชุม แต่สุดท้ายที่ประชุมก็โหวตเลือกให้เป็นประธานและยังมีการยกหูหาระหว่างที่ประชุมครม.ด้วยว่ามติออกมาเช่นนี้แล้วเจ้าตัวจะรับตำแหน่งหรือไม่ ก็มีเสียงจากปลายสายว่ารับ ก่อนที่จะมีการให้สัมภาษณ์ต่อมาตามสไตล์คนพรรคเก่าแก่ เมื่อเป็นมติของที่ประชุมและเสียงของกรรมาธิการส่วนใหญ่เลือกแล้วจะปฏิเสธไม่ได้ต้องให้เกียรติกัน แต่ก็ประกาศว่าพร้อมที่จะทำหน้าที่ดังกล่าว

ตรงนี้มองดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ในทางการเมืองถือเป็นการสั่งสอนเรื่องมารยาทกลับไปยังพรรคสืบทอดอำนาจไปในตัว การเลือกตั้งซ่อมส.ส.หลายหนที่เป็นพื้นที่ของพรรคเก่าแก่แต่พรรคแกนนำก็ยังส่งคนลงแข่ง มันคือการไม่ถนอมน้ำใจเพื่อน ถือเป็นการให้บทเรียนที่เจ็บแสบ ขณะเดียวกันการที่สาธิตเข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมาธิการวิสามัญฯ รอบนี้ ก็เป็นการแสดงออกว่าไม่ไว้วางใจพรรคสืบทอดอำนาจที่จะให้ทำหน้าที่สำคัญแบบนี้อีกแล้ว

ที่ผ่านมากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญฝ่ายสืบทอดอำนาจเล่นเอาล่อเอาเถิดกันจนเละเทะ ทำให้คนของพรรคเก่าแก่ต้องคอยแก้ต่างแก้ตัวกันอุตลุด หนนี้ก็เช่นกัน หากยังปล่อยผ่านให้ซามูไรกฎหมายมานั่งเป็นประธาน ก็มีความเป็นไปได้ว่า กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับมีโอกาสที่จะไม่เป็นไปตามความต้องการของพรรคการเมืองส่วนใหญ่ที่อยากเห็นการแก้ไขนำไปสู่การเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ แต่ก็อย่าวางใจขบวนการสืบทอดอำนาจเป็นอันขาด การไม่ได้เก้าอี้ที่ต้องการไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ตั้งใจจะเล่นแร่แปรธาตุนั้นยุติตามไปด้วย ถ้าไม่ใช่พวกอย่างหนาก็ไม่กล้าชูคอกันมาถึงทุกวันนี้

Back to top button