SMK ก้าวสู่ฟื้นฟูกิจการ

ช่วงสัปดาห์ก่อนเกิดปรากฏารณ์ 3 วัน 3 ซิลลิ่ง กับหุ้น กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับ SMK ทั้งการเพิ่มทุน และอื่น ๆ หรือเปล่า..?


เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนเกิดปรากฏารณ์ 3 วัน 3 ซิลลิ่ง กับหุ้นบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับ SMK ทั้งการเพิ่มทุน และอื่น ๆ หรือเปล่า..?

มาถึงบางอ้อ…เมื่อ SMK แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ถึงการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง..!! ซึ่งบังเอิ๊ญบังเอิญวันแรก (10 พ.ค.) ที่หุ้น SMK วิ่งชนซิลลิ่งนั้น ช่างไปคล้องจองกับวันที่สำนักงาน คปภ. ไฟเขียวให้ SMK ยื่นร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางได้น่ะสิ…

แหม๊…สงสัยที่สำนักงาน คปภ. หน้าต่างมีหู ประตูมีช่องแหง ๆ…ว่าป๊ะล่ะ

ขณะที่สารตั้งต้นที่ทำให้ SMK เดินทางมาสู่จุดนี้ (การขอฟื้นฟูกิจการ) ก็มาจากพิษประกันโควิดแบบ เจอ จ่าย จบ นั่นแหละ ที่ทำให้ SMK บาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ ขนาดที่ว่างบปี 2564 พลิกมาขาดทุน 4,753 ล้านบาท จากรายได้รวม 10,898 ล้านบาท…

แม้ผู้บริหารจะพยายามกู้วิกฤต เสาะแสวงหาพันธมิตรเข้ามา แต่สุดท้ายดีลจบไม่ได้…ขณะที่สภาพคล่องก็หดหาย จากการเคลียร์ยอดเคลมประกันที่ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2564 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดติดกระเป๋าแค่ 1,798 ล้านบาทเท่านั้น

แถมล่าสุดยังต้องขอเลื่อนส่งงบไตรมาสแรกปีนี้ออกไปอีก โดยให้เหตุผลว่า “เนื่องจากในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2565 มียอดเคลมประกันโควิดปริมาณมากและสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก จึงต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการตรวจสอบข้อมูลให้มีความครบถ้วนถูกต้อง” จนนำมาสู่ตลาดหลักทรัพย์จับแขวนป้าย SP

เมื่อ SMK ยังไร้ผู้ร่วมทุนรายใหม่…สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการไปตามระเบียบ (พัก)…โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางแล้ว…

จุดที่น่าสนใจ ถ้ามองไปข้างหน้า หากศาลล้มละลายกลางรับคำร้องขอ นั่นหมายถึง ผู้เอาประกัน ในสถานะเจ้าหนี้ SMK จะทำยังไงต่อ…อันนี้น่าคิด

เนื่องจากในระหว่างนี้หนี้ทุกก้อนจะถูก Keep ไว้ การชำระหนี้จะไม่เกิดขึ้น จนกว่าจะมีการจัดทำแผนฟื้นฟูแล้วเสร็จ และศาลมีคำสั่งเห็นชอบ และจัดตั้งผู้ทำแผนต่อไป…ซึ่งในรายละเอียดของแผน อาจมีทั้งต้องเพิ่มทุน ขอแฮร์คัทหนี้ หรือแปลงหนี้สินเป็นทุน ก็ว่ากันไป…แต่ดูแล้วอีกนาน อย่างน้อย ๆ ไม่ต่ำกว่า 3–5 ปีเลยโน้นแหละ…

เท่ากับว่า กลุ่มผู้ทำประกัน จะมีความเสี่ยงทันที ทั้งคนที่กำลังรอเคลมประกัน และคนที่จะเคลมในอนาคต..!!

แต่มองอีกมุม การที่ SMK ไม่ได้ปิดบริษัทหนี…เหมือนหลาย ๆ บริษัทประกันที่เจอพิษโควิดแล้วปิดบริษัทหนี จนกลายเป็นข่าวฉาวก่อนหน้านี้ แต่เลือกที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูแทน ก็บ่งบอกว่า SMK ต้องการเดินหน้าธุรกิจประกันต่อไป…

ซึ่งการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูไม่ใช่เรื่องแปลก หลาย ๆ บริษัทที่ประสบปัญหามีหนี้สินล้นพ้นตัวก็ทำกัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI ซึ่งเป็นมหากาพย์การฟื้นฟูกิจการ จนนำมาสู่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานในปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งสายการบินแห่งชาติ อย่างบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI และบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ที่ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการเหมือนกัน

ดังนั้น การเลือกเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของ SMK ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานี้แล้วล่ะมั้ง…

ส่วนถ้าถามว่า SMK จะกลับมาได้เมื่อไหร่นั้น…เรื่องนี้ตอบยาก

แต่ที่ตอบได้ คือ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ประเมินโควิดผิด ชีวิตเปลี่ยนจริง ๆ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button