น้ำท่วม-สายสีเขียว

ผู้นำแบบชัชชาติก้าวขึ้นมาพร้อมกับภาพลักษณ์คู่ขนานของ “ผู้นำแบบเก่า” ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนส่วนใหญ่จะชอบผู้นำแบบไหน


ผู้นำแบบชัชชาติก้าวขึ้นมาพร้อมกับภาพลักษณ์คู่ขนานของ “ผู้นำแบบเก่า” ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนส่วนใหญ่จะชอบผู้นำแบบไหน

ความแข็งแกร่งของชัชชาติ นั่นคือความอ่อนแอของ “ผู้นำแบบเก่า” ไปโดยปริยาย นานวันเข้าอาจสูญพันธุ์ หรือสูญเสียอิทธิพลที่ดำรงคงอยู่ในสังคมไทยมายาวนาน

ฉะนั้น ควรต้อง “ตัดไฟเสียแต่ต้นลม” อะไรที่ดิสเครดิตชัชชาติได้ ก็ต้องดิสเครดิตโดยไม่รอช้า กระทั่งอะไรที่ทำลายชัชชาติได้ ก็ต้องทำลาย เพราะความสำเร็จของชัชชาติก็คือความล้มเหลวของผู้นำแบบเก่า

เฉพาะหน้านี้ มีปัญหาท้าทายชัชชาติอยู่ 2 เรื่อง นั่นคือ ปัญหาน้ำท่วมขังกทม. และค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวและความยุ่งเหยิงของสัญญา

ปัญหาน้ำท่วมขังกทม. ด้านการขุดลอกท่อระบายน้ำ ชัชชาติยังไม่ได้ลงมือทำอะไรได้มากนักหรอก ความยาวท่อระบายน้ำกทม.รวมทั้งสิ้น 6,500 กม. ชัชชาติเพิ่งได้นักโทษมาขุดลอกแบบจิตอาสาแค่ 1 กิโลเมตรเศษเอง

แต่ก็เป็น 1 กิโลเมตรที่มีความหมาย เพราะขุดลอกย่านตลาดใหญ่ห้วยขวาง และก็ทำให้ได้เห็นไขมันกลายเป็นหินก้อนโต ฟ้องว่ากรุงเทพฯ ของผู้นำแบบเก่า ปล่อยปละละเลยเรื่องการขุดลอกท่อมาได้อย่างไร

ในภาพรวมเรื่องน้ำท่วมขังกทม.ในเวลานี้ ก็ยังไม่มีหลักประกันสักเท่าไหร่หรอก แต่ก็ยังมีความหวังว่าผู้บริหารมหานครแห่งนี้ มาถูกทางแล้ว

1 ก.ค. วันนี้ จะใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท นำนักโทษมาขุดลอกท่อความยาวรวม 500 กม. ก็ยังไม่พอหรอก อย่างน้อยควรจะทำให้ได้ 3,000 กม.ตามที่หาเสียงไว้ และถ้าจะให้ดีแล้ว ก็ควรจะขุดลอกให้ได้สัก 4-5 พันกม.

หรือในราว 60-75% ของความยาวท่อรวมไปเลย งบประมาณหากจ้างนักโทษก็อยู่ในราว 120-150 ล้านบาทเอง ถูกจะตายชัก ดีกว่าไปตะบี้ตะบันจ้างเอกชน “ที่อาจแหกตา มีเงินทอน” แน่นอน

เรื่องโคตรหินเลยก็คืออัตราค่าโดยสารและความยุ่งเหยิงของสัญญาสายสีเขียวอันแสนจะซับซ้อนซ่อนเงื่อน!

สัญญาสัมปทานกับสัญญาจ้างเดินรถ สิ้นสุดไม่พร้อมกัน สัญญาสัมปทานสายสีเขียวจะสิ้นสุดในปี 2572 แต่สัญญาจ้างเดินรถปีละ 10,000 ล้านบาท จะสิ้นสุดเอาในปี 2585

กทม.จะต่อรองให้สัญญาทั้งสองสิ้นสุดลงพร้อมกันในปี 2572 ได้ไหม สัญญาจ้างเดินรถปีละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ต้องไปดูกันว่า “เกินเลย” ไปไหม

ยังจะมีรายการหนี้ค่าเดินรถค้างจ่ายที่กทม.มีต่อบีทีเอสประมาณ 30,000 ล้านบาท จากการเดินรถฟรีในส่วนต่อขยายอีก ซึ่งหนี้จะพอกพูนขึ้นทุกวันตามระยะเวลาติดค้าง

นี่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่สุดต้องเร่งแก้ไข เพราะค่าโดยสารคนยังฟรี แต่ค่าเดินรถไม่ฟรี ซึ่งชัชชาติโยนหินถามทางว่าจะให้มีราคาเฉพาะกาลตลอดสายที่ 59 บาท เพื่อแก้ปัญหาค่าจ้างเดินรถของกทม.ไปพลางก่อน

จะว่าอย่างไร!

กรณีอัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทางควรจะเป็นเท่าไหร่ ซึ่งตอนหาเสียง ชัชชาติบอกว่า 25-30 บาทสำหรับ 8 สถานี แต่สังคมบางส่วนรวมทั้งพรรคการเมืองบางพรรคเข้าใจไปแล้วว่า จะลดอัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทางลงมาเหลือ 25-30 บาท จากที่กทม.เดิมตั้งโจทย์ไว้ที่ 65 บาท

คงจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและระยะยาวสายสีเขียวไปพร้อมกัน โจทย์โคตรหิน ชัชชาติจะรอดไหมเนี่ย!

Back to top button