สวีทดีล: AIS-JASIF

ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน จำเริญวัยขึ้นอีก 1 ปี ครบรอบ 28 ปีเต็มในวันนี้ ด้วยทีมงานที่ครบเครื่องและหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม


ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน จำเริญวัยขึ้นอีก 1 ปี ครบรอบ 28 ปีเต็มในวันนี้ ด้วยทีมงานที่ครบเครื่องและหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม

เรามีหนังสือพิมพ์เป็นเรือธง มีข่าวหุ้นออนไลน์ WWW.Kaohoon.com เป็นตัวอัปเดตสถานการณ์ประจำวันให้ทันกาลทันเวลา และทันการลงทุน มีข่าวหุ้น เรดิโอสำหรับอุ่นเครื่องก่อนเข้าสนามรบ และมีข่าวหุ้นทีวี ออนไลน์ที่เผยแพร่ภาพและเสียงทางยูทูปและเฟซบุ๊ก

เข้าใจว่าแฟนคลับ...ข่าวหุ้นธุรกิจไม่หายไปไหน ตามความซบเซาของธุรกิจสิ่งพิมพ์ แถมแฟนคลับยังจะมากกว่าเก่า เพราะเข้าถึงข่าวสารของข่าวหุ้นธุรกิจได้อย่างครบเครื่องทั้งทางวิทยุ เว็บไซต์ และทีวีออนไลน์

การลงทุนในตลาดหุ้นปีนี้ ผ่านมาแล้วกว่า 9 เดือน ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่ไปไหน จากระดับ 1,657 จุดเมื่อสิ้นปี 64 ตอนนี้ก็ยังอยู่ในระดับเดียวกันกับเมื่อสิ้นปี

แต่ปัจจัยหนุน ได้แก่ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนใน SET ช่วง 6 เดือน ก็ยังมีผลกำไรเติบโต 13.9% ตลาด MAI ก็มีผลกำไรเติบโต 14.4% สภาพคล่องตลาดยังดูดีในระดับกว่า 70,000 ล้านบาท/วัน

แนวโน้มดัชนีปิดสิ้นปี 65 คงไม่หลุดระดับ 1,600 จุด และน่าจะฝ่ากรอบสูงในระดับ 1,700 จุดไปได้

ในรอบปีที่ผ่านมา มีดีล M&A เกิดขึ้นกว่า 10 เคส แต่เคสที่ผมให้การยอมรับนับถือที่สุด อาจจะเรียกเป็นดีลที่หอมหวนที่สุด และรักษาผลประโยชน์วิน-วินด้วยกันทุกฝ่าย ทั้งผู้จะซื้อ ผู้จะขาย และผู้ถือหน่วยลงทุน

ดีลนั้นก็คือ AWN บริษัทลูก AIS ทำรายการเข้าซื้อ TTTBB และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตจัสมิน (JASIF) มูลค่า 32,240 ล้านบาท

JASIF เป็นหน่วยลงทุนขวัญใจนักลงทุนที่หอมหวนที่สุด จากการจ่ายยีลด์หรือเงินปันผลในระดับ 9-10%/ปี จ่ายปันผลมาทุกไตรมาส รวม 30 ไตรมาส คิดเป็นเงินปันผลรวมแล้ว 6.75 บาท/หน่วย ในขณะที่จ่ายเงินลดทุนไปแค่ 3 ครั้ง คิดเป็นเงิน 0.1484 บาท/หน่วย

กองทุนฯ ที่จ่ายปันผลงดงามเช่นนี้ ไม่เป็นขวัญใจนักออมรายย่อยที่มีถึง 4.6 หมื่นราย และนักลงทุนสถาบันได้อย่างไร

แต่เบื้องหลังถึงสถานะกองทุนที่คนภายนอกไม่รู้ ก็คือกองทุนนี้ อาจไม่สามารถจ่ายปันผลที่เคยงดงามได้ในอนาคต เพราะต้นทุนค่าเช่าสินทรัพย์ที่แพง และการแข่งขันของคู่แข่งในอุตสาหกรรมที่สูง

ต้นทุนค่าเช่าที่ 3บีบี เช่าจาก JASIF คือ 503 บาท/คอร์กิโลเมตร/เดือน ส่วนต้นทุนค่าเช่าผู้นำบรอดแบนด์หมายเลข 7 ที่ทรูเช่าจาก DIF คือ 350 บาท หากขืนยังหอบค่าเช่าสูงขนาดนี้ 3บีบี ไม่น่าจะรอดในเวลา 5-7 ปีนี้แน่

ข่าว AIS ส่ง AWN เข้าซื้อ 3บีบี และ JASIF ช่วงต้นเดือน ก.ค. 65 แทนจะเป็น “ข่าวดี” สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุน กลับกลายเป็น “ข่าวร้าย” เพราะพ่วงเงื่อนไขจะซื้อ JASIF ที่ 8.50 บาท และการขอลดค่าเช่า 30% ลงมาด้วย

ราคาหุ้นร่วงจาก 10.80 บาท ลงมาที่ 8.80 บาท คงไม่ต้องกล่าวบรรยายถึงอารมณ์ขัดเคืองของผู้ถือหน่วย JASIF

แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ถือหน่วย JASIF ทั้งรายย่อยและสถาบันต่างก็มีจุดแข็งที่ถือหน่วยฯ รวมกันถึงร้อยละ 81 (JAS ถือเพียง 19% ไม่มีสิทธิออกเสียง) หากผู้ถือ JASIF ไม่โหวต “ดีลก็ไม่ดัน”

ต้องชมความใจถึงของ ADVANC หรือ AIS ที่ไม่เพียงแต่เพียรพยายามชี้แจงทำความเข้าใจกับสถาบันและรายย่อย หากยังปรับเงื่อนไขที่โดนใจผู้ถือ JASIF เพิ่มขึ้นถึง 2 ครั้ง 2 ครา

ครั้งแรก จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้ JASIF ปีละ 1,000 ล้านบาท รวม 3 ปี จำนวน 3,000 ล้านบาท อันจะทำให้ JASIF มีเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยใกล้เคียงกับระดับเดิมในช่วง 3 ปีได้

ครั้งที่ 2 ร่วมมือกับแบงก์เจ้าหนี้ ธนาคารกรุงเทพ ลดภาระทางการเงินลูกหนี้ JASIF ที่มียอดหนี้อยู่ 18,160 ล้านบาท โดยยืดหนี้ชำระอีก 2 ปี แทนจะสิ้นสุดในปี 2573 ก็ยืดออกไปเป็นปี 2575 ทำให้ภาระชำระหนี้รายปีเบาหวิวไปเลย

ยกตัวอย่างปี 2566 จากเงื่อนไขปัจจุบันต้องจ่าย 1,150 ล้านบาท แต่เงื่อนไขใหม่จ่ายแค่ 50 ล้านบาทเท่านั้น ในช่วง 5 ปีจากเงื่อนไขจ่ายปีละหลักพันล้าน กลายเป็นหลักร้อยล้านเท่านั้น

ทำให้ JASIF มีเงินไปจ่ายปันผลผู้ถือหน่วยฯ เพิ่มขึ้นอีก

สรุปแล้ว ดีลนี้ ผู้ถือหน่วยดั้งเดิม JASIF ก็ยังได้รับเงินปันผลใกล้เคียงระดับเดิม ธุรกิจก็มีความยั่งยืนมากกว่าเพราะเปลี่ยนเจ้าของใหม่จากจัสมินมาเป็นแอดวานซ์หรือเบื้องหลังซ้อนไปอีกชั้นหนึ่งก็คือ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์

วินวินกันทุกฝ่ายทั้งผู้จะขาย ผู้จะซื้อ เจ้าหนี้ และผู้ถือหน่วยลงทุน ถือเป็น “สวีทดรีม” หอมหวาน อันมีนวัตกรรมอีกต่างหากด้วย

Back to top button