STARK ดรีมทีมสถาบัน.?

เค้าเป็นใครหนอ...เค้ามาจากไหน..? ก็ถูกตั้งคำถามกันเยอะกับการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงของบริษัท STARK จำนวน 1,500 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 3.72 บาท


เค้าเป็นใครหนอ…เค้ามาจากไหน..? ก็ถูกตั้งคำถามกันเยอะกับการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP ของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK จำนวน 1,500 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 3.72 บาท ใครจะมาซื้อ..? จะเป็นกองทุน สถาบัน นักลงทุนรายใหญ่ หรือใครกัน..?

ล่าสุดเปิดชื่อออกมาแล้วมีจำนวน 12 รายด้วยกัน ซึ่งน่าสนใจทีเดียว เพราะเป็นกองทุนที่ได้รับการจัดสรรซะเป็นส่วนใหญ่..เริ่มที่ The Hongkong and Shanghai Banking Corporation Limited กองทุน (น่าจะเป็นไพรเวตฟันด์) จากฮ่องกงได้รับการจัดสรรไปมากสุด จำนวน 353 ล้านหุ้น มูลค่า 1,313.16 ล้านบาท

ตามมาด้วย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ได้รับการจัดสรร 320 ล้านหุ้น มูลค่า 1,190.40 ล้านบาท อันดับ 3 เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด ได้รับการจัดสรร 268.81 ล้านหุ้น มูลค่า 999.99 ล้านบาท อันดับ 4 บริษัท เอสซีบี แอสเซ็ท แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้รับการจัดสรร 182 ล้านหุ้น มูลค่า 677.04 ล้านบาท

ส่วนอันดับ 5 เป็น Credit Suisse (Singapore) Limited กองทุนไพรเวตฟันด์สัญชาติสิงคโปร์ได้รับการจัดสรร 74.39 ล้านหุ้น มูลค่า 276.77 ล้านบาท อันดับ 6 ก็เป็นกองทุนไพรเวตฟันด์สัญชาติสิงคโปร์อย่าง UOB Kay Hian Private Limited ที่ได้รับการจัดสรร 58.50 ล้านหุ้น มูลค่า 217.62 ล้านบาท อันดับ 7 บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดสรร 53.76 ล้านหุ้น มูลค่า 199.99 ล้านบาท

อันดับ 8 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด ได้รับการจัดสรร 47.02 ล้านหุ้น มูลค่า 174.95 ล้านบาท อันดับ 9 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการจัดสรร 32.49 ล้านหุ้น มูลค่า 120.86 ล้านบาท ส่วนอันดับ 10 เป็น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดสรร 29 ล้านหุ้น มูลค่า 107.88 ล้านบาท

อ้อ…บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ของ “เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์” ก็มาด้วยนะ ได้รับการจัดสรร  51 ล้านหุ้น มูลค่า 189.72 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทประกันยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ก็เอากะเค้าด้วย ได้รับการจัดสรร 30 ล้านหุ้น มูลค่า 111.60 ล้านบาท

ทำให้การเพิ่มทุนครั้งนี้ STARK ได้เงินเข้ากระเป๋าก้อนโตราว 5,579.98 ล้านบาท

แต่ดูรายชื่อแล้ว STARK ไม่ต่างจากดรีมทีมสถาบันเลยนะเนี่ย..!!

ว่าแต่ STARK มีดีอะไรนะ..!! ทำไมบรรดากองทุนถึงดาหน้าเข้าไปลงทุน..? อันนี้น่าคิด

โอเค…ถ้าไปดูในแง่ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี ก็เติบโตดีอยู่แหละ…โดยปี 2562 มีรายได้รวม 11,607 ล้านบาท กำไรสุทธิ 123 ล้านบาท ถัดมาปี 2563 รายได้รวมเพิ่มเป็น 16,917 ล้านบาท กำไรสุทธิแตะ 1,608 ล้านบาท ส่วนปี 2564 รายได้รวมปาไป 27,129 ล้านบาท กำไรสุทธิทะลุ 2,783 ล้านบาท ขณะที่ช่วงครึ่งแรกปี 2565 มีรายได้รวม 13,525 ล้านบาท ฟาดกำไรสุทธิไปแล้ว 1,260 ล้านบาท

ส่วนเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน ชัดเจนว่าจะใช้เป็นเงินทุนในการซื้อกิจการ LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc ผู้ผลิตสายไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ และ EV charging solutions อันดับ 1 ของโลกสัญชาติเยอรมัน มูลค่า 560 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว 20,572.89 ล้านบาท…ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของ STARK ในระยะยาว…ตัวเลขต่าง ๆ ก็ดูดีอะนะ

แต่จุดที่น่าสนใจ ถ้าดูประวัติของ STARK ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นหุ้นที่ไม่มีการจ่ายปันผลเลยนะ นั่นเท่ากับว่าใครที่เข้ามาลงทุนในหุ้นตัวนี้ คาดหวังได้แค่แคปปิตอลเกนเท่านั้น..!?

แหม๊…ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าจะเกิดปรากฏการณ์ไล่ราคาหุ้น STARK ให้เห็นอีกป๊ะเนี่ย…เพราะตอนนี้ราคาในกระดานอยู่ที่ 3.66 บาท ต่ำกว่าราคาเพิ่มทุนแล้วนะ…เท่ากับว่า กองทุนพวกนี้เข้าปุ๊บ…ก็ขาดทุนปั๊บน่ะสิ..!!

แล้วอย่าลืมว่า กองทุนพวกนี้ไม่ได้ติดไซเลนต์พีเรียดนะ ดังนั้นแผนธุรกิจอย่าได้ผิดไปจากที่ขายฝันเอาไว้เชียว ไม่งั้นจะเกิดแรงเทขายกระหน่ำซัมเมอร์เซลแน่ ๆ…ถึงตอนนั้นคงดูไม่จืดแหง ๆ…

เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button