หุ้นเวียดนาม..โอกาสบนความเสี่ยง

ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา “ตลาดหุ้นเวียดนาม” นับว่าผันผวนมากสุด ในบรรดากลุ่มตลาดหุ้นเกิดใหม่ ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม ปรับลงกว่า 10%


ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา “ตลาดหุ้นเวียดนาม” นับว่าผันผวนมากสุด ในบรรดากลุ่มตลาดหุ้นเกิดใหม่ ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม ปรับลงกว่า 10% ตามมาด้วยที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ “ตลาดหุ้นเวียดนาม” กันแน่..!?

มีหลากหลายเหตุผลที่ถูกหยิบขึ้นมาใช้เป็นคำอธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าว

เริ่มตั้งแต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ช่วงปลาย ก.ย. 65 ที่ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับ 4% เป็น 5% ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ในเวียดนามกว่า 30 แห่ง ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นโดยเฉลี่ย 0.9% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนของเวียดนาม ขึ้นมาอยู่ระดับ 6-7.5%

อีกเหตุผลคือการถูก Force sell บัญชี Margin ของนักลงทุนรายย่อย รวมถึงการลดการปล่อย Margin lending ของโบรกเกอร์ส่งผลให้ตลาดปรับลงลักษณะ Panic sell จากสภาพคล่องลดลงและความผันผวนสูง อันเนื่องมาจาก 90% ของนักลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม เป็นนักลงทุนรายย่อย

แถมมีแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ หลังจาก Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง..!!

และด้วย “ราคาหุ้นเวียดนาม” ที่ปรับลง ทำให้บรรดานักวิเคราะห์เริ่มมีมุมมองว่า แม้ตลาดหุ้นเวียดนามระยะสั้นจะเผชิญความผันผวนสูงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แต่ตลาดตอบรับประเด็นดังกล่าวไปมากแล้วหากพิจารณาจากผลตอบแทนส่วนเพิ่ม เพื่อมาชดเชยความเสี่ยงจากการที่ลงทุนในตลาดหุ้น (Earnings yield gap) ที่ซื้อขายใกล้เคียงค่าเฉลี่ยนับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหุ้น ที่สำคัญค่า Forward P/E ที่ซื้อขายมีระดับต่ำสุดรอบ 10 ปี

หากมองระยะยาว “ตลาดหุ้นเวียดนาม” ถูกมอง “เชิงบวก” มากกว่าลบ ด้วยเหตุผลที่ว่า..เศรษฐกิจเวียดนาม มีแนวโน้มเติบโตสูง โดย IMF ประเมินว่า GDP เวียดนาม มีแนวโน้มจะเติบโตสูงถึง 7% ในปี 2022 และเติบโต 6.7% ในปี 2023 จากการบริโภคภายในประเทศ และแนวโน้มการลงทุนโดยจากต่างประเทศ (FDI)

ในเชิงมูลค่า (Valuation) ได้สะท้อนปัจจัยเชิงลบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากแล้ว โดยปัจจุบัน Forward P/E ปี 2022 และปี 2023 ของตลาดหุ้นเวียดนาม ปรับตัวลงมาซื้อขายเฉลี่ยต่ำกว่า 10 เท่า ถือเป็นระดับตํ่าสุดรอบ 10 ปีและใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดช่วงเกิดวิกฤต COVID-19 ที่ค่า P/E ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 8 เท่า

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ มีโอกาสเติบโตระดับสูง โดย Bloomberg Consensus ประเมินว่า EPS Growth หุ้นเวียดนามปี 2022 ไว้ระดับ 22.4% และปี 2023 ระดับ 20% หากเป็นเช่นนั้นจริงถือเป็นการเติบโตที่สวนทางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงเลยทีเดียว

นั่นจึงเป็นเหตุให้ความผันผวนของตลาดหุ้นเวียดนามที่เกิดขึ้น อาจเป็นโอกาสของบรรดานักลงทุน ในการเข้าสะสมหุ้นเพื่อ “ลงทุนระยะยาว”

“จงกล้าตอนที่คนอื่นกลัวและกลัวตอนที่คนอื่นกล้า” วลีอมตะของ Warren Buffett ดูน่าจะเหมาะกับตลาดหุ้นเวียดนาม..ก็เป็นได้

Back to top button