คลื่นกระทบฝั่ง?

สุดท้ายปรากฏการณ์ “หยุดเทรด” ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจาก “ภาษีหุ้น” ก็เป็นเพียงแค่คลื่นกระทบฝั่ง ที่แม้จะมีเสียงคลื่นดังคำรามมาแต่ไกล


สุดท้ายปรากฏการณ์ “หยุดเทรด” ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจาก “ภาษีหุ้น” ก็เป็นเพียงแค่คลื่นกระทบฝั่ง ที่แม้จะมีเสียงคลื่นดังคำรามมาแต่ไกล แต่พอกระทบเข้ากับฝั่ง ก็เงียบหายไปอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” ถึงมีอาการเซ็งเป็ดอย่างบอกไม่ถูก เพราะเอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยมีนักลงทุนให้ความร่วมมือแบนสักเท่าไหร่? เดี๊ยนเลยสงสัยว่า คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีอาจเป็นเพียงแค่เกรียนคีย์บอร์ด ที่สักแต่จะพิมพ์เอามันลูกเดียวหรือเปล่า? (พรุ่งนี้คงกลับมาเคาะขวารัว ๆ กระมัง)

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการหัวร้อนกับการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ “สภาธุรกิจตลาดทุนไทย” หรือ FETCO ซึ่งมีสมาชิกมากถึง 7 องค์กร และประกอบไปด้วย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำไมไม่ออกแอคติ้งเยอะ ๆ ก็หน้านี้ล่ะพ่อคุณ

ฉะนั้นการที่ออกมาร้องแรกแห่กระเชอในจังหวะที่ทุกอย่างเดินหน้าไปหมดแล้ว จึงน่าจะเป็นเพียงแค่การหาแนวร่วมเพื่อไม่ให้สังคมเบนเป้ามาถล่มตัวเอง ซึ่งตรงกับคำโบราณที่ว่า “ทีทับไม่ร้อง ทีท้องให้รับ” เดี๊ยนถึงพยายามให้แฟนคลับตั้งสติให้ดีก่อนจะเล่นตามเกมของคนอื่น เพราะนักเล่นสามารถกำหนดเกมของตัวเองได้ว่า “เล่น” หรือ “ไม่เล่น” แถมมันก็เป็นเงินของเราเอง ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของคนอื่นหรอกค่ะ

เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ “โมนิก้า” พุ่งเป้าไปที่วานนี้ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,620.49 จุด ลบไป 1.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.26 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับวันก่อนมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 5.59 หมื่นล้านบาท มันมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญขนาดไหน? และคนที่ตอบได้ดีสุดก็คงเป็นแมงเม่าอีกตามเคย เพราะเดี๊ยนทำหน้าที่ได้แค่บอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต และปัจจุบันมันเป็นอย่างไรเจ้าค่ะ

เอานะ!..อย่างน้อยแมงเม่าก็ได้เห็นการแสดงพลังไม่เห็นด้วยในระดับหนึ่ง ส่วนจะสำเร็จมากน้อยขนาดไหน? ก็เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันไป “โมนิก้า” จึงขอยกตัวอย่างหุ้นการเมืองตัวพ่อ SIRI อยู่ในกลุ่มหุ้นที่เม่าหยุดเทรดด้วยหรือเปล่า? เพราะเมื่อดูจากการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.76 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 925 ล้านบาท มันช่างสวนทางกับสิ่งที่บรรดาเม่ารณรงค์นะจะบอกให้

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปมองแมวหลับอย่างหุ้น VGI ขึ้นมาเป็นตัวอย่างอีกเช่นกัน เพราะวานนี้ดันมีแรงซื้อเข้ามาเป็นระลอก จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.38 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 532 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้าก็สะลึมสะลือมาตลอด จู่ ๆ ดันเกิดอาการฟิตปึ๋งปั๋งในวันที่สังคมแมงเม่ารณรงค์หยุดเทรด เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า การขึ้นของหุ้นตัวนี้มีแมงเม่าเข้ามาตะลุมบอนเยอะไหม?…อิอิอิ

เรื่องข้างต้นเชื่อมโยงโดยตรงกับการทะยานขึ้นของหุ้น PRI เพราะเป็นหุ้นที่อยู่ในตลาด เอ็ม เอ ไอ ซึ่งเป็นตลาดที่มีรายย่อยชุมนุมอย่างคับคั่ง “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 22.70 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 7.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 610 ล้านบาท มันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่สวนทางกับมหาชนพอสมควร เดี๊ยนถึงมองจังหวะนี้เป็นโอกาสของคนที่ชอบโหนกระแสอย่างไม่ต้องสงสัยจ้า!

ขนาดหุ้นที่โอเว่อร์รีแอคแบบสุดซอยอย่าง MTW ยังถูกดันขึ้นมาเล่นหน้าตาเฉย “โมนิก้า” จึงไม่อยากหวังอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว..ขนาดหุ้นเทรดบน PE 71 เท่า พวกท่าน ๆ ก็ยังตะลุยกันไม่ยั้ง จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.92 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 5.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 416 ล้านบาทแบบนี้..มันเป็นเกมเสี่ยงเต็มประตูหน้าต่าง ๆ และพูดได้ทันทีว่า ใครลุกทีหลังจ่ายรอบวงแน่นอนค่ะ

ผิดกับในรายของ BE8 อย่างลิบลับ เพราะรายนี้มีสตอรี่โกรทเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยไตรมาส 4 ยังโชว์กำไรอย่างสวยงาม และไตรมาส 1 ปีหน้าก็จะปั้นกำไรได้อีก “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่วานนี้ราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 62 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 318 ล้านบาท เพราะราคาเป้าหมายที่ประเมินไว้อยู่แถว 100 บาท จึงเหลือแก๊ปให้เล่นอีกบานตะไทนะจ๊ะ

Back to top button