พาราสาวะถี

ปัญหาสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยความที่ถูกประทับตราไว้แล้วว่าเป็นพรรคของขบวนการสืบทอดอำนาจ เป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง


หลังจากวันนี้ที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มีหัวโขนเลขาธิการนายกรัฐมนตรีพ่วงเข้าไปอีกตำแหน่ง นอกเหนือจากความเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว คงจะทำให้บรรยากาศของพรรคดีขึ้น เป็นเหมือนการส่งสัญญาณไปยัง ส.ส.ทั้งหลายที่ยังไม่ตัดสินใจเดินมาร่วมทางพรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ให้เร่งตัดสินใจโดยเร็ว เพราะนี่เท่ากับเป็นการการันตีว่ายังไงผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ร่วมหัวจมท้ายด้วยแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยความที่ถูกประทับตราไว้แล้วว่าเป็นพรรคของขบวนการสืบทอดอำนาจ เป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ดังนั้น ทุกอย่างจึงต้องเดินกันด้วยความระมัดระวัง ไม่กระโตกกระตาก แม้กระทั่งการนัดกินข้าวกับ ส.ส.ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็เป็นไปอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ ไม่กล้าทำให้เป็นข่าวเอิกเกริก ทั้งที่คนเหล่านั้นต้องการแสดงตัวให้รู้ว่ามีพลังของท่านผู้นำหนุนหลังอย่างเต็มที่

ด้วยภาพลักษณ์คนดีที่ถูกชูมาแต่ต้น ทำให้หนีสิ่งที่อุปโลกน์กันขึ้นมาได้ยาก จึงส่งผลต่อการประสานงานเป็นไปด้วยท่วงทำนองกระมิดกระเมี้ยน มิหนำซ้ำ คนที่ทิ้งพรรคซึ่งตัวเองเคยอยู่มานานหลายสิบปีแล้วมาร่วมงานกับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ยังประกาศภาพใหญ่ที่จะเป็นเจตนารมณ์ของพรรคและคนที่จะต้องมาเดินตามคือ การกวาดล้างทุจริต คอร์รัปชัน ด้วยการยกตัวอย่างโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่อ้างว่างบประมาณครึ่งหนึ่งหายไปอยู่กับพวกที่มีอำนาจและผลประโยชน์ร่วมกัน

หากไม่สร้างภาพหรือขายเพียงแค่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจโปร่งใสไร้กลิ่นโกง มันก็จะต้องลากไส้แฉให้เห็นกันจะจะว่า มีโครงการไหนบ้างในรัฐบาลนี้หรือกว่า 8 ปีที่บริหารประเทศมา มีการหักหัวคิว จ่ายเงินทอนกัน ซึ่งในบรรดาทีมกุนซือของท่านผู้นำหรือแม้แต่คนที่เคยร่วมงานกันมาตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช. ยังพากันส่ายหน้า ค่าน้ำหมึกปากกายุคนี้แพงกว่าการเมืองในระบอบประชาธิปไตยหลายเท่าตัว แล้วเงินเหล่านั้นมันไปอยู่ตรงไหน

ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียวมันต้องเปิดข้อมูล และประจานกันให้สิ้นซากด้วย การรีรอ แต่งตัวกว่าจะไปร่วมกับรวมไทยสร้างชาติ แล้วอ้างเหตุผลสารพัด มันจึงทำให้บรรดานักเลือกตั้งเขี้ยวลากดินทั้งหลายหันหัวเรือไปยังเป้าหมายใหม่ที่พร้อมจะดูแลกันแบบถึงใจพระเดชพระคุณท่าน ไม่เพียงเท่านั้น ว่ากันว่าวงกินข้าวกับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามข่าวที่บอกว่ามี ส.ส.และว่าที่ผู้สมัครที่คาดหมายว่าจะได้รับเลือกตั้งถึง 40 คนนั้น

นับนิ้วกันไปมา ว่ากันว่า เหลือที่ชัวร์ ๆ แค่หลักสิบต้น ๆ หรืออาจจะต่ำกว่านั้น นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจยังไม่ยอมประกาศความชัดเจนทางการเมืองเสียที แต่การที่ปล่อยให้คนของพรรคใหม่ตัวเองออกมาพูดถึงปมการทุจริตนั้น อีกด้านถ้าไม่มีการเปิดโปงหรือเดินหน้าเอาผิดพวกหักหัวคิว เรียกเงินทอนทั้งหลาย ก็จะกลายมาเป็นไม้เด็ดไม้ตายสำหรับไว้ใช้ในการต่อรองหลังเลือกตั้ง ประเภท “ถ้าผมไม่ได้เป็นคุณก็อย่าหวัง”

ดังนั้น นายกฯ คนละครึ่งที่ถูกมองว่าหมดหนทางไปแล้วนั้น เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องใช้กลในการต่อรอง ยิ่งพรรคที่โชว์พลังดูดมหาศาล ถึงขนาดมั่นใจว่าจะสกัดแลนด์สไลด์ได้ ถ้าเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คนที่จะขึ้นเป็นนายกฯ จะต้องหัวหน้าพรรคตัวเองเท่านั้น ว่ากันว่า อย่าได้ชะล่าใจ ฮึกเหิมกันเกินงาม ถ้าหลังเลือกตั้งแล้วคะแนนเสียงมันทำให้ขั้วการเมืองเดิมจับมือกันได้ ประเด็นทุจริตก็จะถูกหยิบมาวางบนโต๊ะเจรจา จนคนที่คิดว่าถือไพ่เหนือกว่าต้องยอมรับเงื่อนไข

ไม่ต่างจากพรรคสืบทอดอำนาจ ที่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. แสดงออกอย่างเด่นชัด ด้วยการมอบหมายให้ ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นตัวแทนยืนบนโพเดียมเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสามัญประจำปี สภาเครือข่ายประชาชนอีสาน สภาประชาชน 4 ภาค เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โคราช เท่ากับเป็นการตอกย้ำว่า การก้าวเดินของพรรคแกนนำรัฐบาลปัจจุบันกับการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเดินคนละทางกับพรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ไม่ใช่การแยกกันเดินร่วมกันตี

ภาพอาจถูกมองไปเช่นนั้น แต่ปลายทางด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ สุดท้ายอาจจะต้องกลับมาเดินร่วมทางกันอีกหน เพียงแต่ว่าก่อนจะไปถึงจุดนั้น พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ขอใช้การเดินเกมการเมืองในแบบที่เรียกความมั่นใจให้กับลูกพรรค และสามารถมัดใจคนที่ต้องการจะมาเข้าร่วมได้ นี่คือสิ่งที่แตกต่างกับน้องเล็ก ไม่ต้องมาห่วงภาพลักษณ์จะเสียหาย จนทำให้เสียตัว ส.ส.ที่เคยตกปากรับคำว่าจะมาร่วมรวมไทยสร้างชาติไปหลายรายทั้งในพื้นที่ กทม.และภาคใต้

ความจริงปัจจัยที่ทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเสียศูนย์จากที่เคยวางไทม์ไลน์ไว้ว่าทุกอย่างทางการเมืองจะชัดเจนหลังประชุมเอเปคคือ ผลการวินิจฉัยร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับทั้งที่ว่าด้วยพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง ส.ส. โดยเฉพาะฉบับหลังที่คาดว่าน่าจะออกมาในทิศทางที่ทำให้พรรคใหม่ของตัวเองและบรรดาพรรคเล็กทั้งหลายที่จะมาเป็นตัวช่วยได้ผลประโยชน์ กลับเป็นไปในทิศทางตรงข้าม แม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญยังไม่คิดว่าผลจะเป็นเช่นนี้

เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทยได้สานสัมพันธ์ แจกกล้วยดูแลกันมาตลอด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องแสดงความชัดเจน ก็ได้ใจจากบรรดา ส.ส.ทั้งหลายที่ยอมไขก๊อกทิ้งพรรคเก่าสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคของ อนุทิน ชาญวีรกูล ทันที แม้จะมี ส.ส.ของพรรคสืบทอดอำนาจจำนวนมากที่ไหลไปด้วย แต่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็พอใจกับจำนวนที่ยังภักดีอยู่ร่วมกันต่อไป ในขณะที่ส่วนหนึ่งก็ได้ทาบทามคนจากพรรคอื่นไว้ด้วยเหมือนกัน โจทย์ใหญ่จึงไปตกอยู่ที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว จากผิดคาดจนมาถึงพลาดเป้า ถ้าหาทางเข้าฝั่งไม่ได้ก็จะกลายเป็นออกอ่าวออกทะเล 2 ปีที่ฝันว่าจะกลับมาก็จะไปไม่ถึง

Back to top button