BCP-ESSO เสริมโรงกลั่น..ดันค้าปลีก

ไม่ปรากฏคำปฏิเสธใดๆ จาก BCP ขณะที่ ESSO ก็สงวนท่าทีไม่ขอออกความเห็นใดๆ กับกรณีมีกระแสข่าว BCP จะรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว ESSO


ไม่ปรากฏคำปฏิเสธใด ๆ จากบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ขณะที่บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ก็สงวนท่าทีไม่ขอออกความเห็นใด ๆ กับกรณีมีกระแสข่าว BCP จะรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว ESSO ส่งท้ายปีเสือไฟ..!!

ไฮไลต์สำคัญต้องจับตาเปิดศักราชใหม่ปีกระต่ายทอง วันที่ 9 ม.ค.นี้ จะจบอย่างไร..? (ตามข่าวระบุว่า BCP จะมีการประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันนี้) และรูปแบบจะเป็นยังไง..? BCP จะซื้อหุ้น ESSO จากใคร..? ชื้อจาก EXXONMOBIL ASIA HOLDINGS PTE. LTD ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 65.99% หรือซื้อจากกระทรวงการคลัง ซึ่งถือหุ้นผ่านกองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง หรือใครกันแน่..?? เดี๋ยวคงได้รู้กัน…

ขณะที่ ดูศักยภาพของ BCP ซึ่ง ณ สิ้นสุด 30 ก.ย. 2565 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ในกระเป๋ากว่า 33,288 ล้านบาท ก็ถือว่ามีเงินสดเพียงพอนะ โดยมีการคาดการณ์ว่า จะใช้เงินซื้อหุ้นราว 30,000 ล้านบาท…

แต่ BCP คงไม่ใช้เงินสดทั้งก้อนหรอก น่าจะกู้แบงก์บางส่วน จะเป็นเงินกู้ระยะสั้นหรือระยะยาว ก็ว่ากันไป เพราะถ้าไปดูอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ยังต่ำ แค่ 1.73 เท่า ยังมีศักยภาพในการก่อหนี้ได้อีกเยอะ…และคงไม่ถึงขั้นต้องเพิ่มทุนด้วยนะ…ประเด็นนี้นักลงทุนคงเบาใจได้

ซึ่งหาก BCP ซื้อ ESSO จริง…ก็น่าจะได้เห็นการ Synergy ธุรกิจกันหลาย ๆ ด้าน…อันดับแรก ธุรกิจโรงกลั่น สำหรับ BCP แม้ที่ผ่านมาจะพยายามลบภาพโรงกลั่นยุคเก่า จากเดิมกลั่นได้แค่น้ำมันหนัก เช่น น้ำมันเตา น้ำมันดีเซล ก็มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้มีความทันสมัยขึ้น เน้นการกลั่นน้ำมันใสมากขึ้น ซึ่งได้มาร์จิ้นที่ดีกว่า แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบซะทีเดียว

การได้ ESSO มาก็จะทำให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น เนื่องจาก ESSO ผลิตได้ถึงขั้นน้ำมันเจ็ท หรือน้ำมันเติมเครื่องบิน..!!

ดังนั้น นอกจากทำให้กำลังการกลั่นของ BCP เพิ่มขึ้นเท่าตัวแล้ว โดยปัจจุบันโรงกลั่นบางจากมีกำลังกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 120,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ปัจจุบันโรงกลั่นเอสโซ่ (ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี) มีกำลังการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 170,000 บาร์เรลต่อวัน ยังได้ชนิดของน้ำมัน (ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง) เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ถัดมาเป็นเรื่องของต้นทุน จากเดิม BCP ต้องเช่าคลังที่ศรีราชา แล้วขนส่งมาโรงกลั่นบางจากที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง แต่หากมาใช้คลังน้ำมัน ESSO ที่ศรีราชา จะสามารถประหยัดค่าเช่าได้ปีละ 500 ล้านบาทเลยนะ

ในส่วนธุรกิจนอนออยล์…ปัจจุบันบางจากมีสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 1,300 แห่ง ถ้าได้เอสโซ่ ซึ่งมีสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 820 แห่งเข้ามา ก็จะทำให้ธุรกิจค้าปลีกของ BCP ขยายได้มากขึ้น โดยเฉพาะการขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลในปั๊มเอสโซ่…ช่วยหนุนให้ธุรกิจนอนออยล์มีโอกาสเติบโตมากขึ้น…

เมื่อมีปั๊มน้ำมันในเครือข่ายมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ จะทำให้เกิดการประหยัดขนาด หรือ Economies of Scale ดีขึ้น ต้นทุนขนส่งถูกลง สามารถสร้างแวลูได้มากขึ้นนั่นเอง

แล้วถ้าไปส่องงบ ESSO ก็ถือว่าไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่นะ แม้ว่าบางปีจะสะดุด พลิกขาดทุนไปบ้างก็ตามที แต่ปีไหนที่ดีก็ดีใจหาย โดยงบงวด 9 เดือนแรกปี 2565 ตุนกำไรสุทธิไว้แล้ว 11,071 ล้านบาท จากรายได้รวม 199,380 ล้านบาท

แถมถ้าดูประวัติการจ่ายปันผล ก็ไม่เลว เพิ่งหยุดจ่ายช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี่แหละ ถ้ากลับมาจ่ายอีกครั้ง ก็คงไม่น้อยกว่าที่เคยจ่ายละมั้ง..!?

ดังนั้น ถ้าดีลนี้เกิดขึ้นจริง คงเสริมแกร่งให้กับ BCP ได้มากโขเชียวล่ะ…

เอาเป็นว่า ดีล BCP ซื้อ ESSO จะเป็นดีลใหญ่ดีลแรกรับปีกระต่ายทองหรือเปล่า..? วันที่ 9 ม.ค.นี้คงได้รู้กัน…

แต่ถ้าไม่มีมูลฝอย หมามันไม่ขี้หรอกนะ..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button