เปิด 10 แชมป์ อสังหาฯ กำไรงาม

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปีนี้ บริษัทไหนจะรักษาแชมป์ไว้ได้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2566 นี้น่าจะเริ่มเห็นสัญญาณ


เส้นทางนักลงทุน

ในปี 2565 ที่ผ่านมา นับว่าเป็นปีทองของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น หลายบจ.ทุบสถิติเดิม สร้างสถิติใหม่ (New High) ทั้งกำไรและรายได้กันเลยทีเดียว

“ข่าวหุ้นธุรกิจ” ได้สำรวจบจ.ในกลุ่มนี้ที่ทำกำไรงวดปี 2565 ได้สูงสุด 10 อันดับแรก พบว่า บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ หรือ LH ทวงบัลลังก์แชมป์เบอร์ 1 ของอุตสาหกรรมคืนได้ โดยมีกำไร 8,313 ล้านบาท มีรายได้รวม 36,482 ล้านบาท

ในปี 2566 LH ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่า 34,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เป็นแนวราบ 16 โครงการ คอนโดมิเนียม 1 โครงการ วางเป้ายอดขาย 35,000 ล้านบาท และรับรู้รายได้ 33,000 ล้านบาท ส่วนรายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า อยู่ที่ 7,150 ล้านบาท

ตามด้วยอันดับ 2 บมจ.ศุภาลัย หรือ SPALI โชว์กำไร 8,173 ล้านบาท เสียแชมป์เบอร์ 1 ในงวดปี 2564 ให้กับ LH ส่วนรายได้พุ่งสู่ 35,501 ล้านบาท ยอดขายทะยานถึง 32,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% SPALI เดินหน้าแผนปี 2566 ตะลุยโครงการใหม่ 37 โครงการ รวม 41,000 ล้านบาท เพื่อพิชิตยอดขาย New High ที่ 36,000 ล้านบาท

อันดับ 3 บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP กำไร 8,877 ล้านบาท มีรายได้ 38,702 ล้านบาท AP เปิดศักราชใหม่ด้วยกลยุทธ์ “2023 AP INCLUSIVE GROWTH” ตั้งเป้าท้าทายเปิดใหม่ 58 โครงการ มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดกว่า 77,000 ล้านบาท ตั้งยอดขาย 58,000 ล้านบาท รายได้ 57,800 ล้านบาท และจากโครงการร่วมลงทุน (JV) 57,500 ล้านบาท

อันดับ 4 บมจ.แสนสิริ หรือ SIRI เป็นอีกหนึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโดดเด่นพุ่งทะลุเป้าหมายอย่างสวยงาม โชว์กำไรที่ 4,280 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 38 ปี เติบโต 112% และโชว์รายได้ 34,974 ล้านบาท มียอดขาย 50,000 ล้านบาท เติบโต 49% จากปีก่อน

ขณะที่ ในปีนี้รุกเปิดตัว 52 โครงการใหม่ รวม 75,000 ล้านบาท เป็นแนวราบ 30 โครงการ คอนโดมิเนียม 22 โครงการ ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 55,000 ล้านบาท เติบโต 10% มีเป้าหมายรายได้ที่ 40,000 ล้านบาท

ด้าน บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ครองแชมป์อันดับ 5 รับกำไรไป 3,775 ล้านบาท มีรายได้รวม 14,579 ล้านบาท ในปีนี้ ORI ภายใต้แนวคิด “Origin Infinity” จะเปิด 60 โครงการใหม่ รวม 80,000 ล้านบาท เป็นบ้านและคอนโดมิเนียม 42 โครงการ มูลค่ารวม 5 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ

แชมป์อันดับ 6 บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง หรือ PSH ทำกำไร 2,772 ล้านบาท มีรายได้ 28,640 ล้านบาท แต่รายได้จากวิมุตเติบโตกระโดด 4.7 เท่า ส่วนปี 2566 ตั้งเป้ารายได้ทั้งกลุ่ม 30,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5% จากการเปิด 23 โครงการใหม่ กว่า 23,500 ล้านบาท เพื่อดันยอดขายที่ 24,000 ล้านบาท และยอดโอนที่ 28,000 ล้านบาท และมีแผนการลงทุนธุรกิจใหม่อีกราว 6,000 ล้านบาท ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ จะลงทุนเพิ่มราว 2,500 ล้านบาท

อันดับ 7 บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC อวดกำไร 2,556 ล้านบาท รายได้ 21,685 ล้านบาท ปีนี้วางเป้ายอดขาย 30,000 ล้านบาท เติบโต 23% จากยอดขายโครงการแนวราบ 65% และคอนโดมิเนียม 35% หนุนรายได้ที่ 25,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16%

อันดับ 8 บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ หรือ QH กำไร 2,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เป็นผลกําไรขั้นต้นจากธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้ส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น แม้รายได้อื่นจะลดลง และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น ในปีที่ผ่านมา QH มีรายได้รวม 9,449 ล้านบาท

อันดับ 9 บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) หรือ FPT มีกำไร 2,032 ล้านบาท รายได้ 16,010 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 1 ปี 2566 (ต.ค.-ธ.ค. 2565) สร้างรายได้แล้ว 3,706 ล้านบาท FPT มีรายได้จาก 3 ธุรกิจหลัก คือกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย-อุตสาหกรรม-พาณิชยกรรม โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยช่วงที่เหลือของปีนี้จะเปิดอีก 9 โครงการใหม่ กว่า 14,000 ล้านบาท จากทั้งหมด 11 โครงการ รวม 17,500 ล้านบาท ในปีนี้

และอันดับ 10 บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ หรือ LALIN โชว์กำไร 1,271 ล้านบาท รายได้ 6,239 ล้านบาท ในปี 2566 จะลุยเปิด 10-12 โครงการใหม่ มูลค่า 7,000-8,000 ล้านบาท พร้อมเป้ายอดขาย 8,600 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 6,850 ล้านบาท

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้น่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด บริษัทไหนจะรักษาแชมป์ไว้ได้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2566 นี้น่าจะเริ่มเห็นสัญญาณ

Back to top button