เก็งกำไรหุ้นมอเตอร์โชว์.!?

หลังโหมโรงรอบสื่อมวลชน..วันนี้ (22 มี.ค.) ถือเป็นจุดเริ่มต้น..งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 อย่างเป็นทางการ


หลังโหมโรงรอบสื่อมวลชน..วันนี้ (22มี.ค.) ถือเป็นจุดเริ่มต้น..งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิดCOLORFUL EXPERIENCE ประสบการณ์ครบทุกสีสัน” จัดโดยบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ระหว่างวันที่ 22 มี.ค.-2 เม.ย. 66 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

“ปราจิน เอี่ยมลำเนา”ซีอีโอ GPI ในฐานะประธานจัดงาน ประกาศชัดปีนี้มีค่ายรถยนต์รถจักรยานยนต์ เข้าร่วมงานกว่า 40 แบรนด์ หลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว ทำให้ตลาดรถยนต์กลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมถึงตลาดรถพลังงานไฟฟ้า (EV) ที่กำลังเป็นเมกะเทรนด์ เข้ามาเติมเต็มสีสันมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้..จะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

เมื่องานมอเตอร์โชว์ กลายเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมระหว่างค่ายรถยนต์กับผู้บริโภคที่ต้องการซื้อรถยนต์ ในแง่มุมของการลงทุนทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้อง..จึงดูมีความน่าสนใจทั้งในเชิงการเก็งกำไรหรือลงทุนระยะกลาง ขานรับปัจจัยเชิงบวกกับโอกาสที่จะได้จากงานดังกล่าว

เริ่มจากผู้จัดงานคือ GPI การจัดงานครั้งนี้ จะผลักดันให้งบการเงินไตรมาส 2/66 เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากรายได้ค่าเช่าพื้นจากค่ายยานยนต์กว่า 40 แห่ง

ในมุมหุ้นกลุ่มค่ายรถยนต์..แม้แบรนด์หลัก ๆ ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่มีดีลเลอร์ใหญ่ค่ายฮอนด้า อย่างบริษัท ออโตคอร์ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG ที่มีโอกาสสร้างยอดขาย และกระตุ้นรายได้ช่วงไตรมาส 2/66 และครึ่งหลังปีนี้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

อีกกลุ่มที่ถือเป็นไฮไลท์ นั่นคือผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ที่มีโอกาสขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อมากยิ่งขึ้น อาทิ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO, ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP, ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้นำสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ด้วยกันทั้งสิ้น

ส่วนหุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ อาทิ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH, บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT, บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC และบริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำ กัด (มหาชน) หรือ STANLY น่าจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากยอดขายรถยนต์ที่จะเกิดขึ้น

หุ้นกลุ่มยานยนต์อีวี ดูเหมือนว่าบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA, บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD น่าจะถูกเก็งกำไรจากนักลงทุนมากสุด..

แต่ด้วยมาตรการอุดหนุนโรงงานแบตเตอรี่และปรับลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 1% ที่ยังค้างเติ่งรอการพิจารณาจากครม.และเมื่อยุบสภาไปแล้ว..ปัญหาครม.รักษาการจะอนุมัติได้หรือไม่.และรัฐบาลใหม่จะเอาด้วยหรือไม่ จึงกลายเป็นปัจจัยที่ด้อยค่าหุ้น EA-NEX-BYD อยู่ในขณะนี้นั่นเอง.!!

Back to top button