MTW เริ่มออกลาย.!

ย่างเท้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาได้ไม่ทันครบ 4 เดือน สำหรับหุ้น MTW แต่ก็ดูจะฮอตฮิตไม่เบา...สะท้อนได้จากราคาหุ้นที่วิ่งทะลุนรก


ย่างเท้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาได้ไม่ทันครบ 4 เดือน (เข้า 6 ธ.ค. 2565) สำหรับหุ้นบริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW แต่ก็ดูจะฮอตฮิตไม่เบา…สะท้อนได้จากราคาหุ้นที่วิ่งทะลุนรก จนเมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องจับขังกรงแคชบาลานซ์แดน 1 ก็พอดับความร้อนแรงไปได้บ้าง…

ขณะที่ ล่าสุดซื้อขายกันที่ 6 บาทเศษ หรือราคาปรับขึ้นจากราคาไอพีโอที่ 2.88 บาท ไปแล้วกว่า 100% เลยทีเดียว

เท่ากับว่า ใครที่มีหุ้นติดพอร์ต ณ ราคาไอพีโอ ป่านนี้คงรวยเละไปแล้ว…น่าอิจฉาจัง..!!

แหม๊…ราคาเย้ายวนใจซะขนาดนี้ มิน่าล่ะ…ผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 2 อย่าง “ชื่นจิตร ตั้งพิชญโพธิวัฒน์” จึงอดรนทนไม่ไหว ต้องรินหุ้นออกมา 3 วันซ้อน เริ่มจากวันที่ 20 มี.ค. 2566 ขายหุ้นจำนวน 5.39 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 6.39 บาท รวมมูลค่า 34.45 ล้านบาท

ถัดมาในวันที่ 21 มี.ค. 2566 ขายอีกก้อน จำนวน 1.50 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 6.11 บาท มูลค่า 9.21 ล้านบาท และในวันที่ 22 มี.ค. 2566 ขายอีกจำนวน 1.80 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 6.28 บาท มูลค่ารวม 11.31 ล้านบาท

เมื่อกดเครื่องคิดเลขดูแล้ว “ชื่นจิตร” จะได้เงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ไปราว 54.97 ล้านบาท ซึ่งถ้าหักต้นทุนหุ้น MTW ที่ราคาพาร์ 1.00 บาท เนื่องจาก “ชื่นจิตร” เป็นผู้ถือหุ้นเดิม ก็น่าจะฟันกำไรไปราว 46.28 ล้านบาท เองค่ะคุ้ณณณ…

นั่นแปลว่า ไม่ว่า “ชื่นจิตร” จะขายที่ราคาไหน ก็มีกำไรเนื้อ ๆ เน้น ๆ…

โอเค…การขายหุ้นทำกำไรของผู้ถือหุ้นเดิม…ทำได้ ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร

ซึ่งในกรณีของ “ชื่นจิตร” ก็น่าจะอยู่ในสัดส่วนที่ระบุไว้ในไฟลิ่งว่า “มีหุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่ไม่ติด silent period จำนวน 64,650,000 หุ้น คิดเป็น 19.18% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้” ที่อาจจะถูกขายออกมา…อันนี้เข้าใจได้

ขณะเดียวกัน ก็ตอกย้ำว่า มีโอกาสที่ผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายออกมาอีกน่ะสิ..?

เพราะยังมีแก๊ปให้ขายอีกหลายสิบล้านหุ้น ส่วนใครจะเป็นคนขาย..? ขายเมื่อไหร่..? เป็นช็อตที่ต้องจับตากันต่อไป

กลายเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องแบกรับกันไป…

แต่เอ๊ะ..!! การที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ออกลาย…อุ๊ย ทยอยรินหุ้นออกมาอย่างนี้ จะเป็นลางสังหรณ์ในเชิงลบหรือเปล่าน้อ..??

เพราะมักถูกตั้งคำถามว่า ถ้าบริษัทดีจริง…ทำไมขายเสียล่ะ..??

อย่าง MTW ก็มีสตอรี่เชิงบวกจากการหันมารุกหนักในธุรกิจผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ DECO ผ่านบริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด (DECO) ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ ที่จะช่วยหนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดด…แต่ไหง ผู้ถือหุ้นใหญ่มาชิงขายเสียล่ะ..?

แล้วถ้าไปเทียบเคียงกับหุ้นรุ่นพี่หลาย ๆ ตัวที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม “ขวัญศิรินทร์ โรจนพฤกษ์ ตัดขายหุ้นออกมา 3.0077% ตั้งแต่วันแรก ส่งผลให้ราคาหลุดจองตั้งแต่วันแรกเช่นกัน…

ตามมาด้วยบริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT ที่ “วิไล ตั้งคารวคุณ” กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมขายล้างพอร์ต 8.6956% รวมทั้งบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP ซึ่ง “ประสิทธิ์ชัย แดงประเสริฐ” เจียดขายหุ้นออกมา 0.0549% และ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ซึ่งบริษัท สรีราภรณ์ จำกัด กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมขายล้างพอร์ต 4.31% เช่นกัน

สิ่งที่ตามมา เกิดวิกฤตศรัทธา จนทำให้ราคาทรุดลงเรื่อย ๆ หุ้นบางตัวถึงทุกวันนี้ราคาก็ยังกู่ไม่กลับเลยนะเนี่ย…

ก็ไม่อยากให้  MTW ต้องเดินซ้ำรอยหุ้นรุ่นพี่อะนะ…

เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button