พาราสาวะถี

น่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่กล้าประกาศยืดอกยอมรับ ไม่ย้ายออกจากบ้านพักภายในค่ายทหารเพราะกลัวเรื่องของความปลอดภัย


น่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่กล้าประกาศยืดอกยอมรับ ไม่ย้ายออกจากบ้านพักภายในค่ายทหารเพราะกลัวเรื่องของความปลอดภัย เสียยี่ห้อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจหมด จึงไม่แปลกใจที่จะมีคำถามในทำนองที่ว่า ความปลอดภัยที่อ้างถึงหมายถึงเรื่องของชีวิต ร่างกาย หรือเอกสาร หลักฐาน หรือสิ่งอื่นใดที่เก็บงำไว้ตลอดระยะเวลาของการบริหารประเทศมากว่า 9 ปีหรือเปล่า แทนที่จะไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขที่บ้านของตัวเอง 

ไม่ว่าจะมองมุมไหนแม้จะกลายเป็นอดีตนายกฯ แต่ก็เชื่อว่าการเดินทางไปไหนมาไหนของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ยังจะมีบริวารล้อมหน้าล้อมหลัง อารักขากันเป็นอย่างดีข้ออ้างต้องพักที่บ้านในค่ายทหารเพื่อความปลอดภัยมันจึงฟังดูไม่สมเหตุสมผล แต่ก็นั่นแหละของพรรค์นี้มันพูดกันยาก คนที่ทั้งชีวิตมีแต่สั่งซ้ายหันขวาหัน มีแต่คนคอยปรนนิบัติ ขนาดมาบริหารประเทศยังมีเครื่องมือปกป้องคุ้มครองชนิดทำอะไรก็ไม่ผิด คงไม่กล้าที่ออกไปใช้ชีวิตแบบสามัญชนคนธรรมดา

ผิดกับพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ที่มีหัวโขนความยิ่งใหญ่การันตีไม่แพ้น้องเล็กในห้วงเวลากว่า 9 ปีที่ผ่านมา เมื่อรู้ทิศทางลมการเมืองย่อมมีความเปลี่ยนแปลง ก็ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ภาพเดินเหินไม่คล่องแคล่วยังถูกทำลายด้วยการใช้ใจบันดาลแรง ไม่มีคนหิ้วปีก คอยประคองในวันไปรายงานตัวเป็น ส.ส.ที่รัฐสภา อาการเช่นนี้เป็นเหมือนสัญญาณบ่งบอกสลัดพ้นความทุกข์ที่ต้องเป็นผู้แบกเสลี่ยงให้ท่านขุนนั่งมานาน เวลาที่เหลือจะได้เดินบนเส้นทางที่ตัวเองอยากทำเสียที

ไม่ต้องพูดถึงโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลของคนอยากอยู่ยาว การพลิกขั้วชนิดตาลปัตรไม่มีวันเกิดขึ้น ไม่ต้องมองอื่นไกล เอาแค่ภายในพรรคสืบทอดอำนาจระดับนำนอกเหนือจากพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.แล้ว ล้วนแต่เป็นคนที่ไม่เอาผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ มิหนำซ้ำ ยังมีบาดแผลจากการถูกกระทำในห้วงของรัฐบาลสืบทอดอำนาจมาด้วย ดังนั้น รวมไทยสร้างชาติจึงเป็นพรรคแรกพรรคเดียวที่ฟันธงได้ว่าจะได้เป็นฝ่ายค้านอย่างแน่นอน

ส่วนสองพรรครัฐบาลขั้วเก่าอย่างภูมิใจไทยและพลังประชารัฐ โอกาสที่จะได้เข้าร่วมรัฐบาลไม่ได้ถูกปิดลงเสียทีเดียว ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการโหวตเลือกนายกฯ จากที่ประชุมรัฐสภาผลจะออกมาอย่างไร ไม่เว้นแม้แต่ประชาธิปัตย์ อาจจะจับพลัดจับผลูได้เป็นรัฐบาลกับเขาได้เหมือนกัน แต่ความเป็นไปได้น่าจะน้อยกว่าสองพรรคแรก โดยเรียงความลำดับน่าจะเป็นคือ พรรคสืบทอดอำนาจ ภูมิใจไทย และพรรคเก่าแก่ ตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เกิดการพลิกคว่ำพลิกหงายคือ ส.ว.ลากตั้ง

สูตรการเมืองยึดตามฉันทามติประชาชนคือ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาลปัจจุบัน ผลักดัน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้เป็นนายกฯ คนที่ 30 ให้ได้ ภายใต้การขอรับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.จากพรรคที่ไม่ได้ร่วมอยู่ในเอ็มโอยูด้วย บวกกับเสียงของ ส.ว.ที่ให้ความสำคัญกับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน แต่ถึงตรงนี้ยังไม่มีใครการันตีได้ว่า เสียงที่ขาดหายไปอีก 64 เสียงนั้นเพียงพอแล้วหรือยังกับการโหวตเลือกนายกฯ ที่คาดว่าน่าจะดำเนินการได้ภายในกลางเดือนหน้า

แนวทางนี้ความเป็นไปได้ที่พิธาจะได้รับเสียงโหวตเกิน 376 เสียงนั้นยังห้าสิบห้าสิบ และมีแนวโน้มไปในทางที่จะชวดเสียด้วยซ้ำ จึงมีสูตรการเมืองที่สองคือเติมเอาพลังประชารัฐเข้ามา ตรงนี้ถือเป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว ตัวแรกได้เต็ม ๆ คือ 40 เสียงของ ส.ส.พรรคสืบทอดอำนาจ ตามมาด้วยเสียงของ ส.ว.ลากตั้งที่เหลืออีกแค่ 24 เสียงซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก มิหนำซ้ำ ถ้าใช้คอนเนคชั่นของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. เผลอ ๆ ก็จะได้เสียงถล่มทลายอีกต่างหาก

เพียงแต่สูตรนี้ฝ่ายประชาธิปไตยต้องยอมกลืนเลือด ก้าวไกลอาจต้องทำใจหนักกว่าเพื่อน แต่อย่างน้อยหากมีเป้าหมายเพื่อต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอาจจำเป็นต้องหลิ่วตาข้างกับความเคยเป็นอดีตพรรคที่สนับสนุนขบวนการสืบทอดอำนาจ ส่วนความเกี่ยวข้องต่อการก่อรัฐประหารนั้นพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็บอกแล้ว “ผมไม่ได้ทำ ไม่เกี่ยวข้อง” เป็นเรื่องของน้องเล็กแต่เพียงผู้เดียว แนวทางนี้มีเสียงจาก ส.ว.พวกที่ไม่ได้เป็นทาสผู้ภักดีของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจพร้อมที่จะเล่นด้วย

ส่วนความเป็นไปได้ที่จะดึงเอาภูมิใจไทยมาร่วม อันจะเป็นการได้เสียงเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่ต้องพึ่งการยกมือหนุนจาก ส.ว.เพื่อเลือกพิธา ประเมินจากท่าทีของหัวหน้าพรรคก้าวไกลแล้วมีความเป็นไปได้น้อย แม้จะมีข่าวดีลลับ เนวิน ชิดชอบ ก็เพียงแค่การโยนหินถามทางวิเคราะห์กันตามทิศทางที่อาจารย์ใหญ่ของพรรคเสี่ยหนูพูดเปิดทางไว้เท่านั้น สูตรนี้แม้จะปิดสวิตช์ ส.ว.ได้แต่จะมีปัญหาในการบริหารประเทศจนส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

ขณะที่สูตรที่สามตัดก้าวไกลพ้นจากวงโคจรเป็นรัฐบาล เพื่อไทยพลิกเกมจับมือกับภูมิใจไทย พลังประชารัฐ อาจดึงประชาธิปัตย์เข้าร่วมรวมทั้งพรรคเสรีรวมไทย ที่ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจพรรคสืบทอดอำนาจ ตรงนี้มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และเสียงหนุนจาก ส.ว.ก็ไม่มีปัญหา เชื่อว่าจะสามารถพูดคุยกันและรับประกันหวังผลได้ เพียงแต่ว่าสูตรนี้พรรคนายใหญ่อาจสมหวังในการที่คนของตัวเองได้เป็นนายกฯ พรรคได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แต่อำนาจการต่อรองจะไปอยู่ที่ภูมิใจไทย

ประเมินท่วงทำนองของคนเพื่อไทยล่าสุด เสียงทักท้วงจากฝ่ายขับเคลื่อนมวลชนของพรรค ยังคงยืนยันให้เดินหน้าไปพร้อมกับ 7 พรรคพันธมิตรปัจจุบัน การสละเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติให้ก้าวไกลไม่ใช่การเสียหน้า และไม่ถือเป็นความพ่ายแพ้ การเลือกเดินบนเส้นทางของฝ่ายประชาธิปไตย ยึดสโลแกนของพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน จะทำให้หวังผลถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ดีกว่าครั้งนี้ และการเดินตามแนวทางที่ได้เซ็นเอ็มโอยูร่วมกันนั้น ภาระความกดดันต่าง ๆ พรรคก็ไม่ต้องแบกรับ แทนที่จะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ ให้ได้ ใช้เวลาส่วนนี้ไปต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีชนิดเลือกเกรดเอล้วน ๆ ดีกว่า

Back to top button