โดนหลอกมาทุบ

ในที่สุดความกังวลที่อยู่ในก้นบึ้งหัวใจของ “โมนิก้า” ก็กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกข์หนักขึ้นกว่าเดิม เพราะแรงซื้อที่เข้ามาเมื่อวันก่อนเป็นแค่การเข้ามาเล่นเก็งกำไรสั้น ๆ


ในที่สุดความกังวลที่อยู่ในก้นบึ้งหัวใจของ “โมนิก้า” ก็กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกข์หนักขึ้นกว่าเดิม เพราะแรงซื้อที่เข้ามาเมื่อวันก่อนเป็นแค่การเข้ามาเล่นเก็งกำไรสั้น ๆ และวันนี้ถูกแทนที่ด้วยแรงขายที่มีออกมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนดัชนีลงมานอนนิ่งอยู่ที่ 1,407.02 จุด ลบไป 6.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.26 หมื่นล้านบาทแบบนี้ มันเหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า หมดช่วงฮันนีมูนแล้วนะตัวเอง

วันนี้เลยต้องดูว่า ดัชนีจะประคองตัวเหนือแนวรับ 1,400 จุดได้หรือเปล่า? เพราะองค์ประกอบหลายอย่างไม่เอื้อให้เล่นต่อจริง ๆ โดยเฉพาะท่าทีของ “กองทุน” กับ “ต่างชาติ” ที่ตอนแรกดูเหมือนตั้งใจมาซื้อหุ้น แต่เอาเข้าจริงกลับเป็นคนขายหุ้นออกมาเรื่อย ๆ ส่งผลให้ดัชนีกลับสู่วงโคจรไซด์เวย์ดาวน์เต็มตัวแบบนี้ เดี๊ยนถือเป็นเกมที่กดดันนักเล่นในทุกมิติอย่างแน่นอนพะย่ะค่ะ

เมื่อสถานการณ์ของตลาดหุ้นพลิกผันตลอดเวลา “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า หุ้นใหญ่จะไปได้อีกกี่น้ำ? เพราะประเด็นที่เป็นปัญหาตอนนี้เป็นเรื่องของกำไรไม่โต ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงชะลอตัว และถ้ามองในมุมของการพลิกโฉมครั้งใหญ่ ก็ยังไม่เห็นหุ้นกลุ่มไหนที่จะเข้ามาเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเลย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางอีกวันไงล่ะคะ

โดยเฉพาะในรายของปูนใหญ่ SCC กลายเป็นหุ้นที่ถูกรินขายเป็นเวลาร่วมสัปดาห์ จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 286 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 452 ล้านบาท และมีโอกาสที่จะลงไปลึกกว่าโลว์เดิมที่ระดับ 282 บาท  ย่อมเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกกดดันมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมันหมายความว่า วันนี้คนขายไม่สนใจปัจจัยพื้นฐานแม้แต่นิดเดียวนะตัวเอง

เช่นเดียวกับในรายของ SPRC ก็มีประเด็นการเทรดของหุ้นตั้งอยู่บน PE 10 เท่าแบบนี้..มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นการเทรดที่ต่ำกว่าราคาเหมาะสมอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ทุกคนก็เลือกที่จะขายหุ้นมากกว่าซื้อสวน ส่งผลให้โมเมนตัมเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางโค้งตัวลงอย่างชัดเจน เดี๊ยนเลยสงสัยว่า การลงมายืนปิดที่ระดับ 7.95 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 322 ล้านบาท คือแรงกดดันที่ทำให้หุ้นลงไปหาโลว์เก่าที่ระดับ 7.20 บาทน่ะซี

อีกหนึ่งรายที่ต้องระวังให้ดี “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น TTA หลังราคาหุ้นลงต่อเนื่องหลายวัน ต่อจากนั้นก็รีบาวด์เบา ๆ หนึ่งครั้ง จนวานนี้ทิ้งตัวลงมาปิดที่ระดับ 6.30 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 99 ล้านบาท มันเป็นภาพที่ไม่โสภาสักเท่าไหร่? เพราะในมุมของสัญญาณเทคนิค มันเหมือนบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า จบรอบ? และต้องลงมาเซตเกมใหม่ที่บริเวณ 5.80 บาทเจ้าค่ะ

ส่วนรายที่จู่ ๆ ก็โดนทุบเปรี้ยงแบบไม่ทันตั้งตัว คงต้องมองไปที่หุ้นโรงแรมอย่าง ERW เป็นรายแรก เพราะเมื่อย้อนดูการเคลื่อนตัวของหุ้นในช่วง 3 เดือนครึ่งจะเห็นว่า ราคาหุ้นขยับตัวขึ้นลงในกรอบ 5.00-5.40 บาทเป็นส่วนใหญ่ แต่เหตุไฉนวานนี้กลับโดนขายหนักตลอดทั้งวัน จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 4.84 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 138 ล้านบาทได้ล่ะ..น้องโมมึนตึ้บจริง ๆ จ้า

คล้ายกับกรณีของ TRP ก็ถูกรินขายออกมาเรื่อย ๆ ทั้งที่มีดีลควบรวมรออยู่ข้างหน้า และยังมีการรุกเข้าไปในตลาดวัยรุ่นมากขึ้น “โมนิก้า” มองเป็นข่าวดีสำหรับคนถือหุ้นอย่างแท้จริง แต่วานนี้กลับถูกเทขายเหมือนไม่อินกับประเด็นดังกล่าว เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นประเมินกันว่า การยืนปิดที่ระดับ 16.40 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 98 ล้านบาท โดยมีจุดเด้งเที่ยวก่อนอยู่ที่ 15 บาทแบบนี้..น่าเข้าไปเสี่ยงดูสักตั้งไหมคะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น VGI ขึ้นมาทันที เพราะการที่หุ้นร่วงจากไฮที่วิ่งขึ้นไปเมื่อสัปดาห์ก่อนที่บริเวณ 2.20 บาท จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 1.84 บาท ลบไป 0.07 บาท หรือลงไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165 ล้านบาท และเป็นบริเวณฐานเก่าที่หุ้นเด้งขึ้นแรงแบบนี้ เดี๊ยนถือเป็นเกมที่นักผจญภัยไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจนะจ๊ะ

Back to top button