หุ้นแบงก์ จังหวะซื้อหรือเปล่า

10 หุ้นแบงก์ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แจ้งผลประกอบการไตรมาส 4/2566 กันออกมาครบแล้ว มีกำไรรวมกัน 50,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.31% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565


10 หุ้นแบงก์ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แจ้งผลประกอบการไตรมาส 4/2566 กันออกมาครบแล้ว

มีกำไรรวมกัน 50,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.31% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565

ส่วนกำไรทั้งปี 2566 รวมกันจำนวน 232,017  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.00%

หากดูจากตัวเลขรวม ๆ แบบนี้

น่าจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นในกลุ่มฯ ได้

ทว่า กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น

เหตุเพราะหุ้นในกลุ่มฯ เช่น KBANK KTB KKP BBL มีตัวเลขสำคัญทางการเงินผิดไปจากคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งกำไร หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เงินกองทุน ฯลฯ

ส่งผลนักลงทุนทั้งสถาบัน ต่างประเทศ และรายย่อย ต่างพากันปรับพอร์ต หรือขายหุ้นเหล่านี้ออก

หลังจากนี้ คงต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินงาน และคาดการณ์ผลประกอบการของปี 2567 อีกครั้ง หลังจากการร่วมประชุมระหว่างผู้บริหารของธนาคาร และนักวิเคราะห์

แต่เชื่อว่า ผลหรือมุมมองที่ออกมา ไม่น่าจะแตกต่างไปจากวันที่หุ้นแบงก์เหล่านี้แจ้งงบออกมามากนัก

ทั้งคาดการณ์กำไร ราคาเป้าหมาย คำแนะนำ “ซื้อ” และ “ถือ”

ยิ่งผู้บริหารของธนาคารต่าง ๆ เวลาให้ข้อมูลนั้น

จะค่อนข้างแตกต่างจากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั่ว ๆ ไป

คือจะให้ข้อมูลแบบระมัดระวัง อนุรักษนิยม หรือ Conservative แบบนั้นแหละ

ปุจฉา หรือคำถาม คือ แล้วราคาหุ้นแบงก์ที่ร่วงลงมา เป็นจังหวะในการดักซื้อหรือเปล่า

วิสัชนา หรือคำตอบ คือ ต้องดูทั้งสัญญาณทางเทคนิค ดูกราฟราคาหุ้น และทิศทางการพยากรณ์ผลประกอบการของนักวิเคราะห์ควบคู่กันไป

อย่างวานนี้ราคาหุ้นกรุงไทย หรือ KTB ราคาปรับลงหนักมากสุดในกลุ่มฯ

จากระดับ 18.10 บาท เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา

ลงมาปิด 16.20 บาท ลดลง 1.90 บาท เปลี่ยนแปลง -10.50% มูลค่าการซื้อขาย  4,807.4 ล้านบาท

ระหว่างวันราคาลงไปต่ำสุด 15.60 บาท เป็นจุดต่ำสุดในรอบ 18 เดือน

ส่วนราคาปิดที่ระดับ 16.20 บาท เป็นแนวรับพอดี

หากวันนี้ (23 ม.ค.) ราคาหุ้นกรุงไทยปรับลงต่อ

จะมีแนวรับถัดไปคือ 15.30 บาท และระดับลึกสุดอยู่ที่ 14.50 บาท

แต่ค่อนข้างมั่นใจว่า ราคาไม่น่าจะหลุดแนวรับ 15.30 บาท (15.00 บาท เป็นแนวรับจิตวิทยา)

ส่วนวันนี้หากราคาหุ้นกรุงไทยดีดกลับ แนวต้านจะอยู่ระหว่าง 16.50–16.90 บาท

ขณะที่บทวิเคราะห์หุ้นกรุงไทยล่าสุดที่มี 11 โบรกฯ เคาะราคาล่าสุด อัปเดต (22 ม.ค.) กันออกมา พบว่า ราคาเป้าหมายต่ำสุดอยู่ที่ 18.50 บาท และสูงสุด 26.00 บาท

กสิกรไทย หรือ KBANK วานนี้หลุดแนวรับ 121.50 บาท ลงมาปิด 120.50 บาท

แนวรับถัดไปคือ 118.50–116.00 บาท

KBANK ราคาที่ลงไปจุดต่ำสุดและใกล้สุดคือระดับ 101.00 บาท เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 ซึ่งสถานการณ์ ณ ตอนนั้น กับล่าสุด สถานภาพความเข้มแข็ง โอกาสทางธุรกิจของกสิกรไทยแตกต่างกันเยอะ

จึงเชื่อว่า ราคาจะไม่หลุด 100.00 บาท

ส่วนแบงก์กรุงเทพ หรือ BBL แนวรับถัดไป 142.00 บาท ส่วนวานนี้ปิด  144.50 บาท

ในทางเทคนิค ราคาไม่ควรจะหลุดแนวรับ

แต่ต้องย้อนกลับไปดูด้วยว่า “ต้นทุน” ของนักลงทุนต่างชาติที่ปรับพอร์ตหุ้น BBL ออกมา อยู่ที่เท่าไหร่

มีนักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจอยู่ช่วงราคา 1100.00-120.00 บาท

สำหรับหุ้นแบงก์นั้น จะพบว่า ราคาหุ้นจะขึ้นลงไปตามสถานการณ์ คือพอเจอกับการตั้งสำรองมาก ๆ ราคาจะร่วงลงหนัก แล้วพอ (ผ่านจุดเลวร้ายไปแล้ว) ราคาจะค่อย ๆ ดีดกลับทุกครั้ง

ราคาหุ้นแบงก์ไม่เคยดิ่งลงแล้วจมหายแบบไม่ผุดไม่เกิด

ใครติดอยู่หากถือรอได้ ควรถือ อย่างน้อยมีเงินปันผลปลอบใจบ้าง ยีลด์ไม่ได้ขี้เหร่อะไร

ส่วนหากใครยังไม่มีหุ้นในพอร์ต

อาจต้องหาจังหวะแนวรับดี ๆ เพื่อซื้อแล้วถือระยะปานกลาง

Back to top button