CPAXT กลเกมรวมกิจการ.!?

งบดูดีมีเซอร์ไพรส์ไม่น้อยทีเดียว...!! สำหรับ CPAXT ของกลุ่มซีพี ซึ่งงบงวดปี 2566 โชว์กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,640 ล้านบาท เติบโต 12.3%


งบดูดีมีเซอร์ไพรส์ไม่น้อยทีเดียว…!! สำหรับบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ของกลุ่มซีพี ซึ่งงบงวดปี 2566 โชว์กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,640 ล้านบาท เติบโต 12.3% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7,697 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 489,949 ล้านบาท เติบโต 4.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 469,131 ล้านบาท

เห็นได้จากราคาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.พ. ที่ดีดดิ้นขึ้นมา 9.17% หรือปรับเพิ่มขึ้น 2.75 บาท หลังจากที่ซึมกระทือมาเป็นแรมปี…

แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น นั่นคือการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่ม..!!

เริ่มจากสเต็ปแรก CPAXT จะรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท โลตัสส์ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (Lotus’s Thailand) ซึ่งรวมถึงทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของ Lotus’s Thailand ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีในอนาคต โดยสินทรัพย์หลักก็คือหุ้นบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (Ek-Chai) เจ้าของห้างโลตัสส์ คิดเป็นมูลค่า 7,680 ล้านบาท

หลังจากธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมดแล้วเสร็จ ก็จะดำเนินการเลิกกิจการ Lotus’s Thailand ไป

สเต็ปถัดมา CPAXT ก็จะรวมร่าง (ควบรวมกิจการ) กับ Ek-Chai เกิดเป็นบริษัทใหม่ ส่วนจะชื่อเสียงเรียงนามอะไร..? ต้องรอเคาะอีกที…

โดยในธุรกรรมการควบรวมนั้น จะมีการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้กับผู้ถือหุ้นของ CPAXT ในอัตรา 1 หุ้นเดิม : 0.50 หุ้นในบริษัทใหม่ และผู้ถือหุ้น Ek-Chai ในอัตรา 1 หุ้นเดิม : 10.00 หุ้นในบริษัทใหม่

โดย CPAXT เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติความเห็นชอบในวันที่ 29 ก.พ. 2567 เบื้องต้นถ้าไม่ติดขัดอะไร คาดจะได้เห็นร่างใหม่ของ CPAXT ภายในไตรมาส 4 ปีนี้

การปรับโครงสร้างธุรกิจของ CPAXT ครั้งนี้ ในแง่ผลดี เดิมที Ek-Chai หรือห้างโลตัสส์ มีสถานะเป็นเหลนของ CPAXT (เป็นบริษัทย่อยทางอ้อม เนื่องจากมีบริษัทลูกที่ชื่อบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ถือหุ้นผ่าน Lotus’s Thailand และ Lotus’s Thailand ก็ไปถือหุ้นใน Ek-Chai อีกที) การรับรู้รายได้และกำไรอาจไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะต้องผ่านหลายด่าน…

แต่จากโครงสร้างใหม่ ห้างโลตัสส์จะกลายมาเป็นเนื้อเดียวกับ CPAXT (มีการควบรวมกิจการกัน) ก็ไม่ต้องผ่านใครอีกต่อไป สามารถรับรู้รายได้และกำไรได้ตรง ๆ เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ขณะที่ ในแง่โครงสร้างของ CPAXT หรือบริษัทใหม่ จะมีความแจ่มชัดขึ้น มี 2 ขาหลัก คือ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง และกลุ่มธุรกิจค้าปลีก

ในมุมการบริหารจัดการก็ง่ายขึ้น สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ร่วมกันอย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น แถมยังช่วยลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนได้อีกด้วย…

ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแหละ แต่หลายคนอาจอดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วทำไม CPAXT เพิ่งมาปรับโครงสร้างธุรกิจเอาป่านนี้..? เหตุไฉนตอนซื้อโลตัสส์มาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว กลุ่มซีพีไม่ให้ CPAXT เข้าไปซื้อโดยตรงให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย จะได้ไม่ต้องมาปรับโครงสร้างภายหลังให้ปวดเศียรเวียนเกล้า…

ถ้าให้เดาใจ…ตอนนั้นโลตัสส์อาจมีภาระหนี้อ๊ะป่าว..? ซึ่งการถือโดยตรงก็ต้องรับรู้หนี้เข้ามาทั้งก้อน อาจจะหนักไป เลยใช้วิธีการให้บริษัทลูก (บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์) ถือแทน ก็ไม่ต้องรับรู้โดยตรง ทำให้โครงสร้างทางการเงินไม่หนักจนเกินไปหรือเปล่า..?

แหม๊…ช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีให้ถือผ่านเหลน ครั้นพอเศรษฐกิจดีมาถือเองซะงั้น…

รังสิตมันร้าย…อุ๊ย ซีพี..ก็ไม่ธรรมดานะเนี่ย..!!

เชื่อเถอะว่า กลเกมของซีพีไม่ได้คิดชั้นเดียวเชิงเดียวหรอก…

…อิฉันเอาหัวเป็นประกัน…

…อิ อิ อิ…

X
Back to top button