ไม่เต็มใจขึ้น?

สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยไม่มีอะไรเร้าใจเหมือนวันก่อน ๆ เพราะนักเล่นอ่านเกมออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ว่าเมื่อใดที่ตลาดหุ้นไทยพุ่งกระฉูด วันถัดมามักเกิดอาการขาแข้งสั่นประจำ


สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่มีอะไรตื่นเต้นเร้าใจเหมือนวันก่อน ๆ เพราะนักเล่นอ่านเกมออกอย่างทะลุปรุโปร่งว่า เมื่อใดที่ตลาดหุ้นไทยพุ่งกระฉูด วันถัดมามักเกิดอาการขาแข้งสั่นเป็นประจำ จึงเลือกใช้วิธีเล่นแบบเพลย์เซฟ เพื่อรอให้แรงขายสะเด็ดน้ำเสียก่อน ต่อจากนั้นถึงจะเริ่มไล่หุ้นรอบใหม่แบบดุดัน ซึ่งจังหวะนี้เปิดช่องให้หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กออกมาโชว์ของกันมากขึ้นไงล่ะคะ

วันนี้เลยต้องบอกกันตามตรงว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,372.16 จุด บวกไป 1.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.93 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่ย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า การเล่นเที่ยวนี้ยังเป็นแบบสั้น ๆ เหมือนเดิมทุกประการ แต่ต่างกันตรงที่เศรษฐกิจดูจะถดถอยลงทุกวัน ซึ่งเป็นแรงกดดันที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกด้านข้างแบบไม่มีกำหนด เดี๊ยนถึงเฉย ๆ เมื่อเห็นดัชนีมีลักษณะ “ขึ้นแรง ลงแรง” น่ะซี

ขนาดพี่เทพ PTTEP ยังออกอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ และยังไม่รู้จะไปทางไหน? เดี๊ยนถึงมองว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 151.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท เหมือนตัวชี้วัดที่บอกนักเล่นให้รู้ว่า “ต่างชาติ” กับ “กองทุน” เริ่มถอนคันเร่ง เลยต้องลุ้นกันต่อไปว่า หุ้นจะไปต่อไหม? เพราะเป็นเวลาร่วมเดือนที่ราคาหุ้นยึกยักไปมาที่ระดับ 150-155 บาทไงล่ะตัวเอง

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นแบงก์สีฟ้าอย่าง KTB เพื่อชี้ให้เห็นการทิ้งตัวลงท่ามกลางการประโคมข่าวดีสารพัด แต่สุดท้ายก็ยังโดนทิ้งอยู่ดีแบบนี้ มันเป็นเกมที่น่ากังวลมาก ๆ สำหรับคนที่คิดจะเข้าไปรับของ เพราะเหมือนเป็นการบอกใบ้ให้ทุกคนรู้ว่า ผลงานอาจไม่เป็นไปตามเป้า และเวอร์ชวลแบงก์ยังอีกไกล ส่งผลให้การขายหุ้นจนลงมาปิดที่ระดับ 15.80 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.71 พันล้านบาทเป็นเรื่องถูกต้องจ้า!

ในเมื่อมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของการทำธุรกิจ “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่หุ้น LH ยังถูกทิ้งไม่เลิกสักที เพราะเมื่อดูจากเจ้าของบริษัทโดนคดีจนเป็นข่าวโด่งดัง ก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า บรรดากองทุนทั้งในและต่างประเทศจะขายหุ้นอีก เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการลงทุน วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมาปิดที่ 7.10 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 706 ล้านบาทเจ้าค่ะ

ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงตัวผู้บริหารขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” จำเป็นต้องเอ่ยถึงหุ้น MGI อีกครั้ง (จริง ๆ ไม่อยากพูดให้เปลืองน้ำลาย) แต่เผอิญเห็นท่าทีของ “นะวัด” ที่ออกมาสาปแช่งคนขายหุ้น และประกาศกร้าวจะปิดสมุดบัญชีทุกวัน เพื่อหาคนขายหุ้นออกมาแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นเรื่องของการ “ทำผิดหน้าที่” และเรื่องนี้ก็คงทำให้ ตลท. ต้องเรียกไปปรับทัศนคติอย่างเร่งด่วน เพราะภาพที่ออกมามันเหมือน “เทรดเดอร์” มากกว่า “ผู้บริหาร” น่ะซี

เม้าท์ถึงเรื่องไม่จรรโลงจิตใจมาพอสมควร “โมนิก้า” ขอหันมาดูหุ้นที่ยังร้อนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อย่างหุ้น BYD กันดีกว่า เพราะการเขย่าหุ้นในช่วงเช้าอย่างเมามัน ก่อนจะดันหุ้นแรงในช่วงบ่าย มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า กำลังมีการเช็กกำลังพลเกิดขึ้น และการที่หุ้นยืนปิด 4.22 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 228 ล้านบาท ก็แสดงว่า ไม่มีใครแตกแถวนะจะบอกให้

ส่วนดาวรุ่งพุ่งแรงที่เล่นกันอย่างสุดเหวี่ยง และกลายเป็นหุ้นที่ต้องเหลียวมองทุกครั้ง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น TPS แบบไม่กระพริบตา เพราะการที่หุ้นบวกแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.02 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 9.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 109 ล้านบาท อาจตีความได้ว่า หุ้นจะไปต่อค่อนข้างสูง แต่หลายครั้งที่ผ่านมา หุ้นก็จอดป้ายแถวนี้ เดี๊ยนเลยเสียวไส้แทนคนเล่นพะย่ะค่ะ

อีกรายที่อยากเอาใจช่วย เพราะโดนบางคนหักหลัง “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นน้องใหม่อย่าง PANEL ซึ่งเริ่มขยับตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 2.92 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับหุ้นที่เริ่มฟื้นตัวจากความผิดหวัง แต่ก็ต้องดูกันต่อไปว่า ผลงานปีนี้จะช่วยซัพพอร์ตมากขนาดไหน? ด้วยนะคะ

Back to top button