BEYOND สำลัก ‘แคดเมียม.!

ข่าวใหญ่น่าสะพรึงช่วงก่อนสงกรานต์ ว่าด้วยเรื่องการพบกากแคดเมียมในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ลามไปชลบุรี และที่เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ รวมกว่า 15,000 ตัน


ข่าวใหญ่น่าสะพรึงช่วงก่อนสงกรานต์ ว่าด้วยเรื่องการพบกากแคดเมียมในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ลามไปชลบุรี และที่เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ รวมกว่า 15,000 ตัน ซึ่งเทศกาลสงกรานต์ผ่านไปแล้ว ดูท่าเรื่องนี้ก็ยังไม่จบง่าย ๆ นะเนี่ย…

ขณะที่ ต้นตอของเรื่องนี้…ชัดเจนมาจากบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND ซึ่งในอดีตทำเหมืองแร่สังกะสี ตะกั่วและทองแดง ในพื้นที่จ.ตาก โดยกากแคดเมียมเป็นแร่โลหะหนักชนิดหนึ่งที่พบจากการทำเหมืองดังกล่าว

ล่าสุด BEYOND ก็ยอมรับว่า “บริษัทเป็นเพียงคู่สัญญากับบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด (เป็นโรงงานแห่งแรกที่พบกากแคดเมียม) ตามสัญญาซื้อขายกากแคดเมียม ฉบับลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เท่านั้น และบริษัทไม่ได้มีส่วนร่วมกับการประกอบกิจการของเจแอนด์บีแต่อย่างใด

ทั้งนี้ บริษัทยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมยุติหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อคลายความกังวลของสาธารณชน อนึ่ง บริษัทจะจัดให้มีการปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาซื้อขายกากแคดเมียมดังกล่าวในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการยุติหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

แม้จะออกมาสารภาพบาปแล้ว แต่หุ้น BEYOND มีแต่ทรุดกับทรุด ตั้งแต่มีข่าวฉาวราคาปรับลงไปแล้วเกือบ 17%

งั้นถ้าจะบอกว่า BEYOND สำลักกากแคดเมียมก็คงไม่ผิดกระไร..??

และจนถึงวันนี้ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่า “กากพิษแคดเมียม” ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง จากจ.ตาก มาโผล่ในพื้นที่สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพฯ ได้ยังไง..?

แหม๊…ถ้าขนด้วยรถซาเล้งก็ว่าไปอย่างที่เจ้าหน้าที่จะไม่รู้ไม่เห็น…แต่นี่เป็นการขนกากแคดเมียม 15,000 ตัน ซึ่งว่ากันว่าต้องใช้รถบรรทุกขนคันละ 25 ตัน รวม 600 เที่ยวเชียวหนา แล้วเจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลจะไม่รู้เห็นเลยเหรอ..? เป็นไปได้ยังไง..???

โอเค…ในแง่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่ปิดหูปิดตา คงต้องไปสืบสาวเอาความกันต่อไป

แต่อีกประเด็นที่น่าสนใจ กากแคดเมียมที่ว่ามันถูกฝังกลบในพื้นที่ไปแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของภาครัฐ หลังจาก PDI ได้ยุติการดำเนินงานของเหมืองแร่ที่จ.ตาก ในปี 2559 เนื่องจากปริมาณแร่สำรองหมดลง และยุติกระบวนการถลุงโลหะสังกะสีในปี 2561

แล้วจู่ ๆ ขุดขึ้นมาอีกทำอิหยัง..?? บ่เข้าใจ๋

ถ้าให้วิเคราะห์อาจมีหลายเหตุผล 1)ในพื้นที่ดังกล่าว มีประมาณ 1,300 ไร่ แบ่งเป็น ที่ตั้งของโรงงาน 200 ไร่ และอีกประมาณ 1,000 ไร่ เป็นพื้นที่ฝังกลบกากอุตสาหกรรม ซึ่งหากพื้นที่ตรงนี้ยังมีกากแคดเมียมอยู่ จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เลย การขุดออกไปก็จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม อาจจะนำพื้นที่ดังกล่าวไปขาย หรือใช้ทำประโยชน์อย่างอื่น..ก็ว่ากันไป

และ 2)ด้วยราคากากแคดเมียมซื้อขายกันที่ตันละ 8,250 บาท ถือว่าไม่น้อยนะ ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้เฉย ๆ ถ้าคิดที่ 15,000 ตัน จะมีมูลค่าราว 123.75 ล้านบาท และหากหลอมเป็นก้อนแล้วส่งขายไปจีน ราคาจะตกตันละ 22,000 หยวน หรือราว 110,000 บาทเลยทีเดียว…เป็นแรงจูงใจของการขุดขึ้นมาอ๊ะป่าว..??

แต่น่าแปลกพื้นที่ไม่ใช่เล็ก ๆ นะ ขุดขึ้นมาได้ยังไง..? แล้วเอาออกมาได้ยังไง..? โดยที่เจ้าของพื้นที่ไม่รู้..?? เอ๊ะ..หรือรู้อยู่แก่ใจ..??

ไม่รู้แหละ จะด้วยเหตุผลอันใด…สุดท้ายกากแคดเมียมดังกล่าวกำลังจะกลับสู่บ้านเกิดแล้วนะออเจ้า

ล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งให้ BEYOND ดำเนินการขนย้ายกากแคดเมียมไปฝังกลบที่จ.ตาก โดยให้เพิ่มจำนวนรถบรรทุกจาก 10 คัน เป็น 30 คัน เพื่อให้สามารถขนย้ายกากแคดเมียมได้ถึง 450 ตันต่อวัน และลดระยะเวลาในการขนย้ายทั้งหมดจากเดิมที่ใช้เวลา 92 วัน ลงเหลือ 36 วัน โดยจะเริ่มทำการเคลื่อนย้ายกากจากพื้นที่จ.สมุทรสาคร กรุงเทพฯ และชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. 2567

เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน…งานนี้ไม่ต่างจากฝันสลายวันดอกฝ้ายบาน..!!

ส่วนใครบ้างที่ฝันสลาย ลองไปคิดดูละกัน..!??

…อิ อิ อิ…

Back to top button