AEONTS คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น

AEONTS โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 4 ปีบัญชี 2566 (สิ้นสุด 29 ก.พ.67) 1.สินเชื่อบัตรเครดิต 68% 2.สินเชื่อบุคคล 23%


คุณค่าบริษัท

บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 4 ปีบัญชี 2566 (สิ้นสุด 29 ก.พ.67) 1.สินเชื่อบัตรเครดิต 68% 2.สินเชื่อบุคคล 23% 3.สินเชื่อเช่าซื้อ 6% 4.สินเชื่ออื่นๆ 3% โครงสร้างรายได้ของ AEONTS ณ สิ้นสุด 29 ก.พ.67 มีสัดส่วนดังนี้ 1.สินเชื่อบุคคล 45% 2.สินเชื่อบัตรเครดิต 36% 3.รายได้อื่นๆ 15% 4.สินเชื่อเช่าซื้อ 5%

AEONTS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปีบัญชี 2566 (สิ้นสุด 29 ก.พ.67) มีกำไรสุทธิ 1,093.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.81% จากไตรมาส 4 ปีบัญชี 2565 (สิ้นสุด 28 ก.พ.66) และเพิ่มขึ้น 54.89% จากไตรมาส 3 ปีบัญชี 2566 (สิ้นสุด 30 พ.ย.66) ที่มีกำไรสุทธิ 706.03 ล้านบาท กำไรไตรมาส 4 สูงกว่าประมาณการของตลาด 48% สาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่ต่ำกว่าคาด 29% จากการปรับโมเดล ECL และการจัดเก็บเงินสดที่ดีขึ้น โดย ECL ลดลง 32% จากไตรมาส 3 ปีบัญชี 2566 และ 34% จากไตรมาส 4 ปีบัญชี 2565 และหนุนให้กำไรเติบโตทั้งเมื่อเทียบไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรอง (PPOP) ลดลงเล็กน้อย จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่อ่อนแอลงตามส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ลดลง

กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรอง (PPOP) อยู่ที่ 2.68 พันล้านบาท ลดลง 4% จากไตรมาส 3 ปีบัญชี 2566 และลดลง 7% จากไตรมาส 4 ปีบัญชี 2565 จากอัตราส่วนต้นทุน/รายได้ที่สูงกว่าคาดที่ 45% เทียบกับประมาณการของบล.กสิกรไทยที่ 43% ส่วนใหญ่มาจาก NII ที่อ่อนแอ สินเชื่อรวมของ AEONTS ลดลง 3% จากไตรมาส 3 ปีบัญชี 2566 และไตรมาส 4 ปีบัญชี 2565 จากสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนแอ อีกทั้งเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อของ AEONTS ที่เข้มงวดมากขึ้น ขณะที่ NIM ลดลงเช่นกันทั้งเมื่อเทียบไตรมาสก่อน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL ratio) ของ AEONTS อยู่ที่ 5.0% ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 6.2% ในไตรมาส 3 ปีบัญชี 2566 และ 5.7% ในไตรมาส 4 ปีบัญชี 2565 อัตราส่วน NPL ต่ำกว่าที่บล.กสิกรไทยคาดไว้ 1.00% เนื่องจาก 1.AEONTS

เปลี่ยนแปลงจำนวนวันในการจัดสถานะลูกค้า จาก 28 วันเป็น 30 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน TFRS9 และ 2.การเก็บเงินสดจากลูกค้าดีขึ้นหลังจาก AEONTS ปรับเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อให้เข้มงวดมากขึ้นในปีที่แล้ว ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ลดลงเป็น 5.61% จาก 8.09% ในไตรมาส 3 ปีบัญชี 2566 และอัตราสำรองต่อหนี้สูญ (coverage ratio) ปรับตัวดีขึ้นเป็น 183% จาก 162% ในไตรมาส 3 ปีบัญชี 2566 ผู้บริหารระบุว่า NPL ratio จะลดลง 0.20% จากไตรมาส 3 ปีบัญชี 2566 หากไม่รวมผลกระทบจากการจัดชั้นสินเชื่อใหม่ในไตรมาสล่าสุด ผู้บริหารตั้งเป้า NPL ratio ที่ 5.5% ในปีบัญชี 2567 เทียบกับ 5.0% ในปีบัญชี 2566 โดยคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์บางส่วนจะด้อยค่าลงจากยอดชำระหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นในปี 2567

ข้อมูลจาก Refinitiv Consensus สำหรับ AEONTS ระบุว่า ประมาณการรายได้รวมปีบัญชี 2567 ที่ 20,629.92 ล้านบาท และประมาณการกำไรสุทธิปีบัญชี 2567 ที่ 3,593.17 ล้านบาท โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 170.29 บาท จาก 7 โบรกเกอร์

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เพิ่มประมาณการกำไรปีบัญชี 67-68 ของ AEONTS ขึ้น 4-7% เพื่อสะท้อนรายได้จากหนี้สูญได้รับคืนที่สูงขึ้นและต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) ที่ลดลง คาดว่าอัตราส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นในครึ่งแรกของปี 2567 เนื่องจากลูกค้าบางรายไม่สามารถชำระหนี้ได้หลังการชำระเงินรายเดือนขั้นต่ำผ่านบัตรเครดิตสูงขึ้นเป็น 8% จาก 5% ขณะที่กำไรและคุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จากการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้น AEONTS ราคาปัจจุบัน (ราคาปิดวันที่ 23 เม.ย.67 ที่ 156.0 บาท) ซื้อขายกันที่ P/E 11.97 เท่า ต่ำกว่า P/E กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ ที่ 17.26 เท่า ส่วนค่า P/BV ของหุ้น AEONTS อยู่ที่ 1.59 เท่า สูงกว่า P/BV กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ ที่ 1.56 เท่า

Back to top button