ไม่ตรงปกนี่หว่า!

เรื่องที่ “โมนิก้า” รู้สึกเบื่อสุด ๆ ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาก็คือ ตลาดหุ้นไทยมักมีลักษณะสวนทางกับการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นประจำ


เรื่องที่ “โมนิก้า” รู้สึกเบื่อสุด ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาก็คือ ตลาดหุ้นไทยมักมีลักษณะสวนทางกับการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นประจำ  แถมกองทุนในประเทศที่พร่ำบอกหุ้นไทยน่าสนใจอย่างนั้น น่าสนใจอย่างนี้ และพยายามโน้มน้าวคนเล่นหุ้นว่า การมาของกองทุน TESGX จะช่วยพยุงหุ้นไทย! แต่บรรดากองทุนตัวแสบกลับรินหุ้นออกมาเป็นระลอกแบบนี้..อิหยังวะ?

นั่นหมายความว่า การเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะผันผวนหนักขึ้น เพราะการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นไทยถูกเดิมพันด้วยเรื่อง กนง.จะประกาศลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เหมือนที่หลายคนคาดหวังจริงไหม? หลังประเด็นดังกล่าวถูกนำขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่จะทำให้หุ้นไทยพุ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,200 จุด “โมนิก้า” จึงรู้สึกบีบคั้นสุด ๆ เมื่อใกล้จะได้เห็นความจริงไงล่ะคะ

ฉะนั้นการที่ตลาดหุ้นไทยเริ่มรวนให้เห็นอีกครั้ง “โมนิก้า” ย่อมไม่สบายใจอย่างแน่นอน หลังดัชนีแสดงอาการขาแข้งอ่อนแรงตั้งแต่เช้า ท่ามกลางหุ้นขนาดใหญ่ยังมีแรงขายออกมาเป็นระลอก ผนวกกับช่วงนี้เป็นจังหวะขึ้นเครื่องหมาย XD แบบรัว ๆ และหุ้นเหล่านั้นไม่เคยวิ่งกลับขึ้นไปเท่ากับราคาก่อน XD อีกเลย แต่ทุกอย่างก็กลับตาลปัตรไปหมด เมื่อเปิดเทรดภาคบ่าย ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิด 1,171.12 จุด บวกไป 11.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.53 หมื่นล้านบาทซะงั้น..ไปต่ออย่างไรล่ะตัวเอง

เหมือนกับในรายของ BDMS ออกอาการเซึ่องซึมร่วมสัปดาห์ และมีความกังวลเกี่ยวกับผลงานไตรมาสแรกไม่เป็นไปตามเป้าแบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า การยืนปิดที่ระดับ 23.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท อาจเป็นเพียงแค่การชะลอตัวในจังหวะขาลง เพราะหุ้นตัวนี้เคยลงไปทำโลว์ที่บริเวณ 21.60 บาทในช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมานี้เองจ้า

ประเด็นข้างต้นเทียบเคียงได้จากการที่ ITC ประกาศงบไตรมาส 1 มีกำไรลดลง 17% มันทำให้ทุกคนเข้าใจสาเหตุที่ราคาหุ้นดำดิ่งเป็นเวลานาน แถมวานนี้โดนจัดหนักตั้งแต่เปิดเทรด จนราคาหุ้นลงไปทำโลว์ที่ระดับ 11 บาท ก่อนประคองตัวปิดไปที่ระดับ 12.80 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 369 ล้านบาท เดี๊ยนบอกได้เลยว่า ยังไม่จบเพียงแค่นี้! เพราะยังมีเทรดวอร์รอซ้ำดาบสองอีกนะจะบอกให้

เมาท์ถึงเรื่องผลงานไม่เป็นตามแผนทีไร “โมนิก้า” มักนึกถึงหุ้น GLOBAL ขึ้นมาทุกที และสาเหตุที่ทำให้นึกถึงก็มาจากสภาพเศรษฐกิจที่ทุกคนยังบ่นไม่หยุดว่า เงียบเหงา! ขณะเดียวกันจะเห็นว่า หุ้นตัวนี้มักติดในกระดาน most loser เมื่อเดี๊ยนเหลือบดูข้อมูล จึงสงสัยว่า การอ่อนตัวลงปิดไปที่ระดับ 6.80 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 139 ล้านบาท อาจเป็นการส่งสัญญาณจะทรุดตัวลงไปที่ 6 บาทอีกรอบอ๊ะป่าว?

อีกรายที่แน่ชัดแล้วว่า ปีนี้ผลงานพลาดเป้าอย่างแน่นอน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นสายการบินสีแดง AAV เพื่อชี้ให้เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวประเทศเวียดนามแซงไทยแบบสบาย ๆ มันคือภาพที่ย้ำหัวหมุดให้เดี๊ยนสำเหนียกถึงเรื่องต้มกบขึ้นมาในบัดดล และหวาดระแวงมากขึ้นว่า อาจได้เห็นหุ้นลงไปโลว์เดิมที่บริเวณ 1.24 บาทอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 1.38 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.40% ดวยมูลค่าการซื้อขาย 65 ล้านบาทน่ะซี

ปิดท้ายกันที่หุ้น AOT เพื่อชี้ให้เห็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่หนักที่เกิดขึ้นคราวนี้ มันเป็นผลมาจากลูกหนี้รายใหญ่ไม่มีปัญญาใช้หนี้ บรรดานักเล่นเลยเก็งกันว่า งบไตรมาส 2 คงเละสุด ๆ และตัวแปรตรงนี้ทำให้การผงกหัวขึ้นอย่างจริงจัง กลายเป็นเรื่องยากในทันที “โมนิก้า” จึงอยากให้นักลงทุนลองประมวลผลจากข้อมูลที่เล่าให้ฟัง..จริงไหม? หลังหุ้นมีแรงฮึดขึ้นมาปิดที่ระดับ 37.50 จุด บวกไป 0.75 จุด หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 พันล้านบาทเจ้าค่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button