เจอกันที่ 1,200 จุด

ทำเอานักลงทุนกระโดด “ลงรถ” แทบไม่ทันกับตลาดหุ้นไทยก่อนหยุดยาว 3 วัน เพราะจากที่โมนิก้าสังเกตการณ์ ทั้งบรรดา “รายเล็ก” และ “เซียนใหญ่” ที่เห็นหุ้น “บิ๊กแคป” แถวหน้าปรับตัวขึ้นแร๊งในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า ทำเอาหลายคนกลั๊วกลัวตกขบวน


ทำเอานักลงทุนกระโดด ลงรถแทบไม่ทันกับตลาดหุ้นไทยก่อนหยุดยาว 3 วัน เพราะจากที่โมนิก้าสังเกตการณ์ ทั้งบรรดารายเล็ก และเซียนใหญ่ที่เห็นหุ้น “บิ๊กแคป แถวหน้าปรับตัวขึ้นแร๊งในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า ทำเอาหลายคนกลั๊วกลัวตกขบวน เลยกระโจนเข้าไปเคาะขวากันรัว ๆ แต่สวรรค์กลับไม่เข้าข้าง ต้องกลับเข้าอีหรอบเดิมซื้อเช้าขายบ่าย ซึ่งจากที่เคยบวกขึ้นไปกว่า 17 จุด ดันดัชนีทะลุ 1,200 จุดได้ให้ใจชื่น! แต่สุดท้ายทำได้เพียงประเดี๋ยวประด๋าวก็เจอแรงขายเทใส่ออกมา ทำเอา SET Index กลับมาบวกแบบกระจิริดแค่ 1.72 จุด ปิดที่ระดับ 1,198.98 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.56 หมื่นล้านบาท เล่นทำให้ไม่ถึงฝั่งฝันอีกเจ้าค่ะ

แม้ตลาดหุ้นบ้านเราจะยังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1,200 จุดอย่างถาวร แต่ในมุมมองของเหล่านักวิเคราะห์บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ยังไง๊…ยังไง SET Index จะไม่กลับไปจุดเดิมที่เคยหลุด 1,100 จุดอย่างแน่นอน!!! จากที่เดี๊ยนได้ไปแคะแกะเกาก็ได้ความว่า น่าจะมีข่าวดีให้ได้เห็นกัน โดยเฉพาะดอกเบี้ยที่คาดว่า กนง.จะปรับลดลงอีกอย่างน้อย 0.25-0.50% ภายในปีนี้ เพื่อให้ต้นทุนการเงินของบริษัทน้อยใหญ่ปรับลดลง เพราะในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า “พายุลูกใหญ่” กำลังจะมาเยือน เห็นจากพี่ใหญ่อย่าง มะกันที่เริ่มเจอเอฟเฟ็กต์จากนโยบายภาษีที่บ้าคลั่งของปู่ “โดนัลด์ ทรัมป์” นั่นเองเพคะ

ในช่วงที่ราคาหุ้นใหญ่ปรับตัวลง แต่ก็ยังมีหุ้นกลุ่มหนึ่งที่เดี๊ยน..แอบเห็นว่าพาเหรดกันขึ้นแบบยกแผง นั้นคือ “หุ้นยางพาราหลังเลื่อนเปิดฤดูกาลกรีดยางออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่ต้องเริ่มเปิดหน้ายางกันเดือนนี้ ทำเอาราคายางรมควันพุ่งไปกิโลละ 70 บาท งานนี้รายใหญ่ยางพาราปักษ์ใต้อย่าง STA ราคาปิดที่ระดับ 14 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 148 ล้านบาท แถมยังจูงมือหุ้นลูกหัวแก้วหัวแหวนอย่าง STGT ขึ้นมาไม่น้อยหน้าปิดที่ระดับ 7.20 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4.35%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 63 ล้านบาทเจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับรายของ  DELTA ยังคงสวมบทซูเปอร์ฮีโร่ช่วยพยุงตลาดหุ้นอยู่เสมอมา ล่าสุดราคายังเหินฟ้าขึ้นมาปิดที่ระดับ 101.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 357% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.85 พันล้านบาท “โมนิก้า” พุ่งเป้าไปยังความคาดหวังว่ารายได้จะเติบโตจากความต้องการสินค้า “AI& Data center ที่ยังร้อนแรง แถมโรงงานใหม่ที่ Wellgrow จ่อเปิดกลางปีนี้ เพิ่มกำลังผลิตรองรับดีมานด์พุ่งปรี๊ด! อ๊ะ ๆ อย่ารอให้ร้อนเกินไป “ทยอยซื้อ” ก่อนจะไม่ทันรถไฟขบวน AI นะจ๊ะอิอิ

ส่วนฟากของ AOT มีแรงเก็งกำไรเข้ามาตั้งแต่เปิดตลาด ดันราคาหุ้นทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุด 42.75 บาท รับข่าวลูกหนี้รายใหญ่คิง เพาเวอร์ ยอมควักกระเป๋าจ่ายค่าสัมปทานค่า Commercial กับ Duty free รวม 1,350 ล้านบาท ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามการฟันธงคอนเฟิร์มของโบรกเกอร์สำนักต่าง ๆ แต่บรรยากาศตลาดหุ้นไทยไม่เต็มใจเท่าที่ควร ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทำกำไรออกมาก่อน จนที่สุดราคาหุ้นลงมาปิดที่ระดับ 38.50 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.46 พันล้านบาท อย่างไรก็ดี “โมนิก้า” อยากให้ติดตามตัวเลขนักท่องเที่ยวกันต่อเพื่อประกอบการลงทุนเพราะมันมีผลต่อราคาระยะถัดไปจ้า

ขยับมาดูกันที่รายของ AMATA กันบ้าง! แม้จะตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้สูงถึง 3,500 ไร่ แต่ในไตรมาสแรกกลับขายไปได้แค่ 8% ของเป้าหมาย งานนี้ทำเอานักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่าจะทะลุเป้าไหวไหม? ยังดีที่มีแบ็กล็อกตุนไว้ 2.10 หมื่นล้านบาท และคาดว่าปีนี้ยังมีลุ้นโชว์กำไรเฉียด 3 พันล้านบาทได้อยู่ ขณะที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 15.80 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 6.76% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 455 ล้านบาท เดี๊ยนมองว่ายังไม่สายที่จะเก็บเพื่อรอขึ้น XD 13 พ.ค.นี้ รับเงินปันผล 0.55 บาทต่อหุ้น แถมนักวิเคราะห์ยังสะบัดปากกาเชียร์ซื้อเป้าหมายสูงลิ่ว 33.60 บาท อยู่เลยจ้า

เมาท์ต่อกันที่ประเด็นแรงสะเทือนวงการโลจิสติกส์ เมื่อ KEX เตรียมอำลาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ หลัง SFTH ผู้ถือหุ้นใหญ่ร่อนหนังสือขอเพิกถอนหุ้น พร้อมเทนเดอร์ส่วนที่เหลือในราคา 1.50 บาทต่อหุ้น งานนี้กูรูรีบสะกิด! เพราะราคานี้คุ้มกว่าเป้า 0.90 บาทหลายขุม แถมแนวโน้มธุรกิจยังดูไม่ค่อยสู้ดี แต่คนที่ยิ้มหวานสุดๆ หนีไม่พ้นรายย่อยสายเก็งกำไร เนื่องจากราคาหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.47 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 19.51% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110 ล้านบาท คงรับทรัพย์กันเป๋าตุงชิมิล่ะ

ปิดท้ายด้วยเรื่องที่ลือกันให้แซ่ดกับบิ๊กล็อตปริศนา 8 รายการรวดของ F&D ด้วยมูลค่าเฉียด 428 ล้านบาท แถมใจป๋าซื้อราคาสูงกว่ากระดานถึง 10% ทำเอาต่อมเผือกสั่นระริก… เพราะงานนี้ส่อแววไม่ธรรมดา โดยผู้ซื้อไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Mr. Chang Chih-Hao เข้าถือไปเต็ม ๆ 62.23% ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่สายฟ้าแลบ ทำเอาราคาหุ้นแอบดีดกลับมาปิดที่ระดับ 58.25 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 6.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 460 ล้านบาท พร้อมเตรียมแจกปันผล 2.50 บาท รับทรัพย์ 9 พ.ค.นี้ “โมนิก้า” ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินทั้งสองขานะเจ้าคะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button