
GC ลูกค้าหาย..กำไรหด.?
จัดเป็นหุ้นไซส์กลาง ๆ ที่ Low Profile แต่ High Dividend Yield ก็ว่าได้ สำหรับบริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GC
จัดเป็นหุ้นไซส์กลาง ๆ ที่ Low Profile แต่ High Dividend Yield ก็ว่าได้ สำหรับบริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GC ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่องกับพลาสติกและปิโตรเคมี รวมถึงสารเติมแต่งที่ใช้ในกระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์พลาสติก และปิโตรเคมีอื่น ๆ
ที่ผ่านมาเราแทบจะไม่เห็นข่าวสารและความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับหุ้นตัวนี้เลย แต่พอไปส่องผลการดำเนินงานไม่ธรรมดาแฮะ ทั้งรายได้และกำไรถือว่ามีเสถียรภาพทีเดียว…โดยในปี 2564 มีรายได้รวม 4,999.93 ล้านบาท กำไรสุทธิ 189.13 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้รวม 5,532.09 ล้านบาท กำไรสุทธิ 163.37 ล้านบาท ปี 2566 มีรายได้รวม 5,111.30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 186.29 ล้านบาท และปี 2567 มีรายได้รวม 5,921.90 ล้านบาท กำไรสุทธิ 190.70 ล้านบาท
ขณะที่ประเดิมไตรมาสแรกปี 2568 ด้วยรายได้ 1,343.60 ล้านบาท กำไรสุทธิ 50.60 ล้านบาท
แม้อัตรากำไรสุทธิจะบางไปหน่อย เฉลี่ยอยู่ที่ 2-3% แต่ ROA (อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 13-14% และ ROE (อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 30% ถือว่าใช้ได้ แถมอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนก็ค่อนข้างสูง ดิวิเดนด์ยีลด์เฉลี่ยอยู่ที่ 6-7% ต่อปี ล่าสุดยีลด์ปาไป 9.71% แล้วนะ
หันไปดูราคาหุ้นก็ยืนแข็งอยู่ที่ 4 บาทปลาย ๆ มาโดยตลอด บางครั้งอาจได้เห็นทะลุ 5 บาทบ้างเป็นบางครั้งบางคราว…
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ทรงดี…แต่น่าเป็นห่วงว่าหลังจากนี้ GC จะยังเก็บทรงได้อีกอ๊ะป่าว..??
เพราะล่าสุดมีข่าวร้ายเข้ามากระแทกอย่างจัง จากการยุติบทบาทการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา
ให้แปลไทยเป็นไทยก็ถูกยกเลิกสัญญานั่นแหละ…
ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายยกเลิกใครก่อนกัน…แต่ถ้าให้เดาน่าจะเป็นฝ่าย PTTGC ที่บอกเลิกสัญญาละมั๊ง…??
ซึ่งงานนี้ไม่ส่งผลดีต่อ GC แน่ ๆ เพราะจะทำให้ยอดขายหายวั๊บไปกับตาราว 5-10%
แม้ GC จะป่าวประกาศว่า “การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าสามารถจัดหาสินค้าที่มีคุณภาพเทียบเคียงจากผู้ผลิตชั้นนำ และเป็นโอกาสที่เปิดกว้าง สร้างทางเลือกที่หลากหลาย ยกระดับการบริการ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพร่วมกันอย่างต่อเนื่อง”
แต่ถ้าไม่โลกสวยจนเกินไป…ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญแรงกดดันจากภาษีการค้าสหรัฐฯ อย่างนี้ การหาผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาทดแทน PTTGC ก็คงไม่ง่ายนักหรอก..??
งั้นปีนี้ก็น่าจะเห็นรายได้และกำไรของ GC ดรอปลงน่ะสิ…
ทว่าเห็นเคสของ GC แล้ว ก็อดจินตนาการไปไม่ได้ว่าการที่กลุ่มปตท.ทยอยบอกเลิกสัญญาคู่ค้าและซัพพลายเออร์อย่างนี้ เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือเปล่า..??
อย่าลืมว่า ช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC ก็ถูกบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ไม่ต่ออายุสัญญาใช้บริการคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ไปเช่นกัน…
ดูแนวโน้มแล้วน่าจะเห็นการบอกเลิกสัญญาของกลุ่มปตท.ตามมาอีกนะเนี่ย…
ใครที่ทำมาหากินอยู่กับกลุ่มปตท.ก็อย่าชะล่าใจไป..วันดีคืนดีกลุ่มปตท.ไม่ต่อสัญญาขึ้นมาละแย่เลย…ก็ควรเตรียมทางหนีทีไล่เผื่อไว้บ้างก็ดีนะ…
แหม๊…ชักเป็นห่วงบริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ของ “กลุ่มนทลิน” ที่เกาะกินบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มานานหลายชั่วโคตรแล้วสิ…ไม่รู้จะแจ็กพอตวันไหน..??
แต่ว่ากันว่ากลุ่มนี้สายแข็งนะจิบอกให้…
กลับมาที่ GC แม้จะมีสตอรี่เชิงลบเข้ามาฉุดรั้ง แต่ถ้าใครยังรักชอบหุ้นตัวนี้…ก็ไม่ว่ากัน
เลือกที่รักมักที่ชังล่ะกัน…
…อิ อิ อิ…