HANA ภาษีนำเข้าสหรัฐกดดันอุปสงค์

HANA โครงสร้างรายได้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 1. โทรคมนาคม 25% 2. ผลิตภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรม 25% 3. รถยนต์ 19% 4. RFID 13% 5. อื่น ๆ 18%


คุณค่าบริษัท

บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA โครงสร้างรายได้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 1. โทรคมนาคม 25% 2. ผลิตภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรม 25% 3. รถยนต์ 19% 4. RFID 13% 5. อื่น ๆ 18% สัดส่วนยอดขายรายประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 1. สหรัฐอเมริกา 26% 2. สิงคโปร์ 20% 3. มาเลเซีย 13% 4. จีน 11% 5. อื่น ๆ 30%

HANA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 มีกำไรสุทธิ 478.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.65% จากไตรมาส 1/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 313.2 ล้านบาท และเทียบกับไตรมาส 4/2567 ที่ขาดทุนสุทธิ 1,729.11 ล้านบาท กำไรไตรมาส 1 สูงกว่าประมาณการเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ หรือ consensus 116% เนื่องจากมีการบันทึกรายได้อื่นค่อนข้างสูงที่ 340 ล้านบาทในไตรมาส 1/2568 (ไตรมาส 1/2567 ที่ 95 ล้านบาท และไตรมาส 4/2567 ที่ 71 ล้านบาท) ซึ่งโดยหลักเกิดจากรายได้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับ FT1 (บริษัท JV ร่วมกับ PTT) จำนวน 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 238 ล้านบาท กำไรปกติไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 220 ล้านบาท ลดลง 40% จากไตรมาส 1/2567 เพราะได้รับผลกระทบจากความต้องการสินค้าโดยรวมที่ชะลอตัวลง

รายได้รวม อยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท ลดลง 17.6% เมื่อเทียบไตรมาส 1/2567 และ 5.9% เมื่อเทียบไตรมาส 4/2567 จากทุกธุรกิจ ซึ่งรวมถึงรายได้ที่ลดลง 15.4% จากไตรมาส 1/2567 จากธุรกิจ PCBA รายได้ที่ลดลง 20.5% จากไตรมาส 1/2567 ในธุรกิจ IC (OSAT) และรายได้ที่ลดลง 14.6% จากไตรมาส 1/2567 ในธุรกิจ Micro Display จากความต้องการสินค้าที่ชะลอตัวลง โดยอัตรากำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานปกติของ HANA ยังคงอยู่ในระดับตํ่าที่ 5.6% ในไตรมาส 1/2568 เทียบกับ 10.8% ในไตรมาส 1/2567 และ 5.3% ในไตรมาส 4/2567 ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่อ่อนแอ และต้นทุนคงที่สูง

HANA เปิดเผยว่ายอดส่งออกโดยตรงไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12% ของยอดขายทั้งหมด ในขณะที่ยอดขายทางอ้อมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายให้กับลูกค้าในประเทศอื่น ๆ ที่ายที่สุดแล้ว จะส่งไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 31%

ซึ่งทำให้มีรายได้ที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 43% ซึ่งถือเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง แม้ว่าตัวเซมิคอนดักเตอร์เองจะได้รับยกเว้นจากภาษีศุลกากรตอบโต้ แต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ นั้นได้รับผลกระทบ โดย HANA กล่าวว่าลูกค้ามีความกังวลเกียวกับภาษีศุลกากร ทำให้ความต้องการและคำสังซื้อลดลง แม้ว่าในไตรมาส 2/2568 อาจมีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน แต่แนวโน้มยังคงมีความท้าทายอยู่มาก

บล.กสิกรไทยมองเห็นความท้าทายต่อแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2568 และครึ่งปีหลังของปี 2568 แม้ว่าการดำเนินงานในไทยจะค่อนข้างทรงตัว โดยยอดขายไตรมาส 1/2568 ลดลงเพียง 6% เมื่อเทียบไตรมาส 1/2567 แต่ความกังวลหลักอยู่ที่โรงงานเจียซิงในจีนซึ่งรายได้ลดลง 45% จากไตรมาส 1/2567 ผู้บริหารระบุว่าลูกค้ารายใหญ่หลายรายกำลังมองพิจารณาย้าย

ฐานการผลิตออกจากจีน เนื่องจากความเสี่ยงด้านการค้าที่เพิ่มขึ้น

ข้อมูลจาก LSEG Consensus สำหรับ HANA ระบุว่า ประมาณการรายได้รวมปี 2568 ที่ 23,991.35 ล้านบาท และประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 1,341.50 ล้านบาท โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 24.92 บาท จาก 9 โบรกเกอร์

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดว่ากำไรปกติไตรมาส 2/2568 ของ HANA จะลดลงเมื่อเทียบไตรมาส 2/2567 และทรงตัวเมื่อเทียบไตรมาส 1/2568 ซึ่งสอดคล้องกับที่บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 2/2568 จะอยู่ในระดับทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน (แต่ยังคงลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงอยู่ในระดับตํ่าในไตรมาส 2/2568

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้น HANA ราคาปัจจุบัน (ราคาปิดวันที่ 1 ก.ค. 2568 ที่ 20.00 บาท) เทรดที่ P/E คำนวณไม่ได้เนื่องจากขาดทุนสุทธิ เทียบกับ P/E กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ 55.45 เท่า ส่วนค่า P/BV ของหุ้น HANA อยู่ที่ 0.64 เท่า ต่ำกว่า P/BV กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ 8.23 เท่า

Back to top button